จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ จุดแกร่งเอสเอ็มอีไทย
โดย ผศ.ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์
เมื่อ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสเดินทางไปพักผ่อนที่จังหวัดจันทบุรี เพราะได้รับข้อมูลจากเพื่อนๆ ที่เป็นนักการตลาดและผู้ประกอบการว่าจังหวัดดังกล่าวเขามีอะไรดีๆ มากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ดิฉันคิดว่าจันทบุรีมีของดีเพียงอย่างเดียว คือ อัญมณีประเภทต่างๆ แต่ความจริงแล้วเมืองจันทบูรหรือจันทบุรีในปัจจุบันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ น่าสนใจ และสามารถนำมาสร้างมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจให้กับจังหวัดได้
โดย เฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีหลากหลายไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออก เนื่องจากเป็นคนที่ชอบทะเล ดิฉันถามถึงชายหาด นักการตลาดและผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่มาต้อนรับให้คำแนะนำด้านสถานที่ท่อง เที่ยว ก็แนะนำหาดจ้าวหลาว แหลมเสด็จ และแหลมสิงห์ ดิฉันก็เพิ่งทราบว่าจังหวัดดังกล่าวก็มีทะเล เพราะถ้าจะมาเที่ยวภาคตะวันออก คนทั่วไปมักพูดถึงแต่จังหวัดชลบุรี ระยอง และตราดกันเป็นส่วนใหญ่
หนึ่งวันเต็มๆ กับการเดินทางเพื่อสำรวจชายหาดและทะเล ดังกล่าว นอกจากทำให้เห็นอีกมิติหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี เนื่องจากทะเลยังคงความเป็นธรรมชาติและมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของ ประเทศ มีความสวยงามไม่แพ้ทะเลใน ภาคใต้เลย โดยเฉพาะการเดินทางสู่แหลมสิงห์ที่หลายคนบอกว่าคล้ายๆ กับท่องเที่ยวอยู่ในจังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ดิฉันได้เห็นจากการเดินทางไปพักผ่อนดังกล่าวก็คือ การรวมตัวกันของผู้ประกอบการในจังหวัดดังกล่าว เพื่อทำงานในลักษณะผนึกกำลังทางการตลาด
ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องแปลก อะไรที่ธุรกิจต่างๆ จะหันมาใช้กลยุทธ์ในการผนึกกำลังเพื่อสร้างพันธมิตรทางการตลาด เนื่องจากองค์กรขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในการตลาดมักทำงานในลักษณะพึ่งพา ซึ่งกันและกัน เพื่ออาศัยศักยภาพที่โดดเด่นของพันธมิตรในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ แต่สิ่งที่ดิฉันได้สัมผัสการทำงานของผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวในจังหวัด จันทบุรี นอกจากจะรวมตัวกันเป็นสมาคมโดยใช้ชื่อว่า สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีแล้ว กลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันและอยู่ในละแวกเดียวกันยังสามารถ รวมตัวกันเป็นชมรมเพื่อทำงานร่วมกันในลักษณะพันธมิตร
หลายคนอาจสงสัย ว่าผู้ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันและอยู่ในทำเลเดียวกันน่าจะเป็นคู่แข่งกัน มากกว่า ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่มักเป็นเช่นนั้นเพราะการแข่งขันทำให้ธุรกิจมีคุณภาพที่ดี และผู้บริโภคได้รับประโยชน์เต็มๆ แต่เท่าที่สังเกตเห็นการทำงานร่วมกันของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในหาดจ้าว หลาวและแหลมเสด็จ ดิฉันคิดว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะแข่งขันกับตัวเองมากกว่าแข่งขันกับ เพื่อนๆ ในละแวกเดียวกัน โดยเฉพาะการแข่งขันเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจประเภทโรงแรมและรีสอร์ต
แต่การรวม ตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนและเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพราะต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับการตลาดในภาพรวม เพราะทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องการให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวได้รับรู้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและ รู้จักทะเลในจังหวัดจันทบุรีมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์และสร้างการรับรู้เรื่องการท่องเที่ยวให้กับหาดดังกล่าว
ธุรกิจ อื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน สามารถนำเอาหลักการทำงานในลักษณะผนึกกำลังทางการตลาดเพื่อสร้างพลังให้กับ ธุรกิจได้เช่นกัน เพราะการทำงานในลักษณะโดดเดี่ยวในปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ มากนัก แต่จะต้องสร้างพันธมิตรและเปิดตัวเองไปสู่โลกภายนอก เพื่อสร้างโอกาสในการศึกษาและเรียนรู้กลยุทธ์ใหม่ๆ จาก ผู้ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน แล้วนำมาพัฒนา กระบวนการทำงาน เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ดิฉันได้สัมผัสโดยตรงจากการเดินทางไปจังหวัดจันทบุรีในทริปนี้ ก็คือ การทำงานในลักษณะไม่ปิดตัวเองของผู้ประกอบการในชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว หาดเจ้าหลาว เช่น แซนด์ แอนด์ ซี รีสอร์ท หาดทรายทอง รีสอร์ท รวมทั้งจันท์จ้าวหลาว บีช รีสอร์ท และโอเอซิส ซีเวิลด์ ที่จัดแสดงปลาโลมาที่สุดแสนประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนจังหวัดจันทบุรี สุดท้ายขอฝากข้อคิดหนึ่งให้กับนักการตลาดและผู้ประกอบการที่ต้องการอยู่รอด ในการแข่งขันในตลาดปัจจุบันนี้ว่า "รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย" ดิฉันเชื่อว่ายังนำมาใช้เตือนใจได้ตลอดไปค่ะ