Full Version ศรัทธาล้นประเทศชีวิตบารมี คำสอนหลวงพ่อคูณ

สำนักงานสอบบัญชี พี แอนด์ อี,สำนักงานบัญชี พี.เอ็ม.เอส.,คณะบุคคลที่ปรึกษา พี.เอ.ที.,#สำนักงานบัญชี,#ผู้สอบบัญชี,#ผู้ทำบัญชี,#สำนักงานบัญชี,#ที่ปรึกษาบัญชี,#ที่ปรึกษาภาษี,#สอบบัญชี,#ผู้สอบบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,#สำนักงานบัญชี > Article

ศรัทธาล้นประเทศชีวิตบารมี คำสอนหลวงพ่อคูณ Date : 2015-05-17 23:59:39

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...กองบรรณาธิการโพสต์ทูเดย์

หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ หรือ พระเทพวิทยาคม เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มรณภาพเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 พ.ค. 2558 สิริอายุรวม 92 ปี 71 พรรษา

การมรณภาพพระเถระที่เป็นที่เคารพศรัทธา จึงเป็นความอาลัยแก่ประชาชนชาวไทย ชาวพุทธทั่วไป ในขณะที่คณะสงฆ์ถือว่าเป็นความสูญเสียพระมหาเถระที่เป็นสังฆโสภณรูปหนึ่ง

สังคมชาวพุทธในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาให้การยอมรับและยกย่องหลวงพ่อคูณ ในฐานะพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของ จ.นครราชสีมา ที่มากด้วยเมตตา มีปฏิปทาที่ไม่เสแสร้ง เช่น การนั่งยอง หรือการพูดด้วยภาษาโบราณใช้คำว่า “กู-มึง” และพูดตรงๆ มีความจริงใจ ไม่โอ้อวด หรือไม่แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ผู้คนเข้าใจผิดติดในอวิชชา

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของหลวงพ่อคูณอีกอย่าง คือ การใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เคาะศีรษะ เพื่อแผ่เมตตาให้พรกับผู้ทำบุญ ให้เกิดมงคลกับผู้ไปหาแทนที่จะใช้การพรมน้ำมนต์เหมือนพระสงฆ์ทั่วไป

หลวงพ่อคูณ เป็นพระนักเทศน์สอนประชาชนด้วยคำง่ายๆ แต่ได้เนื้อหาธรรมะอันลึกซึ้ง ด้วยจริยวัตรที่เรียบง่ายและเป็นกันเอง จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชนในประเทศ รวมถึงมีศิษยานุศิษย์ชาวต่างชาติจำนวนมาก ทั้งที่มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่คนธรรมดาสามัญถึงไฮโซ

โดยเฉพาะนักการเมืองในจังหวัดทั้งหลายที่มาพึ่งบารมี อาทิ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี สืบทอดมาถึง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ยังรวมถึงนักการเมืองชื่อดังหลายพรรค ไม่เว้นแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

การมาขอพรของเหล่านักการเมืองหลายครั้งหนักถึงขั้นขอให้เป็นนายกรัฐมนตรี หลวงพ่อคูณให้พรไปว่า “เออ กูขอให้มึงได้เป็นสมใจเถิด ไอ้นายเอ๊ย” ครั้งหนึ่งนักข่าวถามหลวงพ่อคูณว่า “เก้าอี้นายกรัฐมนตรีมีตัวเดียว แต่หลวงพ่อให้ทุกคนที่มาขอได้เป็นหมด จะเป็นไปได้หรือ” หลวงพ่อคูณก็ตอบว่า “เออ มันขอพรกับกู กูก็ให้พรกับมัน อยากให้มันสมหวัง แต่ว่ามันจะได้เป็นหรือไม่นั้น กูไม่รู้ดอก นอกจาก ประชาชนจะเลือกมันเท่านั้น”

หลวงพ่อคูณ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค. 2466 ที่บ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในครอบครัวของชาวไร่ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน มารดาคือ นางทองขาว เล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่า ก่อนตั้งครรภ์ กลางดึกเวลาตี 3 นางได้ฝันเห็นเทพองค์หนึ่ง มีกายเรืองแสงงดงาม ลอยลงมาจากสวรรค์และกล่าวว่า “เจ้าและสามีเป็นผู้มีศีลธรรม เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งปวง สร้างคุณงามความดีมาตลอดหลายชาติ เราขออำนวยพรให้เจ้าและครอบครัวมีแต่ความสุขสวัสดิ์ตลอดไป”

บิดามารดาของหลวงพ่อคูณได้เสียชีวิตลงในขณะที่ลูกทั้ง 3 คนยังเป็นเด็ก ในวัย 6 ขวบ หลวงพ่อคูณได้เข้าเรียนหนังสือ กับพระอาจารย์เชื่อม วิรโช พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หลี พระอาจารย์ทั้งสามยังมีเมตตาอบรมสั่งสอนวิชา คาถาอาคม เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ให้แก่หลวงพ่อคูณด้วย

กระทั่งหลวงพ่อคูณได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด เมื่อปี 2487 ได้ฉายาว่า ปริสุทโธ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด หลวงพ่อแดง เป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ

