จากประชาชาติธุรกิจ
สัมภาษณ์
วัน ที่รอคอยของทุกคนมาถึงแล้ว ที่จะได้เห็น "ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์" โชว์ความสามารถในฐานะกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) "ดีดี" เริ่มเข้าทำงานวันแรก 19 ตุลาคม 2552 ให้สัมภาษณ์ด้วยการวางลุกและภาพลักษณ์ใหม่ อารมณ์เย็น พูดยาวปรับตัวตอบคำถามสื่อหลากหลายระดับความรู้มากขึ้น แถมมีสำนวนขอความเห็นใจด้วยประโยคทอง "ถ้าทุกคนรักผม ก็ขอให้เห็นใจการบินไทย อย่าขอโน่นขอนี่ เพราะบริษัทกำลังวิกฤตการเงินพนักงานต้องทุ่มเททำงานอย่างหนัก"
ปิยสวัสดิ์ ไล่เรียงภารกิจผู้นำทันที เริ่มจากเอ่ยปากยอมรับว่า การบินไทยอ่อนแอจากการแทรกแซงภายนอก จากนั้นจึงโปรยยาหอมถึงคณะกรรมการ (บอร์ด) ชุดนี้ได้ให้อำนาจเพิ่มเติมแก่ดีดีและฝ่ายบริหารจึงเป็นโอกาสที่จะนำพา องค์กรออกจากวงจรนี้ ควบคู่ไปกับแผนฟื้นฟูธุรกิจช่วงแรกทำไว้ได้ดีเกินคาด ไม่ได้เริ่มต้น จากศูนย์ มีความเป็นผู้นำในธุรกิจการบินด้านบริการ มาตรฐานการปฏิบัติการดีเยี่ยม เป็นผลมาจากทีมบริหารมีคนดีอยู่มากได้เข้ามาคุยกันหลายเดือนที่ผ่านมาและก็ คุยกับพนักงานช่วงเช้าวันแรกของการ รับตำแหน่ง ค้นพบว่าการบินไทยต้องเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะ 3 ประการ
1.ตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะผู้โดยสารมีหลากหลาก ต้องเพิ่มคุณภาพโปรดักต์และบริการอย่างรวดเร็ว 2.องค์กรต้องแข่งขันได้ในระดับโลก ต้นทุนการดำเนินงานต้องต่ำ จัดโครงสร้างการเงินให้แข็งแรงด้วยการปรับโครงสร้างคนและต้นทุนการบริหาร จัดการแนวใหม่ 3.องค์กรต้องปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วตามสภาพตัวแปรภายนอก ทั้งจากวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันเครื่องบินตลาดโลก เพราะการฟื้นฟูบริษัทต้องทำเป็นแพ็กเกจไปพร้อมกันจะมุ่งด้านตลาดการขายจาก สายการพาณิชย์ (DN) อย่างเดียวไม่พอ ฝ่ายช่างซ่อมบำรุงและการบริหารฝ่ายต่าง ๆ ภายในต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานอย่างรวดเร็วด้วย
ผมวางแผนไว้ 2 ช่วง ช่วง 2 ปีแรก 2553-2554 เป็นการฟื้นฟูบริษัทให้แข็งแรง ช่วง 2 ปีหลัง 2555-2556 มองไปข้างหน้าในการเป็นผู้นำสายการบินติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเชีย และ 1 ใน 5 ของโลก เข้าไปดูแลคุณภาพบริการให้มีมาตรฐานสม่ำเสมอ เพราะเรื่องนี้เป็นอุปสรรคต่อ การหารายได้และขายตั๋วโดยสาร ภายในแต่ละเที่ยวบินจึงต้องดูแลเมนูอาหาร เก้าอี้นั่ง ระบบบันเทิงภายในเครื่องบิน (inflight entertainment) ส่วนสายการพาณิชย์ต้องเร่งเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์อินเทอร์เน็ต ถึงขั้นที่ลูกค้าสามารถพิมพ์บัตรขึ้นเครื่องจากบ้านได้
