สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ดร.โกร่ง ยกป๋าเปรม สุดยอดนายกฯ 10 คุณลักษณะ ที่หาได้ยากจากผู้นำคนอื่นๆ

จากประชาชาติธุรกิจ



89 ปี อันกล้าแกร่งของ ป๋าเปรม " ประชาชาติออนไลน์" นำผู้อ่าน ย้อนกลับไปดูเส้นทางการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรี 8 ปี ที่มีคนยกย่องว่า เปรียบได้กับ ลี กวน ยู นายกฯสิงคโปร์ ครั้งหนึ่ง "อาจารย์โกร่ง"หยิบยกคุณสมบัติ 10 ประการของพลเอกเปรม ที่หาได้ยากในผู้นำทั่วไป อยากรู้ว่า คุณลักษณะพิเศษ คืออะไร รีบอ่านโดยพลัน..

 ... วันพรุ่งนี้ 26 สิงหาคม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะมีอายุครบ 89 ปีบริบูรณ์
      วันนี้  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีและบรรดา ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าอวยพร ครบรอบคล้ายวันเกิด 89 ปี  ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์
จะว่าไป เกือบทุกปีในช่วง เบิร์ด เดย์ ป๋าเปรม ณ  บ้านสี่เสาเทเวศน์ จะคลาคล่ำ ด้วยลูกป๋าจากทุกวิชาชีพ  ทั้ง ทหาร ตำรวจ นักการเมือง  พ่อค้า นักธุรกิจ นักวิชาการ แม้ว่า ลูกป๋า หลายคนวันนี้ จะห่างเหินไป ไม่ว่าจะเป็น นายวีระ มุสิกพงศ์   นายจาตุรนต์ ฉายแสง  แต่ป๋าก็ยังรักลูกป๋าทุกคน ไม่เสื่อมคลาย
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2463 ที่ตำบลบ่อยาง อำเภอมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรคนที่ 6 ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) กับนางวินิจทัณฑกรรม (ออด สูลานนท์) มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน คือ"ติณสูลานนท์" 1 คือนามสกุลพระราชทานจาก "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" ในปี 2462 ซึ่งหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) ผู้ดำรงตำแหน่งรองอำมาตย์โทในขณะที่ได้รับพระราชทานนามสกุล
 ความหมายแห่งนามสกุลนี้ถอดความได้ 2 ความหมาย
 ความหมายที่ 1
 ติณ แปลว่า หญ้า
 สูลา แปลว่า คม ยอด
 นนท์ แปลว่า ความพอใจ ความยินดี
 ติณสูลานนท์ แปลว่า ความพอใจหรือความยินดีในหญ้าที่มีคม
 ความหมายที่ 2
 พระมหาเวก หยยสุวณโณ วัดชนะสงคราม อธิบายว่า
 ติณสูล แปลว่า ของมีคม เช่น หลาว หอก ดาบ
 นนท์ แปลว่า ความเบิกบาน ความยินดี
 ติณ สูลานนท์ แปลว่า ความเบิกบาน หรือความยินดีในของมีคม อันเป็นเครื่องสำหรับพะทำมะรง (พัศดี) ในการป้องกัน ปราบปรามมิให้นักโทษก่อความวุ่นวายโดยสรุป "ติณสูลานนท์" จึงหมายถึง ความยินดีในการปฏิบัติหน้าที่พะทำมะรง (พัศดี) ที่มีความเป็นของมีคม เช่น หลาว หอก ดาบ
พลเอกเปรม เข้ามามีบทบาททางการเมือง โดยได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ.2502 เป็นวุฒิสมาชิกในปี 2511 และเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อปี 2516 พลเอกเปรม เข้าร่วมรัฐบาลของพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ โดยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและสมาชิกสภาปฏิรูป ในปี 2520 และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในปี 2522
