สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

HOME SWEET HOME อาณาจักรแห่งใหม่ใน dtac house

จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ STORY

โดย ทีมงาน DLife





ลิฟต์ บันได สไลเดอร์... ถ้าเป็นคุณล่ะ จะเลือกวิธีไหน ?

ไม่ ได้ถามเล่นๆ กับความขี้เล่นของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค (dtac) หลังย้ายออฟฟิศจากตึกชัยและอาคารอื่นๆ รวม 6 แห่ง มาสู่อาณาจักรแห่งใหม่ใจกลางเมือง ณ ชั้น 22-41 อาคารจัตุรัสจามจุรี แน่นอน ! บ้านใหม่ไซซ์ย่อมใหญ่กว่าเดิม ด้วยจำนวนลูกบ้านที่ตัวเลขเติบโตขึ้นตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา จาก 700 คน เป็น 3,200 คน บ้านหลังใหม่หลังใหญ่บนพื้นที่ 61,160 ตารางเมตรนี้ไม่เพียงถูกจัดสรรเป็น "พื้นที่ทำงาน" แต่ที่นี่ยังถูกเนรมิตให้เป็น "พื้นที่ไม่ทำงาน" อย่าง ห้องเลี้ยงเด็ก ฟิตเนส ห้องสมุด ห้องคาราโอเกะ ที่ซ้อมดนตรี ร้านเกม ร้านอาหาร ร้านไอศกรีม ไปจนถึงแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สามารถดื่มด่ำกับวิวมุมสูงของกรุงเทพฯแบบพา โนรามา... บลา...บลา...บลา...(แปลว่ายังมีอีกนะนี่ !)

"พื้นที่ไม่ทำ งาน" หรือที่เรียกว่า "Common Floor" มีทั้งหมดรวม 4 ชั้น อันได้แก่ ชั้นล็อบบี้ 32, 33, 34 และฟิตเนสชั้น 38 ที่สำคัญคือเป้าหมายไม่ได้จำกัดไว้ให้แต่ผู้บริหารระดับสูงใช้ แต่ให้พนักงาน !

ตามไปดูบ้านหลังใหม่ของดีแทค ภายใต้ยุคแห่งสมาร์ตออฟฟิศ แล้วคุณจะไม่สงสัยว่า ทำไมบรรยากาศตอกบัตรปุ๊บ กลับบ้านปั๊บ...อาจกลายเป็นประวัติศาสตร์ !

เล่น ซน ปนเรียนรู้

Play + Learn = เพลิน


"dtac ขับเคลื่อนด้วยคน จึงต้องลงทุนกับสิ่งที่แข็งแรงที่สุดก็คือ คน !" - ธนา เธียรอัจฉริยะ-

คุณ ทอเร่ จอห์นเซ่น และ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ 2 พ่อบ้านผู้ดูแลบ้านดีแทคหลังนี้ ช่วยกันเล่าที่มาที่ไปของการขึ้นบ้านใหม่ให้ฟังว่า เป็นการรวมออฟฟิศดีแทคที่กระจัดกระจาย ได้แก่

ตึกชัย, ยานนาวา, แอลพีเอ็น, วังเด็ก, อีสต์วอเตอร์เฮ้าส์, call center ศรีนครินทร์ (บางส่วน) ทั้ง 6 แห่ง นำมาอยู่รวมกันด้วยความคิดที่ว่า การมาอยู่รวมกันจะทำให้การทำงานสนุกขึ้นและช่วยเสริมสร้างงานให้มี ประสิทธิภาพ คุณทอเร่เสริมว่า ตัวเขาเองได้มีโอกาสเห็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทในหลายๆ ประเทศที่ให้พนักงานทั้งหมดมาทำงานรวมอยู่ในที่เดียวกัน มันเป็นเรื่องของการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ดีแทคก็เช่นกัน ส่วนคุณธนาเล่าให้ฟังถึงบ้านหลังเก่าที่

ตึกชัยอยู่ใช้มา 10 ปี ตั้งแต่ปี 1999-2008 แรกเริ่มเดิมทีตึกชัยเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ จึงไม่เหมาะกับการเป็นออฟฟิศที่ต้องรองรับพนักงานในปัจจุบันที่มีจำนวนมาก ถึง 3,200 คน

