แต่สำหรับร้านนี้ยังมีลูกค้าที่อุดหนุนกันมาอย่างยาวนาน นั่นเพราะรสชาติข้าวแกงร้านนี้เขาต้องไม่ธรรมดา

ป้าประไพ เจ้าของร้าน บอกว่า เคล็ดลับความอร่อยของข้าวแกงร้านป้าก็คือเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ ที่สำคัญกะทิต้องใช้กะทิสดเท่านั้น ที่นอกจากจะให้แกงแตกมันและมีรสชาติเข้มข้นแถมยังหอมหวน ป้าประไพยังบอกว่า เครื่องแกงก็ต้องปรุงเองสดๆ ใหม่ๆ วันต่อวัน เรียกว่าถึงเครื่องแกงกันเห็นๆ เน้นโขลกจนแหลกพอโดนความร้อนบนเตานะ โอ้โห! ล่อต่อมหิวอย่าบอกใครเชียว

แม้ร้านป้าหน้าตาจะดูไม่ไฮโซ หม้อไห จาน ชามก็ดูเก่าๆ แต่รสชาตินั้นอร่อยเด็ดโดยไม่ต้องอาศัยหน้าตา ลูกค้าก็มีทั้งระดับไฮโซไปจนถึงแม่ค้าพ่อค้าด้วยกัน เรียกว่าเป็นร้านประจำของหลายคนที่ต้องไปฝากท้องกันเป็นประจำเมื่อไปเดินที่ ตลาดนัดสวนจตุจักร บ้างก็แวะไปเพื่อซื้อใส่ถุงกลับไปกินบ้านก็เยอะ

เมนูแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 10 อย่าง ที่ขาดไปเสียมิได้ก็คือแกงหน่อไม้ไก่ ที่หอมมันด้วยกะทิสด หน่อไม้ก็ทั้งนุ่มทั้งกรอบเข้ากับไก่ติดกระดูกที่ให้ความหวานกว่าไก่ผู้ดี ที่เลาะกระดูกเหลือแต่เนื้อจนหมดความอร่อย

อีกเมนูแกงพะแนงเนื้อ เนื้อหนุบหนับกะทิข้นขลักไม่โหรงเหรงเหมือนแกงพะแนงบางร้านที่ขี้เหนียวทั้ง เครื่องแกงและกะทิ รสชาติก็หวานมันกำลังดี กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครทีเดียว

แต่ที่ผมไปแล้วต้องกินเป็นประจำก็คือ ปลาดุกผัดเผ็ด ร้านเขาใช้ปลาดุกสดๆ ลงไปผัดกับเครื่องแกงจึงเข้าเนื้อกว่าการที่นำปลาดุกไปทอดที่ทำให้เสียรส ชาติของปลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เวลากินจะรับรู้ถึงรสชาติที่แตกต่าง เนื้อปลาดุกจะฟูกว่า นุ่มหวานกว่า และก็อร่อยกว่า ทำให้นึกถึงแกงปลาดุกรสมือแม่ที่บ้านนอกจริงๆ เชียวครับ

นอกจากนี้ ยังมีขนมจีน ทั้งน้ำยา น้ำพริกรสเด็ดเอาไว้ให้ลิ้มลองกันอีกด้วย

ผมว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้าวแกงร้านมรดกไทยของป้าประไพอร่อยมาก เป็นพิเศษก็คือ ไม่ว่าคุณจะไปกินเวลาใด ก็จะได้กินข้าวสวยร้อนๆ ตลอดเวลา แถมยังมีกุนเชียงรสดีเอาไว้แกล้ม หรือเบรกความจัดจ้านอีกต่างหาก ราคาก็ไม่แพงด้วยครับ ราดกับข้าวอย่างเดียวก็ 20 บาท ราด 2 อย่างก็ 25 บาท เท่านั้นเอง

เชื่อผมเถอะว่าถ้าคุณได้ไปกินข้าวราดแกงที่ร้านมรดกไทยของป้าประไพ คุณต้องขอเบิ้ลอีกจานเพราะความอร่อยเด็ด ผมยังเหลือบเห็นสาวสวยที่นั่งข้างผมยังสั่งข้าวราดแกงไก่และผัดเผ็ดปลาดุก ตั้ง 2 จานแน่ะ!

ร้านข้าวแกงมรดกไทย ตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 26 ตรงข้ามกับโครงการ 1 เปิดให้ลิ้มลองรสชาติเด็ดๆ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. แต่รีบไปไวๆ หน่อยก็ดีนะครับ เพราะของเขาหมดไวเหลือเกิน