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสืบต่อจาก พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2523 ตลอดระยะเวลาที่บริหารประเทศได้มีผลงานสำคัญมากมาย เช่น การปรับปรุงประมวลกฎหมายรัษฎากรและกฎหมายสรรพสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม การสร้างงานตามโครงการสร้างงานในชนบท (กสช.) การจัดตั้งคณะ กรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชน (กรอ.) เพื่อส่งเสริมบทบาททางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนภายในประเทศ การดำเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ภายในประเทศอย่างได้ผล โดยนำนโยบายการใช้ "การเมืองนำการทหาร" ตามคำสั่งนโยบายที่ 66/2523 เป็นผลให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในที่สุด
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้บริหารประเทศมาจนถึงวันที่ 28 เมษายน 2531 ก็ตัดสินใจยุบสภาอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางการเมือง และกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 กรกฎาคม 2531 พร้อมทั้งยุติบทบาททางการเมือง ตามคำพูดที่ลั่นวาจาออกไปว่า ...ผมพอแล้ว
ต่อ มาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นองคมนตรี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2531 จากนั้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ ในปัจจุบันได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นประธานองคมนตรีแทนนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2541
บนเส้นทางการเมือง 8 ปีของ ป๋าเปรม ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ นายลี กวน ยู  อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ผู้นำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
        ครั้งหนึ่ง ลูกป๋า  อาจารย์โกร่ง ดร. วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าว คุณสมบัติของป๋าเปรม 10 ประการ ที่หาได้ยากในผู้นำคนอื่นๆ
      1) ท่านเป็นผู้บริหารที่รู้จักใช้คนเป็นอย่างดี
 สามารถ แยกแยะบุคคลที่ทำงานกับท่าน ไม่ว่าคณะรัฐมนตรี คณะที่ปรึกษา ปลัดกระทรวง อธิบดี ท่านได้เอาใจใส่บุคคลต่างๆ ที่ประกอบกันเข้ามาทำงาน ซึ่งปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งที่จะนำผลงานให้ลุล่วงไปได้ เป็นอย่างดี
    2) ท่านเป็นผู้บริหารจัดการที่ดี
 ท่านเป็นคนกลางที่รักษาดุล อำนาจระหว่างรัฐสภาและกองทัพได้ไม่ให้ก้ำเกินซึ่งกันและกัน ทำให้ประชาธิปไตยคลายตัวไปได้ เช่น เมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารอย่างไม่เปิดเผยสองครั้งท่านก็จัดการได้
     3) รู้จักวิธีการจัดองค์กรในกระบวนการตัดสินใจได้
 องค์ประกอบ ของคณะรัฐมนตรีท่านจัดเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกมาจากฝ่ายการเมือง สภาผู้แทนราษฎร ท่านรู้ว่า ส.ส.ได้รับเลือกตั้งมา เขาก็มักมีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลผู้เลือกเขา ฉะนั้น รัฐมนตรีฝ่ายนี้คงคาดหวังในเรื่องที่จะทำให้เขานึกถึงผลประโยชน์ของประเทศ ชาติไม่ได้ ขณะเดียวกันความรู้ความสามารถของรัฐมนตรีกลุ่มนี้เราคงคาดหวังสูงไม่ได้ ท่านจึงมีรัฐมนตรีอีกประเภทหนึ่งที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง แต่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ประวัติไม่เคยด่างพร้อย มีบารมี ได้รับการยอมรับนับถือในวงราชการทำงานให้
