จากประชาชาติธุรกิจ
หลัง วิกฤตต้มยำกุ้ง แนวทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการนำมาใช้ในการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดก็คือ การแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส ! ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สุดยอดเพราะทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากอยู่รอดจนมาถึง ปัจจุบัน และเมื่อมาเจอวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ซ้ำอีก แนวทางเดียวกันนี้ก็ยังใช้ได้ สำหรับคนที่คิดบวก...ท่ามกลางวิกฤตมีโอกาส
แปลน ครีเอชั่นส์ เจ้าของแบรนด์ "Plan Toys" ผู้ผลิตของเล่นจากไม้ยางพาราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็เช่นกัน ที่ประสบกับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เนื่องจากตลาดส่งออกของบริษัท 1 ใน 4 อยู่ที่สหรัฐอเมริกา พอเศรษฐกิจอเมริกาซบ ยอดขายก็ซบด้วย เฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้าของเล่นที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย พอเงินในกระเป๋ามีจำกัด ของเล่นจึงต้องถูกจัดอยู่ในอันดับท้าย ๆ
แต่ แปลนฯไม่ได้ยอมจำนนกับการจำกัดตัวเองว่าเป็นสินค้าของเล่นฟุ่มเฟือย หากแต่ใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการศึกษา พัฒนา เพิ่มบทบาทของตัวเอง จากการเป็นของเล่นในช่องทางตลาดรีเทล สู่การเป็นของเล่นเพื่อการศึกษา เพื่อเจาะเข้าสู่ ช่องทางตลาดโรงเรียนโดยเฉพาะ
"พฤติกรรมของพ่อแม่ ทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา ส่วนใหญ่จะเหมือนกันคือ ถ้าเป็นการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของลูกส่วนใหญ่จะไม่ตัด จะถูกจัดลำดับความสำคัญอยู่ในลำดับต้น ๆ" โกวิท ชมพูนุชยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด กล่าวและว่า พฤติกรรมดังกล่าวจึงเป็นที่มาของ PlanEducation แบรนด์สินค้าใหม่ของบริษัท ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความเชื่อที่ว่า ท่ามกลางวิกฤต มีโอกาส
โกวิท เล่าว่า ประมาณปีที่แล้ว บริษัทเริ่มได้สัญญาณไม่ดี ของอเมริกา เพราะเรามีบริษัทลูกอยู่ที่อเมริกา ทางทีมผู้บริหารก็มานั่งคิดกันว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี เพราะถ้าอเมริกาแย่ เราก็แย่แน่นอน เพราะตลาดอเมริกาเป็นตลาดของเล่นที่ใหญ่มาก ซึ่งก็พบว่าปัจจัยที่เป็นบวกสำหรับตลาดของเล่นก็คือ โรงเรียน ต้องเป็นของเล่นที่เป็นสื่อการเรียนการสอนเพื่อการเสริมสร้างพัฒนาการของ เด็ก และเจาะเข้าไปในตลาดโรงเรียนโดยตรง ไม่ใช่ลุยเจาะในช่องทางรีเทลเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำ
"ที่ผ่านมา Plan Toys ก็เป็นของเล่นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กอยู่แล้ว แต่ไม่ได้โฟกัสช่องทางตลาดโรงเรียน ซึ่งพอเห็นโอกาสแบบนี้ทางผู้บริหารก็ตั้งทีมใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีทั้งนักการศึกษา ดีไซเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการของเด็ก ฯลฯ มาร่วมกันพัฒนาของเล่น แนวใหม่ จนได้ออกมาเป็น PlanEducation ที่จะเปิดตัวครั้งแรกในงาน Worlddidac 2009 ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคมที่จะถึงนี้" โกวิทกล่าวและว่า โดยบริษัทใช้เวลาในการศึกษา วิจัย พัฒนาประมาณ 1 ปี จนออกมาเป็น PlanEducation ซึ่งจะเป็นทั้งแบรนด์ใหม่ ของเล่นคอนเซ็ปต์ใหม่ และช่องทางตลาด รวมถึงวิธีการทำตลาดแบบใหม่ที่จะแตกต่างไปจากเดิม
โดย ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บริษัทได้มีการนำไปทดลองใช้เป็นสื่อการสอนในโรงเรียนประเทศอังกฤษและ ฟินแลนด์ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากทั้งจากครูและเด็ก และปัจจุบันของเล่นชุดใหม่ก็มีออร์เดอร์จากออสเตรเลีย ไต้หวัน และไทยบ้างแล้ว
สำหรับของเล่นภายใต้แบรนด์ PlanEducation ช่วงแรกมี 3 ซีรีส์ ได้แก่ ซีรีส์ว่าด้วยการศึกษาเพื่อพัฒนาและสร้างเสริมจินตนาการของเด็ก, ซีรีส์เพื่อการเรียนรู้ชีวิต และซีรีส์ว่าด้วยการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ในช่วงปฐมวัยที่มีการออกแบบมา เป็นพิเศษโดยยึดหลักวิชาการทางการศึกษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กวัย 3-8 ปี
"แต่ละชุดจะประกอบด้วย ชิ้นของเล่นรูปทรงต่าง ๆ บล็อกไม้ ตลอดจนรูปภาพ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเป็นสื่อการเรียนรู้ให้คุณครูสื่อสารกับเด็กปฐมวัยได้อย่างมีความ หมายมากที่สุด และการออกแบบสื่อแต่ละชิ้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดใหม่ ที่เรียกว่า "Toy Chain" โดยสื่อการเรียนรู้ทุกชิ้นจะต้องทำหน้าที่ได้หลากหลาย นำมาเล่นร่วมกันได้ และสามารถนำไปใช้เล่นได้หลายระดับ นับตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ขั้นมาตรฐาน ไปจนถึงขั้นสูง"
โกวิทกล่าวตอนท้ายว่า เนื่องจากเป็นของเล่นไม้ที่เราโฟกัสบทบาทให้เป็นสื่อการเรียนการสอน ดังนั้นการทำตลาดจึงไม่ใช่แค่การแนะนำสินค้าเข้าไปในช่องทางเดิม ๆ แต่จะใช้วิธีการอบรม สัมมนา ให้ความรู้กับตัวแทนจำหน่าย จากนั้นก็จะมีเซลส์เข้าไปเจาะตรงยังโรงเรียนโดยเฉพาะ ซึ่งบริษัทค่อนข้างมั่นใจว่า PlanEducation จะเป็นสินค้าเรือธงที่จะช่วยขับเคลื่อนให้แปลน ครีเอชั่นส์ มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีหน้า