"ดีแทคเป็นมวยรอง เราจึงต้องเน้นความคิดสร้างสรรค์ คนทำงานที่ไหนก็ได้ที่มีสภาวะของการกระตุกต่อมความคิดสร้างสรรค์ บ้านใหม่ของดีแทคจะเห็นเลยว่าพื้นที่ที่สวยเป็นของพนักงาน ความคิดสร้างสรรค์เริ่มจากมุมที่นั่ง คิดอะไรให้ไม่เหมือนเดิม มากกว่านั่งคิดที่โต๊ะ หมายความว่า นั่งคิดตรงไหนก็ได้ ทำงานตรงไหนก็ได้ที่มี Wi-Fi วันก่อนลูกสาวผมมา ผมก็เพิ่งลองประชุมในห้องของเล่นเด็ก มันก็เป็นอะไรที่แปลก แต่ก็เป็นบรรยากาศใหม่ในการรวมไอเดีย ผมว่าถ้าเราคิดอะไรไม่ออกก็ลองขยับสถานที่ดู"

ไอเดียบ้านหลังใหม่ ปฏิสนธิมาตั้งแต่ปีก่อนเมื่อตอนเศรษฐกิจฝืด หลังจากทำเซอร์เวย์ทุกความต้องการของพนักงานแล้ว จึงได้ออกแบบออกมาเป็น "คอนเซ็ปต์เพลิน" ซึ่งมาจาก Play + Learn

common floor ที่ชั้น 32, 33, 34 และชั้น 38 จะเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้พนักงานได้ผ่อนคลายในบรรยากาศที่หลากหลาย ทั้งพบปะสังสรรค์ ปรึกษางานแบบเป็นกันเองโดยไม่ต้องขวนขวายไปหาร้านอาหารข้างนอก สามารถต้อนรับแขก ดื่มกาแฟหรือน้ำผลไม้ ชิมไอศกรีมสีฟ้าจาก iberry รส feel goooood สำหรับชั้น 38 เรียกว่า "Creativity Floor" ซึ่งจะเปิดให้พนักงานออกกำลังและผ่อนคลายนอกเวลางาน เลือกกันได้ตามความถนัดในโซนฟิตเนสและโซนกีฬาที่พร้อมพรั่งด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งลู่วิ่งในร่ม ชมวิวเล่นโยคะ หรือแอโรบิกแบบเอาต์ดอร์ ห้องซ้อมดนตรี ห้องคาราโอเกะ ตู้เกม ฯลฯ

Play + Learn เล่นซนปนเรียนรู้...การอำนวยความสะดวกพร้อมให้ความสนุกเพลิดเพลินกับการทำ งาน รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่ดีที่สวยงาม คือ วิสัยทัศน์ของ 2 พ่อบ้านดีแทคที่คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน นอกจากนี้ยังมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้พนักงานมีความรู้สึกมั่นคงอบอุ่นยิ่งขึ้น อย่างห้องให้นมลูก ห้องเด็กเล่น ห้องละหมาด ห้องสวดมนต์ฝึกสมาธิ แม้แต่ห้องประชุมที่ออกแบบไว้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ที่หน้าห้องประชุมยังมีห้องเล็กๆ โล่งๆ ขนาด 1 คนนั่ง มีไว้เพื่อไม่ให้การประชุมในห้องต้องสะดุด...

นั่นคือห้องรับโทรศัพท์ !

Beautifully Low Cost

ถูกกว่านี้มีอีกมั้ย ?


กว่าจะออกมาเป็นบ้านในฝัน ใช้งบฯตกแต่งทั้งสิ้น 450 ล้านบาท !!!