ท่านได้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย โดยท่านเป็นประธานเพื่อให้จำนวนคณะรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายมีจำนวนใกล้เคียงกัน ได้มีการแต่งตั้ง ดร.เสนาะ อูนากูล เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นเลขาธิการฝ่ายเศรษฐกิจเพื่อทำให้งานฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มแข็งและรัดกุมขึ้น เพราะรัฐมนตรีการเมืองส่วนใหญ่ไม่ชำนาญเศรษฐกิจ
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เคยกล่าวว่าท่านใช้เวลา 80% ของเวลาทั้งหมดของท่านแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเงินการคลังของประเทศ แต่ใช้เวลาเพียง 20% ในการแก้ไขปัญหาการเมือง เพราะไม่ต้องห่วงพรรคการเมือง ส.ส.หัวคะแนนของท่าน เพราะท่านไม่ได้มาจากพรรคการเมืองท่านมาจากคนกลาง
     4) ท่านเข้าใจสังคมไทยดีกว่านักการเมือง
 ท่านอธิบายตลอดเวลา ว่า ชนบทโครงสร้างเป็นอย่างไร ความรู้สึกนึกคิดของคนในชนบทเป็นอย่างไร มีสภาพเศรษฐกิจความเป็นอยู่เป็นอย่างไร ซึ่งนำไปสู่ที่จะให้มีแผนพัฒนาชนบทในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 ท่านให้ข้อมูลความรู้ ข้อเท็จจริงของชนบทอย่างมาก เช่น วัฏจักรความยากจนในชนบท คือความไม่รู้ ความเจ็บป่วย ความยากจนนั้นเป็นตัวกำหนดซึ่งกันและกัน
    5) ท่านเป็นนักประชาธิปไตยตัวยง
 ท่านมีจิตสำนึกเป็นประชาธิปไตย มากกว่า ผู้ที่มาจากการเลือกตั้งท่านไม่เคยใช้อำนาจเผด็จการ ไม่เคยใช้อำนาจเพื่อความเป็นธรรม แต่ใช้ธรรมเป็นอำนาจ
     6) ท่านมีความอดทนอดกลั้นสูง
 ท่านได้รับสมญาว่าเตมีย์ใบ้ หน้าเบื่อบ้าง เป็นนายกรัฐมนตรีที่น่าเบื่อที่สุด ท่านก็อดกลั้น
     7) ท่านมีศีล สมาธิ ปัญญา
 เมื่อใดที่ท่านเกิดวิกฤตการณ์ท่านจะ เงียบถอยเข้าบ้านไม่แสดงอาการตระหนก ค่อยคิดปรึกษาหารือบุคคลที่เกี่ยวข้อง และสามารถค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาให้สำเร็จไปได้เสมอ ท่านเป็นอย่างนี้ได้ขั้นแรกต้องมีศีล ทำให้เกิดความเชื่อมั่น เมื่อมีความเชื่อมั่น ทำให้มีสติ เมื่อมีสติสมาธิก็ไม่ตระหนก
    8) ท่านไม่เคยส่งเสริมให้เหลิงให้ระมัดระวังอยู่เสมอทั้งความคิด ความอ่าน คำพูด คำจา
    9) ท่านมีลักษณะของผู้นำประเทศชาติให้พ้นวิกฤต
     ท่านศึกษาเรื่องต่างๆ ตลอดเวลา จัดเวลาไม่ใช้เวลาฟุ่มเฟือยไปกับเรื่องไร้สาระ ท่านใช้เวลาศึกษาปัญหาไตร่ตรองตลอดเวลา ทำให้ท่านเข้าใจปัญหาต่างๆ ดีขึ้นมาตลอด
    ท่านมีระเบียบวิธีคิดชัดเจน วิธีการทหารหรือพลเรือนระเบียบวิธีคิดคล้ายกัน มีขั้นตอนเรื่องเหตุและผล ท่านมีความเป็นนักวิชาการและมีประสบการณ์มาก
    10) ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่ลงจากตำแหน่งได้อย่างสง่างาม เวลาที่เหมาะสมที่จะก้าวลงจากตำแหน่งโดยไม่หวงแหนแต่ประการใด
 ภารกิจ หน้าที่การแก้ไขปัญหาประเทศชาติหลายเรื่องได้สำเร็จลุล่วงไม่ว่าความมั่นคง ของประเทศชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจย่ำแย่ได้ลุล่วงเข้าสู่ภาวะดีแล้ว ระบบรัฐสภาเข้มแข็ง พรรคการเมืองเข้มแข็ง ถึงเวลาที่เหมาะสมเมื่อ 5 พรรคการเมืองเสนอให้ท่าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ท่านได้แจ้งว่าไม่ประสงค์รับตำแหน่งอีกต่อไป ด้วยคำพูดที่เป็นอมตะวาจาว่า "ผมพอแล้ว"
       หากนำคุณลักษณะอันโดดเด่นของ ป๋าเปรม ไปเปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน  จะพบว่า หาคนเทียบป๋าเปรม ได้ยากยิ่ง.

view