ระบบบริหาร จัดการภายในตอนนี้การบินไทยเป็นมากกว่าราชการ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนระบบระเบียบใหม่ คนในสังคมไทยบ่นกันมากเรื่ององค์กรนี้ใช้เส้นสาย จากนี้ไปเรื่องการบริหารคนจะต้องสร้างมาตรฐานการประเมินผล (KPI) พร้อมกับต้องยอมสละสิทธิประโยชน์จากที่เคยได้รับเมื่อเดินทางไปดูแลธุรกิจ ต่างประเทศ EVP และ VP เคยนั่งชั้น 1 เฟิรสต์คลาส ต่อไปนี้จะขอเปลี่ยนเป็นแค่ชั้นธุรกิจ นำที่นั่ง เหล่านั้นไปทำเงินและส่วนต่างกำไรจะดีกว่า ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปทาง DN บอกกับผมว่า จะใช้ระบบการขายแบบใหม่ เมื่อผู้โดยสารชั้น 1 และชั้นธุรกิจจองตั๋วแล้ว ก่อนเดินทางจะกันสิทธิไว้ให้ 14 วัน พ้นจากกำหนดไปจะขายให้ผู้โดยสารอื่นที่รออยู่
และภายในปีนี้ผมจะให้ ผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (EVP) และผู้อำนวยการใหญ่ (VP) เซ็นสัญญาใช้ KPI ร่วมกับผมเพื่อไปเริ่มใช้วัดและประเมินทุกคนในปีหน้า
สำหรับ โครงการจัดซื้อจัดจ้างก็ต้องโปร่งใส ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จะต้องไปสู่ แผนปฏิบัติการโดยทำเวิร์กช็อปฟังความเห็นพนักงานก่อนจะสรุปเป็นแผนฟื้นฟู ธุรกิจเสนอบอร์ดปลายปีนี้
เมื่อถามถึงภารกิจภายใน 6 เดือนที่จะต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย "ปิยสวัสดิ์" ตอบอย่างมั่นใจว่า จะต้องยกเครื่อง ครั้งใหญ่ ทั้งโปรดักต์และฝูงบิน ตลอด 2 ปีแรกทุกอย่างต้องชัดเจนและดีมาก เริ่มจากการปรับปรุงเก้าอี้นั่ง ระบบบันเทิงภายในเครื่อง จากการทยอยทำฝูงบินเก่าโบอิ้ง B747-400 รวม 12 ลำ B777-300 อีก 6 ลำ มูลค่าการลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนแผนอนาคตจะดำเนินการทันทีภายในสิ้นปีนี้ โดยจัดฝูงบินปลดระวางของเก่าและนำเข้าของใหม่
เพราะตอนนี้การเงิน อ่อนแอ มีหนี้สิน ต่อทุน 3 : 1 ปี 2553 ผมจะทำให้เหลือ 2 : 1 สภาพหนี้สินจากการจัดซื้อเครื่องบินสัญญา 20 ปี แต่ต้องจ่ายระยะสั้น 5-6 ปีแรกจำนวนมหาศาล หนี้สินปัจจุบันมีอยู่ 1.6 แสนล้านบาท ภายในปีนี้ต้องจ่าย 4 หมื่นล้านบาท หลังผมรับตำแหน่งวันเดียว (20 ตุลาคม 2552) ต้องจ่ายหนี้ 8,000 ล้านบาท ปี 2553 มีภาระต้องจ่ายอีก 2.5 หมื่นล้านบาท ต่างจากเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อหารายได้ ปี 2551 ทำไว้ 2.02 แสนล้านบาท ปีนี้ลดเหลือ 1.57 แสนล้านบาท ปี 2553 ตั้งไว้ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่ม 18%
ส่วนกระแสตอบรับจากพนักงาน การบินไทยเมื่อพิธีต้อนรับ "ปิยสวัสดิ์" เสร็จสิ้นลง บุคลากรกว่าค่อนองค์กรสะท้อนว่า รู้สึกเฉย ๆ กับผู้นำคนใหม่ เพราะได้แต่ฟังภูมิรู้ยังไม่เห็นฝีมือการทำงาน ขอเวลาไม่เกิน 1 เดือน และไม่ต้องรอให้ถึงกำหนดประเมินผล 6 เดือน สังคมไทยจะได้คำตอบจากองค์กรสีม่วงการบินไทย
