แต่ ถ้าได้รับประทานไข่ทองคำล่ะรสชาติและคุณค่าทางอาหารจะครบเหมือนไข่ที่เรารับ ประทานกันหรือเปล่า เราเฉลยให้ก็คือ คุณค่าทางอาหารนั้นไม่ได้แตกต่าง รสชาตินั้นก็น่าลอง ส่วนรูปลักษณ์จะว่าแปลกใหม่ก็คงไม่ใช่ เพราะอาหารที่ร้านไข่ทองคำที่เราแนะนำในวันนี้ ออกแนวเป็นอาหารฟิวชัน ระหว่างอาหารไทย ฮ่องกง และญี่ปุ่นมากกว่า

ร้านไข่ทองคำนี้จะตั้งเฉพาะในฟู้ดคอร์ตตามศูนย์การค้าเท่านั้นครับ จากที่สอบถามจากทางร้านมาจะมีอยู่ประมาณ 2 สาขา คือ ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และโลตัสพระราม 4 ไม่มีตั้งร้านของตัวเองต่างหากเหมือนร้านอื่นๆ แรกเริ่มเดิมทีนั้นเจ้าของร้านนำเมนูไข่ข้นสูตรฮ่องกงมาจากต่างประเทศซึ่ง เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แล้วนำมาดัดแปลงเพิ่มเมนูให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น

ดังนั้น อาหารทุกเมนูที่เห็นในร้านนี้จึงต้องมีไข่ข้น ซึ่งมีหน้าตาคล้ายไข่เจียวแต่ยังตีไม่เข้ากันดี โปะหน้าข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ ทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวไข่ข้นไก่สวรรค์มันปู ข้าวไข่ข้นไก่ยากิโทรี ข้าวไข่ข้นปลาหมึกผัดซอส หรือข้าวไข่ข้นหมูตุ๋นกะเพรากรอบ ทุกเมนูราคาจะอยู่ที่ประมาณ 45 บาท ราคาขายจะว่าแพงก็คงไม่เชิง เพราะวัตถุดิบอย่างข้าวญี่ปุ่นนั้นก็มีราคาไม่น้อยอยู่ อันนี้คงต้องอาศัยวิจารณญาณของแต่ละท่าน

เริ่มที่เมนูซึ่งดัดแปลงมาจากเมนูสุดฮิตของทุกคนกะเพราหมูไข่ดาว เป็นข้าวไข่ข้นหมูตุ๋นกะเพรากรอบ รสชาตินั้นยังคงความเป็นผัดกะเพราอยู่ แต่เพิ่มความนุ่มหอมของหมูตุ๋นและเมื่อรับประทานกับข้าวญี่ปุ่นเม็ดเล็กๆ นั้นให้ความรู้สึกเข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นการดัดแปลงสร้างสรรค์เมนูกะเพราไข่ดาวอย่างดี

หรือจะรับประทานเมนูต้นตำรับอย่าง ข้าวไข่ข้นหมูย่างฮ่องกง ให้รสชาติหวานหอมของหมูย่าง กับไข่ข้นหวานมัน ถ้าถามผมว่าความอร่อยของทั้งสองเมนูนี้อยู่ตรงไหน ผมคงตอบได้ยากเพราะทุกอย่างต้องไปด้วยกัน ทั้งข้าวทั้งไข่และเมนูแต่ละหน้าที่เลือกมา จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปก็เหมือนเราสั่งข้าวกะเพราไก่ แต่ไม่ใส่ไข่ดาว

มีแกงส้มแต่ขาดไข่เจียว รับประทานได้แต่อร่อยไม่เต็มที่ เหมือนละครมีพระเอก แต่ขาดนางเอกและตัวประกอบ เมนูไข่ข้นก็เช่นกัน เรื่องรสชาตินั้นผมให้คะแนนผ่าน และเชื่อว่าหากใครได้รับประทานแล้วคงไม่รู้สึกเสียดายเงิน (มากนัก) อย่างน้อยๆ ก็ได้รับประทานเมนูฟิวชันแปลกๆ ในราคาที่ไม่แพงเกินไปที่ร้านไข่ทองคำ บางครั้งอาหารในฟู้ดคอร์ตก็ไม่ได้เลวร้ายเสียทุกร้านไป