จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย : จุฑารัตน์ ทิพย์นำภา

ไม่รู้ว่าจะงัดกระบวนยุทธ์ท่าไหนมาต่อสู้กับเชื้อไวรัสไข้หวัด สายพันธุ์ใหม่ นอกจากผ้าคาดจมูกแล้วเราจะตั้งท่ารับมือกับหวัดใหญ่อย่างไร

ผ่านมาหลายเดือนแล้วยังไม่มีท่าทีว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 จะแผ่วลงเลย ตรงกันข้ามกลับสำแดงฤทธิ์เดชหนักยิ่งกว่านางนาคพระโขนง ขนาดยาต้านไวรัสเองร่ำๆ จะเอาไม่อยู่

แต่เดี๋ยวก่อน คนไทยเรายังมีอาวุธลับอยู่คู่ครัว ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม หัวหอม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เรียกว่าซดเครื่องต้มยำ ต้มโคล้งเข้าไปต่อให้หวัดใหญ่ 2010 ยังกระเจิง ยังไม่นับพวกสมุนไพรที่ยกให้เป็นเจ้าตำรับกำจัดหวัดอย่างฟ้าทะลายโจร และชะเอม

ดร.สุภาพร ปิติพร หัวหน้าเภสัชกร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร บอกว่า ยาสมุนไพรถูกงัดขึ้นมาใช้เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ยาแผนปัจจุบัน โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีใช้มานานกว่า 100 ปี ในประเทศอินเดีย และประเทศจีน

หมอจีน จะนำฟ้าทะลายโจรมาใช้ แก้ไข้ ท้องเสีย ซึ่งให้ประสิทธิภาพการรักษาเป็นที่น่าพอใจ จนกระทั่งปัจจุบันสมุนไพรดัง กล่าวเป็นที่ยอมรับและมีการศึกษาเรื่องความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น มีงานวิจัยยืนยันว่า ฟ้าทะลายโจรมีกลไกที่ทำให้เชื้อแบ่งตัวลดลงและแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ได้ยาก ขึ้น

“ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อเป็นอันดับ 1 ขณะที่อันดับ 2 ต้องยกให้กับชะเอม ที่ใช้เป็นส่วนผสมของยาอมสมุนไพรบรรจุขวดซึ่งวางขายอยู่ในปัจจุบัน” เธอกล่าว

ที่ผ่านมามีการศึกษาทดลองให้นักเรียนโรงเรียนหนึ่งรับประทานฟ้าทะลายโจร นาน 3 เดือน เปรียบเทียบกับนักเรียนในโรงเรียนไม่ได้รับประทานฟ้าทะลายโจร พบนักเรียนที่ได้รับประทานฟ้าทะลายโจรเป็นประจำ มีโอกาสติดหวัดน้อยกว่านักเรียนทั่วไป 2.1 เท่า

ตลอดจนมีการศึกษาถึงขนาดยาจากสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่เหมาะสม ฟ้าทะลายโจรจัดอยู่ในกลุ่มยาเย็น สามารถรับประทานเพื่อป้องกันได้ครั้งละ 1-2 เม็ด แต่หากต้องการรับประทานเพื่อรักษาโรค จะต้องทาน ครั้งละ 2 เม็ด 3 เวลา ต่อเนื่อง 7 วัน โดยสามารถลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ เช่นเป็นไข้ ไอ และเจ็บคอ

พอชื่อเสียงฟ้าทะลายโจรขึ้นแท่นเป็นสมุนไพรต้านหวัดอันดับหนึ่งเป็นที่เลื่องลือ ใครก็ต่างร่ำร้องหากันมากขึ้นจนกลายเป็นสมุนไพรหายาก แต่ก็ไม่ต้องตกใจเพราะยังมีสมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยา ใกล้เคียงฟ้าทะลายโจรอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระเทียม หัวหอม รวมถึงขิง ข่า สมุนไพรยอดฮิตที่ใช้เป็นเครื่องต้มยำ

สมุนไพรในครัวเรือนทั้งขิงแก่และขิงอ่อน ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรต้านไข้หวัดมานานกว่า 1,000 ปี เช่นเดียวกับพริก กระเทียม และหัวหอม ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในอาหารไทย ที่ยังไม่ถูกพัฒนาเป็นยาสมุนไพรเมื่อเทียบกับฟ้าทะลายโจร

อย่างไรก็ตาม เภสัชกรหญิงบอกว่า ในส่วนของกระเทียมนั้น มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค ลดไข้ ป้องกันหวัด สามารถรับประทานได้สดๆ หรือทานพร้อมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ จะช่วยลดการระคายคอ และระคายเคืองทางเดินอาหารไปได้มาก

หรือจะเอากระเทียมมาต้มสด รสชาติที่เคยขื่น เหม็นเขียว จะลดลง แถมให้รสชุ่มคอ พร้อมด้วยฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก นักวิจัยประเทศญี่ปุ่นมีการศึกษาโดยให้หนูทดลองกินกระเทียมดองสกัด นาน  10 วัน ก่อนฉีดเชื้อไข้หวัดนก ไม่พบหนูทดลองติดเชื้อดังกล่าว

ขณะที่หัวหอม มีภูมิปัญญาโบราณบอกว่า หากใช้ต้มขณะอาบน้ำ จะมีสารเคอร์ซิติน สามารถต้านไข้หวัดใหญ่ได้ หัวหอมสามารถทานได้เป็นประจำทุกวัน เช่นเดียวกับใบกะเพรา ตะไคร้ มะนาว

“สำหรับคนที่ไม่นิยมรับประทานยาสมุนไพร และกำลังมองหาน้ำดื่มสมุนไพรต้าน หวัด น้ำกระเจี๊ยบแดงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่มีสารแอนโทไซยานิน ยับยั้งเชื้อหวัด สามารถหาดื่มได้ไม่ยากอีกด้วย” เภสัชกรหญิง กล่าว