จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ Click world
ความ แรงของ "เฟซบุ๊ก" และฟีเจอร์การเชื้อเชิญเพื่อนเข้ามาอยู่ในเครือข่ายของตน ทำให้บริษัทการตลาดหัวใสจากออสเตรเลีย คิดค้นเครื่องมือด้านการตลาดใหม่ โดยการ "ขายเพื่อน" จำนวนครั้งละหลายๆ พันรายแก่ลูกค้าที่ต้องการ
เอ พีรายงานว่า เครื่องมือทางการตลาดรูปแบบใหม่นี้ถูกพัฒนาโดยบริษัท "uSocial" มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าทั้งองค์กรธุรกิจ, เซเลบริตี้ หรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการขยายเครือข่ายสังคมของตนให้มากขึ้นเข้ามาใช้ บริการ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทที่เข้ามาสามารถรวบรวมแฟนๆ เพื่อพูดคุยสื่อสารกับผู้ใช้งาน หรือสร้างการยอมรับเกี่ยวกับธุรกิจ หรือความคิดต่างๆ ผ่านทางชุมชนออนไลน์
uSocial.net เสนอแพ็กเกจขายเพื่อนในเฟซบุ�กให้กับลูกค้าในราคา 177 ดอลลาร์ สำหรับเพื่อน 1,000 คน ขณะที่ 5,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนเพื่อนสูงสุดที่สามารถมีได้ในเฟซบุ๊กถูกเสนอขายในราคา 727 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันมีโปรโมชั่นเพียง 654.30 ดอลลาร์ ถึงกลางเดือนกันยายนนี้
แต่ถ้าหากลูกค้าสนใจอยากหาแฟนคลับในหน้า "fan" บนเฟซบุ๊กซึ่งไม่จำกัดจำนวนเพื่อน บริษัทก็มีขายพร้อมรายชื่อจำนวน 1,000 ชื่อ ในราคา 177 ดอลลาร์ และ 10,000 รายชื่อ ในราคา 1,167 ดอลลาร์
"ลี ออน ฮิล" หนุ่มวัย 24 ปี ผู้ก่อตั้ง uSocial กล่าวว่า ธุรกิจและลูกค้าหลายๆ รายต้องการซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีศักยภาพในการเป็นลูกค้าในอนาคต
"เราจะมองกลุ่มเป้าหมายหลักไปที่เพื่อน หรือ fan ที่อยู่บนเฟซบุ๊ก ที่ตอบ "ตกลง" รับข้อมูลข่าวสารบนชุมชนแห่งนี้"
เขา ยังกล่าวด้วยว่า ธุรกิจหลายแห่งมีความสนใจในบริการของเขา เพราะตอนนี้คนทำธุรกิจต่างรู้ว่าเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม สามารถสร้างกระแสข่าวให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยต้นทุนที่ต่ำแต่มีประสิทธิภาพมากกว่าโฆษณาทางออนไลน์ หรือแม้แต่การโฆษณาแบบเดิมๆ
การทำงานของ uSocial คือจะล็อกอินเข้าสู่หน้าประวัติส่วนตัวของลูกค้า หรืออาจจะสร้างขึ้นมาใหม่ จากนั้นจะค้นหากลุ่ม เป้าหมายที่มีความเหมาะสมและตรงตามที่ลูกค้าต้องการ เพื่อส่งคำร้องขอเป็นเพื่อน อย่างไรก็ตามเพื่อนที่ได้รับการเชื้อเชิญมีสิทธิ์ที่จะตอบรับหรือไม่ก็ได้
แต่ ทั้งนี้ภายในคำขอนั้นจะไม่มีกล่าวถึง uSocial และกระบวนการที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากการทำงานด้วยสองมือ โดยฮิลอ้างว่าเพราะการทำงานด้วยมือนั้น ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่คิดว่าเป็นสแปมที่ส่งมารบกวน
การกระทำของ uSocial ถือว่ากระตุกหนวดเฟซบุ๊กพอสมควร แม้ว่าฮิลจะอธิบายว่า เขาไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความ ระคายเคืองกับบริการของเฟซบุ๊กก็ตาม
"บาร์ รี่ ซิคนิตต์" โฆษกจากเฟซบุ๊ก กล่าวว่า "uSocial ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนจากความพยายามของเฟซบุ๊กที่ต้องการสนับสนุนความน่า เชื่อถือให้เกิดขึ้น ดังนั้นการซื้อและการขาย หรือการกระทำใดๆ ที่ส่งผลต่อผู้ใช้งาน เราจะไม่ยอมรับ และเป็นสิ่งที่เราไม่ได้อนุญาต"
ปัจจุบัน เฟซบุ๊กกำลังดำเนินการสืบสวนการกระทำของ uSocial โดยการออกประกาศเตือนว่า บริษัทการตลาดของออสเตรเลียได้ละเมิดเงื่อนไขการรับบริการ เพราะเข้าไปในแอ็กเคานต์ของผู้อื่น หรือใช้พาสเวิร์ดของผู้อื่น นอกจากนี้หากพบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กละเมิดเงื่อนไขการรับบริการหรือซื้อเพื่อน จากบริษัทการตลาดออนไลน์ ทางเฟซบุ๊กจะดำเนินการต่างๆ ทันที ซึ่งรวมถึงการระงับการใช้แอ็กเคานต์อย่างถาวร
"เดบราห์ โอว วิลเลียมสัน" นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย eMarketer กล่าวว่า การทำของ uSocial ส่วนหนึ่งทำให้เกิดความน่าสงสัย แต่อีกด้านหนึ่งจะช่วยเพิ่มการปรากฏของบริษัทต่างๆ อยู่บนสื่อเครือข่ายสังคมได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
แต่ทั้งนี้การ กระทำลักษณะดังกล่าว อาจจะสร้างความรำคาญให้กับผู้เล่นเฟซบุ๊ก หรือบุคคลที่อาจจะเป็นลูกค้าของสินค้านั้นในอนาคตได้ ถ้ากลุ่มเป้าหมายกับธุรกิจนั้นไม่เหมาะสมกัน ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี uSocial ได้เขย่าวงการออนไลน์ ด้วยข้อเสนอที่คล้ายคลึงกันแก่ผู้ใช้บริการทวิตเตอร์ที่ต้องการเพิ่มจำนวน ผู้ตาม หรือสาวก (followers) และคิดเป็น ราคาแพ็กเกจลักษณะเดียวกัน
ขณะ ที่ปลายปี 2008 ที่ uSocial เปิดให้บริการครั้งแรกนั้น ได้เปิดบริการขาย "โหวต" ให้กับลูกค้าผ่านเว็บไซต์ Digg.com โดยคิดค่าบริการเกือบ 100 ดอลลาร์ สำหรับการโหวต 100 ครั้ง เพื่อให้ตำแหน่งของข่าวในเว็บสูงขึ้น แต่หากต้องการ 1,000 โหวต ต้องจ่ายถึง 700 ดอลลาร์เลยทีเดียว
ท้าย สุด Digg.com ได้ออกคำสั่งให้ uSocial หยุดการกระทำดังกล่าว โดยบอกว่าเป็นการละเมิดนโยบายของบริษัท แต่ทั้งนี้ uSocial อ้างว่า เพราะเขามีลูกค้าจำนวนมากเกินไปจนไม่สามารถรับมือกับความต้องการที่มี จึงต้องหยุดให้บริการ แต่บริษัทจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับซอฟต์แวร์ใหม่ที่มีความสามารถในการ โหวตมากกว่าเดิม