คำกล่าวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในโอกาสเป็นประธานมอบรางวัลประกวดเรียงความเรื่อง "ฉันรักคนดี ฉันเกลียดคนโกง"

คำกล่าวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในโอกาสเป็นประธานมอบรางวัลประกวดเรียงความเรื่อง "ฉันรักคนดี ฉันเกลียดคนโกง"
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2548 ณ หอประชุมกองทัพบก

        การมารวมตัวกันวันนี้ แสดงให้เห็นว่าทุกคนอยากเป็นคนดี และเกลียดคนโกง ซึ่งการที่หลายฝ่ายมาร่วมมือกัน เพราะเห็นว่าประเทศของเรายังมีปัญหาเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวง และอยากจะช่วยกันทำปัญหานี้ให้คลี่คลายลงไปได้ ซึ่งถ้าทุกคนเห็นความสำคัญ จะทำให้ปัญหานี้ลดน้อยลงไปได้ โดยเฉพาะข้าราชการ จำเป็นต้องประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนอื่นๆ เราทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่ ทั้งข้าราชการและนักธุรกิจ จะต้องดูแลปัญหานี้อย่างจริงจัง และแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่า จะเป็นผู้นำในการต่อสู้กับปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เป็นภัยร้ายแรงต่อชาติบ้านเมือง เพราะถ้าเราเมินเฉย จะถูกตำหนิด้วยว่าไม่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ไม่เห็นแก่เด็กๆ
จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องดูแลปัญหานี้
        ปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญมาก ปัญหานี้ทำให้คนไทยยากจน ความยากจนของคนไทยเกิดจากปัญหาที่มีคนไม่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง แล้วโกงพวกเราเคยได้รับฟังพระราชดำรัสพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เคยพระราชทานในโอกาสต่างๆ จำนวนมาก ฟังแล้วก็เข้าใจแต่ไม่ค่อยมีคนนำไปปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติเพียงชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็ลืม พระบรมราโชวาทเป็นสิ่งสะอาด บริสุทธิ์และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเราน้อมนำไปปฏิบัติตาม จะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติด้วย การที่เราฟังพระบรมราโชวาท แล้วปล่อยให้ผู้คนรอบตัวประพฤติมิชอบ ประพฤติไม่สุจริต ความซื่อสัตย์สุจริตจะไม่เกิดขึ้น หรือ
เกิดขึ้นเฉพาะตัวเราเอง พระพุทธเจ้าสั่งสอนว่า กิเลสคือความชั่วร้ายที่จะทำให้เราประพฤติในสิ่งไม่ดี กิเลสต้องแก้ไขด้วยหิริโอตัปปะ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีความเข้าใจในเรื่องนี้
        พระบรมราโชวาท ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับเรื่องคนดีและคนไม่ดี ที่ได้
พระราชทานไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2512 ถือเป็นเวลา 36 ปีมาแล้ว แต่งยังทันสมัยอยู่เสมอ และจะทันสมัยตลอดไป
พระบรมราโชวาทดังกล่าว ระบุว่า ในบ้านเมืองของเรานั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำบ้านเมืองให้มีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองชาติบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้อำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
        พระบรมราโชวาทดังกล่าวเป็นคำที่เข้าใจง่าย แต่มีความหมายลึกซึ้งมาก ถ้าพวกเราเพียงแต่เชื่อพระองค์ท่านว่า ในชาติบ้านเมืองของเราต้องมีคนไม่ดี แต่เราต้องป้องกันคนไม่ดีไม่ให้มายุ่งวุ่นวายกับชาติบ้านเมืองของเรา ทำได้แค่นี้ คนไม่ดีก็จะไม่มาวุ่นวายกับเรา ก็จะไปอยู่ตามเรื่องของเขา บ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจกับเด็ก ๆ ว่าคนไม่ดี เราทำให้เขาดีไม่ได้หรอก แต่อยากให้เขามายุ่งกับเรา ให้เขาอยู่ในส่วนของคนไม่ดี ให้อยู่ในเรือนจำ หรือในสถานที่ไม่ดี
        ส่วนการปลูกจิตสำนึกสมาชิกของสังคมทุกเพศ ทุกวัย ทุกหมู่เหล่า เรื่องคุณธรรม จริยธรรม
ถือเป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่ง ดังนั้น อยากให้พวกเราเริ่มต้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริตจากตัวเราเองเอง แล้วขยายไปสู่คนรอบข้างให้กว้างขวางมากที่สุด เพื่อเป็นการขยายพื้นที่สีขาวให้เกิดขึ้นในประเทศ
        ยินดีให้ความร่วมมือ เพราะเกลียดคนโกงมากที่สุด มากเท่าๆ กับที่ทุกคนเกลียด เพราะคนโกง คือ คนไม่รักชาติบ้านเมือง คนโกงคือ คนที่ฉุดไม่ให้ชาติบ้านเมืองของเราพัฒนาไปในทางที่ควรจะเป็นให้ได้รวดเร็ว คนโกงเป็นคนที่ทำให้สังคมนี้ยุ่งยาก การที่ทุกคนร่วมมือกันในเรื่องนี้ จึงเป็นสิ่งที่กำลังทำให้เกิดคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิดอย่างน่าชื่นชมยินดี และขอให้ทุกคนภาคภูมิใจในตัวเองที่กำลังทำสิ่งที่ดีที่สุด

                                   ที่มา หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2548

เมนู

บทความ

สมัครงาน

สมาชิก

ลิงค์