จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย : ประกายดาว แบ่งสันเทียะ
"น้อมจิตต์ ตะวันนา พันธุ์ทิพย์" เตรียมปรับสัญญาเช่าขนานใหญ่ หากกม.ลิขสิทธิ์ มีผลบังคับใช้ เล็งหาแม่เหล็กตัวใหม่ดึงลูกค้า
แรง จูงใจด้าน "ราคา" นับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาขาดดิบขายดี ก็เพราะสินค้าละเมิดเหล่านี้มีต้นทุนอยู่อย่างเดียว คือ ต้นทุนค่าก็อปปี้ แผ่นละไม่ถึง 2 บาท ไม่เหมือนสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ที่จะต้องมีทั้งต้นทุนการผลิต การตลาด โดยเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ ที่ดันให้ราคาขายสูงปรี๊ด
เมื่อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มีราคาถูกกว่า ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาศูนย์การค้า อาทิ น้อมจิตต์ ตะวันนา และพันธุ์ทิพย์ แหล่งจำหน่ายซีดี ดีวีดี รายใหญ่ ค้าขายกันคึกคัก
บรรดาศูนย์การค้าเหล่านี้ต่างระบุตรงกันว่า หากกฎหมายลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร ออกมาบังคับใช้อย่างจริงจัง จะทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบถึงขั้นต้องเปลี่ยนรูปแบบการขาย เปลี่ยนแปลงสัญญาเช่า เพื่อหาแม่เหล็กตัวใหม่มาดึงดูดลูกค้า
ตัวแทนห้างน้อมจิตต์ บอกว่า ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผ่านมาแม้จะมีการจับกุม แต่สุดท้ายกลับไม่มีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง เมื่อถึงกระบวนการไต่สวนกลับมีการยอมความกันโดยตัวแทนเจ้าของสิทธิ์ เมื่อผู้ขายถูกปล่อยตัวก็ย้อนกลับมาขายอีก กลายเป็นภาระของผู้ให้เช่าพื้นที่
เขายอมรับว่าผู้ให้เช่าพื้นที่ไม่มีความสามารถที่จะตามไปตรวจสอบและแยก แยะสินค้าบางประเภทว่าเป็นสินค้าปลอมหรือของแท้ ดังนั้นจึงอยากให้เจ้าของสิทธิ์ดำเนินการกับผู้ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธ์ให้ ถึงที่สุดไปจนถึงคดีอาญา และฟ้องร้องดำเนินคดีถึงชั้นศาล หากทำเช่นนั้นได้จะทำให้เจ้าของศูนย์การค้ามีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกยกเลิก สัญญาเช่าได้
ขณะที่ชาญชัย บุญธรรมหนัก ผู้จัดการแผนกกฎหมาย บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด (ห้างพันธุ์ทิพย์) เล่าให้ฟังว่า หากฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะทำให้ห้างฯแห่งนี้ต้องเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่า พื้นที่ครั้งใหญ่ โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เนื่องจากมีผู้เช่าประมาณ 20 ราย จากผู้เช่า 600 ราย ที่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวข้องกับเทปผีซีดีเถื่อน และผู้ค้าหลายรายยังมีการฟ้องร้องกันในชั้นศาลเกือบทุกวัน
โดยห้างฯก็ไม่สามารถยกเลิกสัญญาเช่าได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์โดยกระบวนการทางกฎหมายได้ว่า มีการค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ เพราะเป็นคดีที่ยอมความกันได้ จึงมักจะมีการยอมความกับเจ้าของสิทธิ์เมื่อเรื่องเดินเข้าสู่การดำเนินคดี ความในชั้นศาล
“เจ้าของห้างดูไม่ออกและฟ้องร้องไม่ได้ เพราะไม่ใช่เจ้าของสิทธิ์เมื่อศาลปล่อยตัวมา เขาก็สามารถกลับมาขายได้ตามปกติ หากเราไปยกเลิกสัญญาก็กลัวว่าจะถูกขู่วางระเบิดห้าง เพราะพื้นที่เช่าถือเป็นช่องทางให้ผู้ค้ารายย่อยกลุ่มนี้มีรายได้และกำไร มูลค่าสูง เพราะต้นทุนปั๊มซีดีเพียง 1-2 บาทต่อแผ่น แต่เอามาขายในราคาแผ่นละ 100 บาท ขณะที่พันธุ์ทิพย์เก็บค่าเช่าจากผู้ค้าเหล่านี้ประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน"
