กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ตลาดหลักทรัพย์ ตรวจงบการเงิน บจ.เข้มชี้ช่วงเศรษฐกิจซบหวั่นตกแต่งงบ พร้อมเตรียมผ่อนเกณฑ์จัดเก็บค่าธรรมเนียมหุ้นฟรีโฟลทต่ำ หวังช่วยลดต้นทุน
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายใต้เศรษฐกิจซบเซาทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องติดตามและตรวจสอบงบการเงิน บริษัทจดทะเบียนใกล้ชิดมากขึ้น เพราะมีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีแต่งงบการเงิน ดังนั้นสายงานส่วนงานกำกับต้องดูงบอย่างละเอียดว่ามีรายการใดที่ผิดปกติ ซึ่งถ้าพบความผิดปกติก็ต้องให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลตามที่ตั้งข้อสังเกต
อย่างไรก็ตามตลาดมีหน้าที่ทำได้แค่เพียงให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูล เท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจในการสั่งการหรือบังคับ แต่ถ้าหากว่ารายการที่ตรวจพบมีความผิดปกติ และน่าสงสัยก็จะส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
"ในการตรวจสอบงบบริษัทจดทะเบียน เราก็ตรวจทุกไตรมาสอยู่แล้ว เพียงแต่ความเข้มข้นในการตรวจสอบของแต่ละบริษัทขึ้นอยู่กับแบบแสดงรายการที่ เจอในงบการเงิน" นายศักรินทร์ กล่าวนอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมที่จะผ่อนปรนเกณฑ์การเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่ม กรณีที่บริษัทจดทะเบียนที่มีปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาด (Free Float) ต่ำกว่า 15% เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทภายใต้เศรษฐกิจชะลอตัว และคาดว่าจะมีจำนวนบริษัทที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์มากขึ้น จากการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นจากการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการในการทบทวนเกณฑ์ดังกล่าว
ปัจจุบันมีจำนวนบริษัทที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์จำนวน 20 บริษัท โดยมี 3 บริษัทที่อยู่ระหว่างการเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์โดยสมัครใจ คือ บริษัท ประกันคุ้มภัย, บริษัท ไทย อกริ ฟู้ดส์ และบริษัทเทเวศประกันภัย
สำหรับเกณฑ์ในการเก็บค่าธรรมเนียมกับบริษัทจดทะเบียนที่มีฟรีโฟลทต่ำ จะขึ้นอยู่กับจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ฟรีโฟลทขาดและจำนวนปีในการคำนวณอัตราค่า ธรรมเนียม ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนฟรีโฟลทไม่เป็นไปตามเกณฑ์ 20 แห่ง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากกว่านี้ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่และมีการทำเทนเดอร์ออ ฟเฟอร์
"ในช่วงต้นเดือนหน้าก็จะครบกำหนดของการยื่นผลงานก็น่าจะรู้ว่ามีหลักทรัพย์ ที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนเท่าไร เพราะจะมีการขึ้นเครื่องหมาย NC ในบางบริษัทที่ส่วนทุนติดลบ แต่หากหามาเพิ่มได้ก็อาจจะไม่เป็นตามเกณฑ์ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นเพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา เข้าไปเยอะแล้วมีบริษัทที่ติดเครื่องหมาย NC อยู่ 8 แห่ง และหุ้นที่อยู่ในหมวดฟื้นฟูกิจการ หรือว่า NPG จำนวน 20 แห่ง" นายศักรินทร์ กล่าว
นายศักรินทร์ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีของ บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของดีเอสไอตรวจสอบ โดยในส่วนงานของตลาด ก็ทำหน้าที่เพียงแค่รอการส่งงบการเงินและการหากรรมการตรวจสอบซึ่งเป็นไปตาม เกณฑ์ที่บริษัทจดทะเบียนต้องมีกรรมการตรวจสอบ แต่พบว่าขณะนี้อยู่ในช่วงของการหาคณะกรรมการตรวจสอบจึงทำให้ไม่สามารถสรุปงบ การเงินได้ ซึ่งงบการเงินล่าสุดที่ เอส.อี.ซี.ซี ส่งมาคืองวดไตรมาส 3/2551 และฝั่งของ ก.ล.ต. ตั้งได้คำถามเกี่ยวกับงบการเงินในงวดไตรมาส 3/2551 ซึ่งอยู่ระหว่าง เอส.อี.ซี.ซี. กำลังพิจารณา
โดยขณะนี้ราคาหุ้น เอส.อี.ซี.ซี. ได้แขวนเอสพี หลังจาก เอส.อี.ซี.ซี. ไม่มีผู้ตรวจสอบบัญชีพิเศษ หรือ Special Audit ซึ่งระยะเวลาในการส่งงบและหาผู้สอบบัญชีก็จะเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดกำหนดเอา ไว้คือ หากส่งงบเกินกำหนด 180 วันก็จะถูกเอสพีและหากท้ายสุดแล้วกระบวนการตรวจสอบไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาด และ ก.ล.ต. กำหนดไว้ก็อาจจะทำให้ เอส.อี.ซี.ซี. อาจถูกเพิกถอนได้
