ตามที่ได้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัท ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป สาระสำคัญของการแก้ไขเป็นเรื่องที่ ผู้ประกอบธุรกิจจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอนช่วยส่งเสริมการจัดตั้งธุรกิจ และเพิ่มความน่าเชื่อถือในการติดต่อทำธุรกิจการค้า
สรุปประเด็นสำคัญ มีดังต่อไปนี้
1. มาตรการเพิ่มความสะดวกรวดเร็วแก่ธุรกิจ
1.1ลดจำนวนผู้เริ่มก่อการตั้งบริษัทจาก 7 คน เหลือเพียง 3 คน และ สามารถจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ และจัดตั้งบริษัทภายในวันเดียวกัน(จากเดิมที่ต้องแยกการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิก่อนแล้วจึงออก หนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท โดยต้องบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน หลังการประชุมแล้วจึงมาขอจดทะเบียน ตั้งบริษัทได้)
1.2สามารถแปรสภาพห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทจำกัด โดยใช้ชื่อเดิมได้ (จากเดิมหากต้องการเปลี่ยนเป็นบริษัทจะต้องจดทะเบียนเลิกห้างแล้วจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ และ ไม่สามารถใช้ชื่อเดิมของห้างเพื่อการจัดตั้งบริษัทได้)
1.3การประชุมใหญ่เพื่อให้เป็นมติพิเศษตามกฎหมายเดิมกำหนดให้ต้องประชุมสองครั้ง แก้ไขให้ประชุม เพียงครั้งเดียว
1.4ลดการประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ ในกรณีต้องการลดทุนและควบบริษัท จากเดิมต้องลง 7 ครั้ง เหลือเพียงครั้งเดียว และลดระยะเวลาการคัดค้านของเจ้าหนี้ลงด้วยนอกจากนั้นยังลดการประกาศโฆษณา ทางหน้าหนังสือพิมพ์ในเรื่องอื่น ๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้จากเดิมสองครั้งเหลือเพียงครั้งเดียวทั้งหมด
1.5ยกเลิกการส่งหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับฉบับตีพิมพ์ต่อนายทะเบียน
2. มาตรการเพิ่มความน่าเชื่อถือในการลงทุนและติดต่อธุรกิจการค้า
2.1บริษัทจำกัดที่จัดตั้งแล้วหากมีการบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่จะต้องลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ อย่างน้อยหนึ่งครั้ง และต้องส่งทางไปรษณีย์ตอบรับด้วย เพื่อเป็นมาตรการรักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้น (ทั้งนี้เดิมกำหนดให้เรียกประชุมโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้)
2.2กำหนดให้นายทะเบียนมีอำนาจขีดชื่อห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลออกจากทะเบียนเป็นห้างร้างได้ (จากเดิมดำเนินการได้เฉพาะบริษัทจำกัดเท่านั้น)
2.3กำหนดให้ห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนสิ้นสภาพนิติบุคคล และไม่สามารถตั้ง ผู้ชำระบัญชีเพื่อชำระสะสางทรัพย์สินหนี้สินของตนอีกต่อไปแต่อาจร้องขอต่อศาลเพื่อสั่งให้นายทะเบียน จดชื่อคืนสู่ทะเบียนได้ ทั้งนี้ต้องร้องขอภายในสิบปีนับแต่วันถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนเนื่องจากการแก้ไข ประเด็นกฎหมายดังกล่าวมีผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ และความรับผิดของผู้ประกอบธุรกิจ และนายทะเบียน ห้างหุ้นส่วนบริษัท บุคคลที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องทราบและดำเนินการให้ถูกต้อง มิิฉะนั้นอาจมีผลให้การยื่นขอ จดทะเบียนในกรณีต่าง ๆ มีปัญหาการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัทดังกล่าวข้างต้น เป็นการเปลี่ยนแปลง
บทบัญญัติที่ใช้มานานตั้งแต่ พ.ศ. 2472 หรือประมาณ 79 ปี อันจะเป็นผลทำให้การจัดตั้ง และการดำเนินธุรกิจ ในประเทศไทยมีความสะดวกคล่องตัวและมีข้อมูลทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือในการติดต่อค้าขายต่อไป
จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ รวมทั้งการอบรมสัมนา ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องและนายทะเบียน โดยขอให้ดำเนินการทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้
******************************************************
จาก : กรมพัฒนาธุึรกิจการค้า