จะ ว่าแพงก็แพง แต่สำหรับการเนรมิตพื้นที่ 61,160 ตารางเมตร ให้ดีไซน์สวยล้ำพร้อมฟังก์ชั่นใช้งานตามคอนเซ็ปต์เพลิน บวกลบคูณหารแล้วคิดค่าตกแต่งเป็นเงิน 7,357 บาท/ตารางเมตร...ราคานี้ว่ากันว่า เป็นราคาที่ถูกที่สุดในเอเชีย (lower spending in Asia)

คุณธนาบอกว่า บ้านใหม่หลังนี้สร้างขึ้นมาเหมาะกับเวลานี้ที่สุด เพราะเศรษฐกิจไม่ดีในช่วงที่ผ่านมาทำให้ได้ของถูกที่สุด เรียกว่า "Beautifully Low Cost" คือใช้วัสดุไม่แพงแต่ดูดี !

80% ใช้วัสดุของเมืองไทย เป็นวัสดุไม่แพงแต่ดูดี เช่น เก้าอี้ราคาไม่กี่พันบาทแต่ออกแบบหรือหาวิธีทำให้เหมาะกับสรีระของคนทำงานใน แต่ละประเภท ยกตัวอย่างโต๊ะทำงานของพนักงานก็จะมี 3 ประเภท ได้แก่แบบ Strait สี่เหลี่ยมธรรมดา สำหรับงานทั่วไป, แบบ 120 องศาสำหรับงานระบบ และ

แบบ Hot Desk ที่กั้นเป็นคอกไม่มีที่เก็บของมากนัก ประเภทหลังสุดนี้เหมาะกับฝ่ายเซลส์ที่ไม่ค่อยนั่งทำงานที่ออฟฟิศ

การ หมุนเวียนกันมานั่ง ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะสำหรับทุกคน และการหมุนเวียนกันนั่ง ไม่มีโต๊ะใครโต๊ะมันก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้

เรื่อง ตกแต่งภายในต้องยกความดีให้ HASSEL ผู้ที่เนรมิตบ้านใหม่ให้ ไม่ลืมเรื่องของ green concept อย่างพรมที่ทำจากส่วนประกอบของขวดน้ำดื่มรีไซเคิล กระจก window glass 2 ชั้นกันความร้อน รักษาพลังงานภายใน ลดความร้อนจากภายนอก ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน ระบบลิฟต์ Mel Eye ประหยัดพลังงานด้วยการคำนวณรอบขึ้นลง รวมไปถึงการใช้วัสดุต่างๆ เพื่อประหยัดพลังงาน

พื้นที่ทำงานดีไซน์เป็นแบบ open office เปิดกว้างรับความคิดเห็นใหม่ๆ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยไม่มีกำแพงขวางกั้นการทำงาน ส่วนพื้นที่ common floor เป็นการตกแต่งแบบโมเดิร์น-คอนเทมโพรารี่ โดยเน้นใช้

สีเอิร์ธโทน ซึ่งมีผลไปถึงวัสดุจากธรรมชาติ อย่างระแนงไม้

ซึ่ง กั้นระหว่างพื้นที่สาธารณะ หรือแม้แต่โถงบันไดระหว่างชั้น common floor ก็ออกแบบให้สวยพร้อมใช้งานได้จริง โดยตัวบันไดจะมี 2 ระดับ ระดับปกติไว้เดินขึ้น-ลง นอกจากช่วยเรื่องการออกกำลังกายแล้ว เพื่อช่วยให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วย ส่วนบันไดระดับขั้นที่สูงกว่าปกติ (ซึ่งอยู่ด้านข้าง) ไม่ได้ใช้เดินแต่ผู้ที่ผ่านไปมาสามารถใช้นั่งพักได้

dtac house อีกหนึ่งบทสรุปว่า เรื่องของฟังก์ชั่นและดีไซน์...ไปด้วยกันได้ !

ห้อง CEO ที่เล็กที่สุดในเมืองไทย ?

ยกสิ่งอำนวยความสะดวกบนพื้นที่ส่วนใหญ่ให้พนักงานใช้ สำหรับเหล่าผู้บริหารขอใช้พื้นที่เท่าที่จำเป็น...