เขายังยอมรับว่า พันธุ์ทิพย์ถือเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากให้เข้ามาซื้อ ซีดีเพลง และโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์กลับไปยังประเทศตัวเอง บางคนยังถึงขั้นซื้อไปจำหน่ายต่อเพื่อนำกำไรมาเป็นค่าเครื่องบินในการเดิน ทาง เขาระบุว่าหากการซื้อขายซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริง จังแล้ว ก็จะต้องเปลี่ยนรูปแบบการเช่าที่ในพันธุ์ทิพย์กันใหม่
ด้านแหล่งข่าวจากศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ เล่าให้ฟังว่า กลุ่มผู้ค้าบางส่วนมีการทำงานเป็นกระบวนการซึ่งบางครั้งไปเกี่ยวข้องกับผู้ ปฏิบัติตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดูแลท้องที่บางคนที่ส่งคนเข้ามาจำหน่ายสินค้าเสียเอง หรือร่วมกับผู้มีอิทธิพลและผู้ใกล้ชิดกับนักการเมือง จึงทำให้การปราบปรามไม่เป็นผลเท่าที่ควร
ดร.เสรี วงษ์มณฑา ในฐานะนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน กล่าวว่า สาเหตุที่ไทยต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาเพราะได้รับ แรงกดดันจากการค้าระหว่างประเทศ ที่ต้องการให้ไทยเพิ่มความเข้มข้นในการเคารพทรัพย์สินทางปัญญา เพราะเริ่มมีผลต่อการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้หลักการเปิดการค้าเสรีของ WTO IP (Intellectual Property) เป็นปัจจัยที่อยู่ในเงื่อนไขก่อนที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในไทย
นอกจากจะต้องพิจารณาถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ยังจะต้องเคารพทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไปพร้อมกันด้วย เพื่อปกป้องผลงานที่มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา
การเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญา ยังถูกนำมาใช้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เพราะบางประเทศกีดกันทางการค้าไทย เช่น การถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน อาทิ ยา พย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน ไม่ควรถูกรวมในการให้ความคุ้มครอง เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสเข้าถึงยา าหม่ จะไม่ควรถูกรวมอยู่ในการให้ความคุ้มครอง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสเข้าถึงยา "ดร.เสรี" ระบุ
ขณะ ที่สินค้าก็อปปี้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าด้อยคุณภาพ หากยังปล่อยให้มีการละเมิดจะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้คนไทยเคยชินกับการลอก เลียนแบบแทนการสร้างสรรค์ชิ้นงาน หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่
ดังนั้น การออกกฎหมายเพื่อเพิ่มมาตรการปกป้องและปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะปลูกฝังให้เคารพสิทธิ์ของคน ปลูกฝังในด้านจริยธรรม และจะมีส่วนทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญามีราคาถูกลงจากดี มานด์ที่เพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดความประหยัดจากขนาด (Economy of scale ) เพราะสินค้าที่มีลิขสิทธิ์จะเข้ามาแทนที่สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
ดร.เสรี ยังเห็นว่า การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา ยังพบว่าผู้เกี่ยวข้องมักไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งผู้ซื้อ ผู้ผลิต ผู้ให้เช่า ผู้ขาย และเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บางรายที่มักจะเรียกรับผลประโยชน์จากผู้เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ค้า ผู้ซื้อ และผู้ให้เช่า ไม่รู้จักเข็ดหลาบ