หลวงพ่อแดงพาหลวงพ่อคูณไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อคง พุทธสโร ซึ่งหลวงพ่อทั้งสองรูปนี้เป็นเพื่อนกันต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกัน มักแลกเปลี่ยนธรรมะ ตลอดจนวิชาอาคมแก่กันเสมอ ก่อนที่หลวงพ่อคงได้แนะนำให้หลวงพ่อคูณออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขา จนกระทั่งหลวงพ่อคูณได้จาริกออกไปไกลถึงประเทศลาวและกัมพูชา มุ่งเข้าสู่ป่าลึก เพื่อทำความเพียรให้หลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา ก่อนที่หลวงพ่อคูณจะเดินทางกลับ
บ้านเกิดที่บ้านไร่ และเริ่มสร้างถาวรวัตถุ อุโบสถ กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ และสร้างโรงเรียนเพื่อเด็กบ้านไร่

ด้วยความที่ท่านอุทิศชีวิตทำงานเพื่อสาธารณะ ทั้งด้านสังคมและการศึกษา เป็นต้นแบบพระเกจิที่รับเพื่อให้ จึงเห็นผู้ที่ถวายปัจจัยหลวงพ่อคูณ จะได้รับคืนมาครึ่งหนึ่งทุกคน ส่วนที่รับไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อให้สังคมและสร้างสาธารณประโยชน์ จนหลวงพ่อคูณเป็นที่ยอมรับของสังคมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาคารราชการโรงพยาบาล วัด ที่ว่าการอำเภอ โรงเรียนตั้งแต่ระดับประถม มัธยม หลายแห่งใน จ.นครราชสีมา เป็นการบริจาคของหลวงพ่อคูณนอกจากนี้ หลวงพ่อคูณยังมอบปัจจัยให้ สปป.ลาว นำไปสนับสนุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรในรูปแบบต่างๆ เป็นประจำ และท่านยังมอบทุนการศึกษาให้ลูกหลานชาวโคราชอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมอบเงินสร้างมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ หลวงพ่อคูณยังเคยทูลเกล้าฯ ถวายเงินกว่า 100 ล้านบาท แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้ตามพระราชอัธยาศัยอีกด้วย

การให้ของหลวงพ่อคูณเป็นแบบอย่างให้พระเกจิทั้งหลาย แม้ว่าจะไม่มีให้เป็นร้อยล้านพันล้านเหมือนหลวงพ่อคูณ แต่ถ้าเริ่มให้ก็เป็นการยอมรับของสาธารณะแล้วว่าไม่ได้รับเพื่อตน แต่รับเพื่อให้ ตามหลักของการสร้างทานบารมี ที่ไม่มีใครละเลย

คำสอนที่ตรงไปตรงมา เรียบง่าย หลวงพ่อคูณได้รับฉายาว่า “ปราชญ์แห่งที่ราบสูง” จากที่ได้กล่าวเตือนสติบุคคลหลายสาขาอาชีพ ทั้งข้าราชการ นักการเมือง

“กูต้องพูดออกมา ออกมาเทศน์เตือนสติกันอยู่บ่อยๆ เพราะว่าหลายคนนั้นฟังชนิดที่เรียกว่า เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แล้วเลยไปเข้าหูไอ้ตูบ มิฉะนั้นนักการเมืองโกงชาติจะเพิ่มขึ้น คนผลิต คนค้า และคนเสพยาบ้ากันมากขึ้น เมื่อมีคนชั่วอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง พระอย่างกูอาจจะไม่มีคนใส่บาตรข้าวให้กิน กูอาจจะไม่มีที่ซุกหัวนอน ที่ร้ายไปกว่านั้นอาจไม่มีวัดให้อยู่ก็อาจเป็นได้”

“นักการเมืองมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ไม่แตกต่างกับพวกข้าราชการ แต่นักการเมืองเขากลับทำตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เขาปกครองข้าราชการทุกระดับ ถ้าใครไม่ทำงานสนองนโยบาย หรือไปขวางทางกินมัน มันก็เด้ง มันก็ย้ายให้ไปอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ชนิดไม่ให้เห็นดาวเดือนกันเลยทีเดียว”

อีกหลายคำคมที่ผู้คนนึกถึง ไม่ว่า “กูให้มึง” “กูทำดี เขาจึงให้ของดีกูมา” “กูไม่เคยยินดียินร้ายในลาภยศสรรเสริญ” “กูดีใจที่เกิดมาเป็นคนจน เพราะได้สร้างทานบารมี ถ้ากูเกิดมาเป็นคนรวยป่านนี้คำว่าบุญก็ไม่รู้จักกัน” “เงินเป็นทาสกู กูไม่ยอมเป็นทาสเงิน” “การทำตัวให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่นั้นง่าย แต่จะสร้างสมบุญให้มีบารมีนั้นเป็นเรื่องยาก”

การให้ของหลวงพ่อคูณเป็นการให้เพื่อสร้างสิ่งดีๆ ที่ไม่สิ้นสุด สมกับภาษิตโบราณที่ว่า อยู่เพื่อตัว อยู่แค่สิ้นลม อยู่เพื่อสังคม อยู่ชั่วฟ้าดินสลาย แม้แต่ชีวิตสุดท้ายยังบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นไว้ศึกษาด้วย


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน


ความคิดเห็น