หลัง เดินผ่านห้องทำงานเหล่าผู้บริหารที่นั่งอยู่ในห้องกระจกขนาดกะทัดรัด คุณทอเร่พาไปดูห้องทำงานของตัวเอง ห้องกระจกโล่งๆ ด้านในนอกจากอุปกรณ์ออฟฟิศที่จำเป็นแล้ว ก็คงมีแต่เครื่องเสียงส่วนตัวที่เขาบอกว่า สิ่งนี้เป็นของส่วนตัวที่จำเป็นสุดๆ อ้อ! ไม่ลืมหยิบไมค์ทองคำมาอวด เปล่า ! เขาไม่ใช่เป็นกูรูเรื่องการร้องคาราโอเกะ คุณทอเร่เฉลยว่า เจ้าไมค์ทองที่ตั้งอยู่บนชั้นในห้องทำงานคือของที่ระลึกจากการเข้าฝึกอบรม media broadcasting

จากห้องทำงานคุณทอเร่ เดินลึกเข้าไปเป็นห้องทำงานของคุณธนา ... เอ่อรู้สึกว่า...ยังเล็กได้อีก !

นอกจากความเล็กที่เล็กกว่าห้องคุณทอเร่เข้าไปอีก ข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะทำงานก็เป็นของธรรมดา ดูเรียบๆ

สมถะ สุดๆ บนโต๊ะริมกระจกเรียงรายกรอบรูปภาพที่ถ่ายกับครอบครัว น้องโมนิชาและเมธิกา ลูกสาวทั้งสองของคุณธนาส่งยิ้มหวานอยู่ใต้กรอบสี่เหลี่ยม ลูกฟุตบอลกลิ้งอยู่ที่พื้น มีโปสเตอร์ฮีโร่แมงมุมสไปเดอร์แมนแปะอยู่หลังเสาที่แปะไวต์บอร์ด ตัวช่วยสำหรับใช้คิดโปรเจ็กต์ต่างๆ ใกล้เคียงกับที่วางรางวัลชนะเลิศประเภททีม (กีฬากอล์ฟ) ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นที่แปะแม็กเนตภาพยนตร์แทน

ดูเหมือนห้องของผู้บริหารทั้งสองแทบไม่ได้มีการตกแต่งอะไรให้หลุดไปจากคอนเซ็ปต์สมถะ...

"ส่วนมากผมก็อยู่ในห้องนี่แหละ เพราะพอผมไปชั้น 38 ทีไร...เต็มทุกที " ธนาหัวเราะ

ชาวดีแทคได้บ้านใหม่ แล้วลูกค้าได้อะไร

ใน โอกาสที่ชาวดีแทคได้บ้านใหม่ ลูกค้าดีแทคก็ได้ห้องปฏิบัติการแก้ปัญหาระบบเป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่ด้วย โดยศูนย์ควบคุมและปฏิบัติการดีแทค (World-class SOC - Service Operation Center) ที่ลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาทนี้สร้างขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจในระบบและบริการให้ลูกค้า ออกแบบเพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนการติดตามผลอย่างมีประสิทธิภาพ ดีแทคพัฒนา DSMART ขึ้นมาเป็นระบบปฏิบัติการของเน็ตเวิร์ก (Operation Support System - OSS) ที่สนับสนุนการทำงาน ช่วยให้การเก็บข้อมูล การแจ้งเตือน และการแก้ไขปัญหาแบบคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดปัญหาที่เกิดจากความขัดข้องของเน็ตเวิร์ก

นอก จากนี้ยังมีการใช้ระบบ CSS (Customer Service Support ) ซึ่งนำเจ้าหน้าที่ด้านวิศวะที่ได้รับการฝึกเพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกค้าโดย เฉพาะ เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของ DSMART ในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ costomer service ทั่วไปจะช่วยเหลือได้

...

dtac house อาจถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ตออฟฟิศในเมืองไทยที่เน้นสร้างบรรยากาศให้คนทำงาน นอกกรอบมากขึ้น เพราะการทำงานที่มีประสิทธิภาพใช่ว่าจะต้องหลังขดหลังแข็งนั่งหน้าคอมฯ ตั้งแต่เช้าจดค่ำ การบริหารการทำงานไปควบคู่กับการบริหารชีวิตที่เพลิดเพลินสนุกสนาน...นี่ แหละคือ ความสุขของคนทำงาน

ลิฟต์ บันได สไลเดอร์...ตกลงคิดได้รึยังว่าจะเลือกวิธีไหน ? :D

ตามดูออฟฟิศเก๋ๆ ที่เขาว่าดีที่สุดในโลก !

