จาก ประชาชาติธุรกิจ
วิกฤต เศรษฐกิจทำให้กฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ในธุรกิจการเงินเปลี่ยนแปลงไป ตามปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิม เช่นเดียวกับธุรกิจบัตรเครดิต ที่สหรัฐได้ออกพระราชบัญญัติความรับผิดชอบและการเปิดเผยข้อมูลของ บัตรเครดิต 2009 หรือ CARD และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
แต่เดือนนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตจะเริ่มสัมผัสกับการปฏิรูปวงการบัตรเครดิตระลอกแรก เมื่อธนาคารต่างๆ จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้บริโภคล่วงหน้า 45 วัน หากมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ เกี่ยวกับข้อเสนอบัตรเครดิต
ลอสแองเจลิ ส ไทม์ส ระบุว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ก่อนที่ข้อบังคับใหม่ทั้งหมดจะถูกบังคับใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเสมอภาคในสนามต่อสู้ระหว่างบริษัทบัตรเครดิตและ ผู้บริโภค ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าตนเองไม่มีอำนาจต่อรองกับมาตรการปล่อยกู้ที่ไม่ถูกต้องและ เป็นภาระ
แซลลี กรีนเบิร์ก ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมผู้บริโภคแห่งชาติ ชี้ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นการปฏิรูปบัตรเครดิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งช่วยควบคุมการกระทำผิดร้ายแรงหลายประการในธุรกิจนี้ แม้ไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมด
กฎหมายใหม่ให้ความคุ้มครองผู้ถือบัตรมาก ยิ่งขึ้น อาทิ ป้องกันไม่ให้บริษัทบัตรเครดิตขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในช่วงปีแรกของการเปิดบัญชีบัตร ยกเว้นในกรณีที่บัตร ดังกล่าวใช้อัตราดอกเบี้ยผันผวน หรือผู้ถือบัตรไม่ชำระหนี้ตามบังคับยอดขั้นต่ำภายใน 60 วัน หลังครบกำหนดชำระหนี้
อีกทั้งยังห้ามไม่ให้บริษัทบัตรเครดิตขึ้น อัตราดอกเบี้ยกับหนี้ค้างชำระปัจจุบัน ยกเว้นในกรณีที่มีการใช้อัตราดอกเบี้ยผันผวนกับยอดค้างชำระ หรือมีการชำระหนี้ขั้นต่ำช้ากว่ากำหนด 2 เดือน
นอกจากนี้ในกรณีที่ บริษัทบัตรเครดิตขึ้นดอกเบี้ย เพราะผู้ถือบัตรค้างชำระหนี้ บริษัทจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ในระดับปกติ เมื่อผู้ถือบัตรชำระหนี้ตรงตามกำหนดติดต่อกัน 6 เดือน หลังการผิดนัดชำระหนี้ครั้งนั้นๆ
พร้อมกันนี้ กฎหมายใหม่ห้ามไม่ให้บริษัทบัตรเครดิตเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับการชำระหนี้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมจากการชำระหนี้ผ่านทาง โทรศัพท์ เป็นต้น
ที่ผ่านมาพบว่า ข้อร้องเรียนที่พบบ่อย คือธนาคารมักเปลี่ยนวันครบกำหนดชำระหนี้ ซึ่งทำให้ผู้ถือบัตรชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดและต้องเสียค่าปรับ ซึ่งกฎหมายใหม่ได้แก้ปัญหาประเด็นนี้ โดยการกำหนดให้บริษัทบัตรเครดิตต้องระบุวันครบกำหนดชำระหนี้วันเดียวกันทุก เดือน และให้ชำระหนี้ได้ภายในเวลา 17.00 น. อีกทั้งบริษัทต้องมั่นใจว่าได้ส่งใบแจ้งหนี้ไปถึงบ้านผู้ถือบัตรอย่างน้อย 21 วันก่อนกำหนดชำระหนี้
และเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ชาวอเมริกันต้อง ติดบ่วงหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย กฎหมายบังคับให้มีการลงนามจากผู้ใหญ่ (adult cosign) สำหรับการเปิดบัญชีบัตรเครดิตให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี พร้อมห้ามไม่ให้บริษัทบัตรเครดิตเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 21 ปี หากไม่มีหนังสือยินยอมจากผู้ใหญ่ที่ร่วมลงนาม พร้อมห้ามเชิญชวนคนกลุ่มนี้มาใช้บัตรเครดิต หากพวกเขาไม่ต้องการรับข้อเสนอ
พร้อม กันนี้ยังกำหนดให้บริษัทบัตรเครดิตต้องเผยแพร่ข้อมูลสัญญาเต็มฉบับบนอิน เทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุดได้
สำหรับ ความเคลื่อนไหวในวงการขณะนี้ พบว่า แบงก์ออฟอเมริกา และ เจพี มอร์แกน เชส ได้แจ้งให้ลูกค้าบัตรเครดิต ทราบว่า ธนาคารได้ปรับบัญชีพร้อมดอกเบี้ยคงที่เป็นดอกเบี้ยผันผวนแล้ว ขณะที่ธนาคารรายหลังได้เพิ่มอัตราชำระหนี้ขั้นต่ำจาก 2% เป็น 5% ด้วย
มา ถึงตอนนี้ กรีนเบิร์กมองว่า แม้จะมีกฎหมายใหม่ แต่บริษัทบัตรเครดิตอาจยังถือแต้มเหนือกว่าผู้บริโภคต่อไป เพราะ เป็นผู้เขียนกฎต่างๆ ในสัญญาบัตรเครดิตเอง