พาณิชย์แก้ไขกฎหมายหุ้นส่วนบริษัท เพิ่มความสะดวกในการจัดตั้งธุรกิจได้ภายในวันเดียว
กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัท
เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการจัดตั้งธุรกิจและสร้างความน่าเชื่อถือในการติดต่อ
ธุรกิจการค้า
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พันตำรวจโทบรรรยิน ตั้งภากรณ์) เปิดเผยว่า
กระทรวงพาณิชย์ ได้ผลักดันแก้ไขกฎหมายที่สร้างภาระโดยไม่จำเป็นแก่ประชาชนและก่อให้เกิด
ความยุ่งยาก ซ้ำซ้อน และล่าช้าต่อการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการรวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการเสริม
สร้างศักย-ภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยอันดับแรกได้แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัทเพื่อให้การดำเนินกิจการค้าในรูปแบบของห้างหุ้นส่วน และบริษัทมีความคล่องตัว
มากยิ่งขึ้นซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป
สาระสำคัญของการแก้ไข ประกอบด้วยมาตรการสำคัญ โดยสรุป ดังนี้
- มาตรการเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว แก่ธุรกิจ อาทิ จัดตั้งบริษัทจำกัด
มีความคล่องตัวมากขี้น สามารถจัดตั้งได้ภายในวันเดียว โดย ลดจำนวนผู้เริ่มก่อการตั้ง
บริษัทจาก 7 คน เหลือเพียง 3 คน และลดขั้นตอนการจดทะเบียน ให้จดทะเบียนหนังสือ
บริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัทภายในวันเดียวกัน นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดเล็กสามารถปรับตัว
เป็นขนาดใหญ่ขึ้นได้อย่างสะดวกมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องจดเลิกและชำระบัญชีธุรกิจเดิมและ
มาจัดตั้งใหม่โดยสามารถแปรสภาพห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็น
บริษัทจำกัดโดยใช้ชื่อเดิมได้ ตลอดจน แก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการประชุมลงมติพิเศษของ
บริษัทให้เหลือเพียงครั้งเดียว รวมทั้ง ลดการประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ เพื่อให้เกิด
ความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น และยกเลิกการส่งหนังสือบริคณห์สนธิและ
ข้อบังคับฉบับตีพิมพ์ต่อนายทะเบียน
- มาตรการเพิ่มความน่าเชื่อถือในการลงทุนและติดต่อธุรกิจการค้า
โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งให้ส่งหนังสือนัดประชุมทางไปรษณีย์
ตอบรับและจะต้องประกาศโฆษณาหนังสือพิมพ์อย่างน้อยหนึ่งครั้งควบคู่กันไปด้วย และ แก้ไข
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการประกาศจ่ายเงินปันผลเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
สามารถถอนห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ทิ้งร้างไม่ได้ประกอบ
กิจการออกจากทะเบียนเช่นเดียวกับบริษัทได้และกำหนดให้ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด
สิ้นสภาพนิติบุคคลตั้งแต่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นต้นไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขกฎหมาย
ดังกล่าวมีผลกระทบต่อสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ประกอบธุรกิจ
และนายทะเบียน ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ รวมทั้งจัดอบรมสัมมนาผู้ประกอบธุรกิจ
ผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และนายทะเบียน ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค
ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่www.dbd.go.th หรือ สอบถามได้ที่ส่วนส่งเสริมและพัฒนา
การจดทะเบียน สำนักทะเบียนธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
โทร. 02-547-4940
ที่มา : สำนักทะเบียนธุรกิจ ฉบับที่ 35 / 16 พฤษภาคม 2551
ความคิดเห็น