กฟผ.มึน ผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่หนุนตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ห้ามอยู่ในพื้นที่ตัวเอง
พร้อมกันนี้ได้ตั้งคำถามว่าต้องการให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใน จังหวัดตนเองหรือไม่ ประชาชน 59% ไม่เห็นด้วย ขณะที่ 32% เห็นด้วย และประชาชน 9% ไม่แสดงความคิดเห็น
เมื่อ พิจารณาผลสำรวจที่ออกมา สะท้อนว่าคนไทยยอมรับกับการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มากขึ้น แต่ไม่ต้องการให้สร้างในพื้นที่ของตนเอง ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเร่งชี้แจงข้อดีข้อเสียกับการก่อสร้างให้ ประชาชนได้เข้าใจ
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ตามแผนศึกษาการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กฟผ.ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาคือ บริษัท เบิร์นแอนโลว์ จัดทำผลศึกษาความเป็นไปได้ จะสามารถสรุปรายละเอียดทั้งหมดให้เสร็จภายในเดือนพ.ค. 2553 ซึ่งแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) กำหนดให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 2,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563-2564
ทั้งนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นส่วนหนึ่งของการกระจายเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันไทยพึ่งพาก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า 70% ทำให้เกิดความเสี่ยงขาดแคลน แต่ยอมรับว่าการใช้พลังงานทดแทนคงไม่สามารถแทนได้ทั้งหมด เนื่องจากต้องคำนึงถึงปัจจัยราคาค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมด้วย
ด้านนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ พิจารณาปรับปรุงแผนพีดีพีขึ้น มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน มีตัวแทนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องประกอบไปด้วยภาคราชการ การไฟฟ้า 3 แห่ง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และตัวแทนนักวิชาการและภาคประชาชน หลังจากนี้จะจัดทำประชาพิจารณ์ระดมความเห็นต่อการปรับปรุงแผนพีดีพี