ระบบภาษีอากรที่นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยากเห็น
รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนโยบายภาษี
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
จากหนังสือ “ร้อยฝัน วันฟ้าใหม่” ของนายกรัฐมนตรี นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กล่าวถึง 100 ปณิธานการเมืองที่สำคัญของนายกรัฐมนตรี ซึ่งรวบรวมแนวความคิดจากข้อเขียน ปาฐกถา บรรยาย อภิปราย ปราศรัย และข้อคิด ตลอด 15 ปีนับตั้งแต่ก้าวสู่ถนนการเมือง เพื่อบอกถึงอุดมการณ์และเจตนาที่แน่วแน่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการสร้าง สังคมไทยในอุดมคติ ทั้ง ด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
หนึ่งในร้อยปณิธานของนายกรัฐมนตรีที่จะขอนำมาเล่าในที่นี้ คือ ระบบภาษีอากรของประเทศไทย
1. ภาษีที่ง่าย ก้าวหน้า และเป็นธรรม เพิ่มรายได้ เป็น ปณิธานที่นายกรัฐมนตรีอยากเห็นโดยกล่าวว่า หากฝันอยากจะสร้างระบบสวัสดิการที่ดีให้แก่คนของเราจริง ๆ เราก็ต้องพัฒนาในเรื่องการจัดเก็บภาษี ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐด้วย โดยจะต้องเก็บภาษีในอัตราที่ก้าวหน้า เต็มเม็ดเต็มหน่วย
นายก รัฐมนตรีได้กล่าวถึงระบบภาษีในปัจจุบันว่า การจัดเก็บภาษีในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นการจัดเก็บภาษีทางอ้อม ทำให้คนจนแบกรับภาระในอัตราสูงกว่าคนรวย ในขณะที่ภาษีทางตรง เช่น ภาษีเงินได้ ซึ่งมีอัตราก้าวหน้าและมีความเป็นธรรมในสังคมมากกว่า ยังคงมีสัดส่วนต่ำเมื่อคิดต่อรายได้ของรัฐทั้งหมด
อย่าง ไรก็ตาม ในโลกของความเป็นจริงวันนี้ คงไม่สามารถจัดเก็บภาษีทางตรงในอัตราที่สูงมาก ๆ ถึงขั้นประเทศในยุโรป เพราะอาจจะเป็นแรงผลักดันให้คนรวยจำนวนหนึ่ง หลบเลี่ยง หลบหนี หรือย้ายบัญชีหนีภาษี หลบไปอยู่ตามเกาะต่าง ๆ มากขึ้น
ไม่ช้าก็เร็ว เราคงจะต้องยุติการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรักษาระดับรายได้ทางการคลังของรัฐ
ใน ปัจจุบัน เราจึงต้องจัดระบบภาษี เพื่อให้มีการเก็บและการจ่ายภาษีที่ง่าย ไม่ซับซ้อน เราจำเป็นต้องขยายฐานการจัดเก็บภาษี กระจายการจัดเก็บภาษีออกไปสู่ระดับท้องถิ่น
2. ในส่วนที่เกี่ยวกับ ภาษีที่ดินและภาษีมรดก นายก รัฐมนตรีได้กล่าวว่า เราสามารถใช้ภาษีที่ดินเป็นเครื่องมือในการจัดการที่ดิน หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ประโยชน์จากที่ดินได้มากกว่าที่เป็นอยู่
การ จัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราที่ก้าวหน้ามาก ๆ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐ สามารถนำเงินที่ได้ไปใช้ในการปฏิรูปที่ดินหรือจัดหาที่ดินแก่คนยากคนจนแล้ว ยังเป็นแรงกระตุ้นให้มีการใช้ทรัพยากรที่ดินอันมีอยู่อย่างจำกัดให้เกิด ประโยชน์สูงสุด
นอก จากนี้ ยังอาจจะพิจารณาใช้มาตรการภาษีในการสร้างแรงจูงใจให้คนอยากจะใช้ที่ดินให้ เกิดประโยชน์ในทางที่สร้างสรรค์ เช่น ทำสวนสาธารณะ หรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์สาธารณะ หรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนยากคนจน
การ จัดเก็บภาษีที่ดิน แม้จะกำหนดอัตราก้าวหน้ามาก ๆ บรรดาคนรวยที่ถูกเรียกเก็บก็ไม่สามารถย้ายที่ดินหนีภาษีได้เหมือนการย้าย บริษัทหรือย้ายบัญชี แต่จะนำไปสู่การปลดปล่อยที่ดินให้มีการใช้ประโยชน์จากที่ดิน ซึ่งจะเกิดการเพิ่มงาน เพิ่มรายได้
ใน ส่วนที่เกี่ยวกับภาษีมรดก นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ผมสนับสนุนการจัดเก็บภาษีมรดก เพราะเห็นว่าเป็นภาษีที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและจะช่วยส่งสัญญาณ ทางสังคมที่ชัดเจนว่า ต่อไปนี้ คนเราควรจะคิดถึงสังคมให้มากกว่าเดิม
ภาษี มรดกไม่ใช่การยึดทรัพย์ ลูกหลานยังรับมรดกจากบุพการีต่อไปได้ เพียงแต่ถ้ามูลค่ามรดกสูงเกินเกณฑ์ ก็ต้องจ่ายภาษีมรดกส่วนหนึ่งเข้าแผ่นดิน
นายก รัฐมนตรีมีความเห็นว่า เราอาจจะมีเกณฑ์มูลค่าทรัพย์สินที่คนเราสามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขตาม แบบพอเพียงได้ ส่วนเกินก็นำมาประเมินภาษีมรดก และเชื่อว่า ภาษีมรดกจะมีผลในทางที่ดีต่อแนวคิดเรื่องความเป็นธรรมในสังคมอย่างแน่นอน
3. ภาษีเหล้า นายก รัฐมนตรีได้กล่าวถึงการดูแลการบริโภคสุราว่า เมื่อไม่มีการโฆษณา ก็ควรขึ้นภาษีเหล้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลดราคาเพื่อจูงใจให้มีการดื่มมากขึ้น โดยปรับโครงสร้างภาษีเหล้า ให้เก็บตามดีกรีของแอลกอฮอล์
4. เรื่องสุดท้ายเป็นปณิธานด้านการปฏิรูปการคลังท้องถิ่น ซึ่ง เห็นว่า จะต้องมีการพิจารณาโครงสร้างภาษีระหว่างส่วนกลางและท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ชัดเจน รวมถึงระบบการแบ่งภาษีระหว่างส่วนกลางและท้องถิ่น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม จะเป็นสัดส่วนเท่าใด ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงและความเหมาะสม
ท้อง ถิ่นควรเพิ่มฐานภาษีได้อีก สามารถจัดเก็บภาษีชนิดต่าง ๆ ด้วยตนเองได้มากขึ้น เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีทรัพย์สิน และภาษีสิ่งแวดล้อม
ใน ประการสำคัญ ท้องถิ่นควรจะต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี โดยการจัดทำระบบแผนที่ภาษีเพื่อสำรวจฐานทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตนเอง
จาก ปณิธานเกี่ยวกับระบบภาษีอากรของนายกรัฐมนตรี พอสรุปได้ว่า ระบบภาษีอากรของไทยควรเป็นระบบที่มีความง่าย ก้าวหน้า และเป็นธรรม ควรจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า เห็นด้วยกับการเก็บภาษีมรดก และการปฏิรูปการคลังท้องถิ่นด้วยการเพิ่มฐานภาษี เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีทรัพย์สิน และภาษีสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และควรเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีด้วยการจัดทำระบบแผนที่ภาษี