น่า จะเป็นการวัดจากเรื่องของการออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานที่เอื้อต่อคนทำงาน ในยุคสมัยปัจจุบัน ซึ่งบริษัทต่างๆ พากันมองเห็นความสำคัญของการตกแต่งสถานที่ทำงานให้ผ่อนคลาย หรือดูแล้วผ่อนคลาย ทุกอย่างก็เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด หยิบยกมาให้เห็น 10 แห่ง ล้วนแล้วแต่น่านั่งทำงานทั้งนั้น (ที่มา http://mtts26.igetweb.com)

1.พิกซ่าร์ สตูดิโอ : ผลผลิตแอนิเมชั่นที่แสนบรรเจิดอย่างภาพยนตร์เรื่อง Up หรือ Wall-E ของพิกซ่าร์ ล้วนแล้วแต่สัมพันธ์กันกับบรรยากาศการทำงานในออฟฟิศอย่างไม่ต้องสงสัย สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอสมองเพชรของที่นี่จึงว่าจ้างให้อินทีเรียร์ดีไซเนอร์นามว่า Bohlin Cywinski Jackson มาออกแบบสำนักงานใหญ่ของพิกซ่าร์ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

พนักงานเกือบหนึ่งพันกว่าคนของที่นี่ประกอบไปด้วยศิลปิน

แอ นิเมเตอร์ นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ความหลากหลายของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านตรงนี้ทำรูปแบบออฟฟิศมีลักษณะที่ผสม ผสานความคิดที่สื่อความหมายถึงคนทำงานเหล่านี้ โดยใช้โครงสร้างหลักเป็นเหล็กและอิฐ ลองชมดูว่าเขาตีความพิกซ่าร์ออกมาเป็นออฟฟิศนี้เช่นไร

2.เรดบูล : ออฟฟิศของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังอย่างเรดบูล หรือ กระทิงแดง ณ สำนักงานใหญ่ที่ย่านโซโหของลอนดอนก็ดูโดดเด่นเข้ากับแบรนด์เป็นอย่างดี สีสว่างสดใสของออฟฟิศบวกกับรูปทรงไดนามิก รวมไปถึงการตกแต่งสบายๆ อย่างเช่น การนำโต๊ะปิงปองเข้ามาวาง, ขั้นบันไดแบบลอยตัว (floating staircases), บาร์รูปทรงทันสมัย, ห้องนั่งเล่นที่ดูสะดวกสบาย, สไลเดอร์ตรงบริเวณกลางออฟฟิศ และภาพวิวทิวทัศน์ของย่านเวสต์เอนด์ในลอนดอน สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ช่วยส่งเสริมให้พนักงานสดใส กระปรี้กระเปร่า ราวกับดื่มเรดบูลในตอนทำงาน

3.กูเกิล : หากเห็นสำนักงานใหญ่ของกูเกิล เสิร์ชเอ็นจิ้นที่รอบรู้ทุกเรื่อง ที่ซูริก สวิตเซอร์แลนด์ แล้วไม่อยากไปทำงานที่นั่นก็ให้มันรู้กันไปเลย เพราะออฟฟิศที่นี่มีการตกแต่งที่เต็มไปด้วยความคิดมันๆ อยู่เต็มไปหมด อย่างเช่น สไลเดอร์เอาไว้เล่นที่โรงอาหาร ห้องมีตติ้งรูมเป็นรถกระเช้า หิมะปลอม และของเล่นอีกมากมาย ในอาคารสีสันสดใสที่จะทำให้คุณไม่รู้เบื่อ

4.TBWA : ออฟฟิศของบริษัทเอเยนซี่โฆษณาสาขาฮาคูโฮโด ที่ญี่ปุ่น ดูดีมีสไตล์เลยทีเดียว กับการรังสรรค์โดยอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ชื่อดังนามว่า klein dytham ที่เน้นธรรมชาติเป็นหลัก โดยใช้พร็อพอย่างต้นไม้ หญ้า และไม้ เป็นส่วนประกอบหลักที่มองไปทางไหนก็เห็นสีเขียวและน้ำตาลอ่อนซึ่งเป็นสีองค์ ประกอบของต้นไม้

5.pallotta teamworks : บริษัทที่ทำธุรกิจแนวช่วยเหลือสังคมบริษัทนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลอสแองเจ เลส สหรัฐอเมริกา ในออฟฟิศออกแบบโดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาวางเป็นห้องๆ ดูแล้วก็เก๋ดี

6.บริษัท Threadless ที่ผลิตเสื้อ t-shirts ของชิคาโก สหรัฐอเมริกา : ออฟฟิศแห่งนี้ได้ชื่อว่าดีไซน์สุดยอด การตกแต่งของที่นี่เต็มไปด้วยลวดลายทางกราฟิกเก๋ๆ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ไปเยือน จะเห็นได้ถึงความสนุกสนานที่แอบซ่อนอยู่ เหมือนการท่องไปในวิดีโอเกมยุคก่อน เป็นออฟฟิศที่นำงานศิลปะกราฟิตี้มาตกแต่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการจัดวางโต๊ะทำงานในแบบโปร่งโล่งสบายอีกต่างหาก

7.สำนัก งานใหญ่ของ ILSA MEDIA : ออกแบบโดย wat design เป็นออฟฟิศที่ตกแต่งแบบ 2 มิติ ในรูปแบบพิกเซลดีไซน์ นำภาพลายเส้นน่ารักๆ ในคอมพิวเตอร์ที่เหมือนมีความละเอียดไม่มาก มาตกแต่งตามที่ต่างๆ เวลาเข้าไปนั่งทำงานคงเหมือนหลุดเข้าไปสู่โลกคอมพิวเตอร์ที่สุดแสนมหัศจรรย์ เชียวล่ะ

8.ออฟฟิศสุดตะลึงของ danone waters ผู้ผลิตน้ำดื่มรายหนึ่งในญี่ปุ่น : ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ klein dytham รายนี้เขายึดความใสของน้ำเป็นสิ่งสำคัญ จึงนำขวดน้ำดื่ม danone นี่แหละมาสร้างเป็นผนัง เป็นส่วนแบ่งกั้น ดูแล้วอึ้ง เพราะด้วยความใสของขวดทำให้ออฟฟิศแห่งนี้ดูโปร่งและเท่ไปได้ในคราวเดียวกัน

9.บริษัทออกแบบเกมออนไลน์ "three rings design" ในซานฟรานซิสโก : ออกแบบโดยบริษัท because we can บริษัทนี้ภายในตกแต่งสไตล์ไพเรตออฟคาริเบียน มีการใช้โครงสร้างเหล็กดัดแปลงไปเป็นรูปทรงต่างๆ มีโต๊ะสนุ้กเกอร์ให้พนักงานได้เล่นผ่อนคลาย ด้านหลังเป็นแผนที่เสมือนว่าเดินทางไกลไปด้วยกัน ดูเยอะแต่ความหมายล้นเหลือ

10.สำนักงานใหญ่ของ Mother Advertising ในลอนดอน :

ออก แบบโดย Clive wilkinson รายนี้ถือแอ็กเคานต์ในมือดีๆ ทั้งนั้น อาทิ โคคา โคลา, ออเร้นจ์ ฉะนั้นการออกแบบออฟฟิศจึงธรรมดาซะที่ไหน ที่นี่เล่นกับพื้นที่มากๆ ทั้งความสูงของเพดาน ความกว้างโล่งของโต๊ะทำงานที่เป็นไซซ์ยักษ์ นั่งกันสบาย ไม่เบียดเสียด เพราะมีพนักงาน 80 คนเท่านั้น ดีนะที่เป็นบริษัททำโฆษณา ถ้าเป็นบริษัทธรรมดาคนทำงานจะเหงาไหมเนี่ย เห็นโต๊ะและความโล่งอย่างนี้อดเม้าท์แย่... :D (หน้าพิเศษ D-Life)

view