จาก โพสต์ทูเดย์
รายงานโดย :สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์: |
เหลือเวลาอีก เพียงสองสัปดาห์ก็จะถึงปีใหม่แล้ว หลายกิจการที่ค้าขายเกี่ยวกับสินค้าเทศกาลก็คงเริ่มคึกคักขยับขยายเตรียม กระเป๋าตุงกันพอสมควร
ประเมิน จากสถานการณ์โดยรวมน่าจะดีนะครับ ทุกจังหวัดมีกิจกรรมหลากหลายมากระตุ้นท่องเที่ยวปีใหม่ ถ้าโชคดีได้อากาศหนาวแบบยาวๆ มาช่วยอีกนิด รับรองว่าคนไทยเที่ยวกันระเบิดเถิดเทิงแน่นอน
ส่วนท่านที่ค้าขายทั่วไปไม่ได้อานิสงส์จากช่วงเทศกาลปีใหม่ ระยะเวลาที่เหลือแบบนี้อาจจะกลายเป็นช่วงอึดอัดทางธุรกิจ พอสมควร ด้วยกระแสและอารมณ์ของผู้คนที่มุ่งสนใจกิจกรรม ฉลองความสุขเป็นส่วนใหญ่ ทำให้รายรับรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เดือนธ.ค. ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีและเป็นเดือนที่ต้องปิดงบ ผลการดำเนินงานของกิจการ จึงอาจกลายเป็นเดือนฝันร้ายของเถ้าแก่หลายคนที่ต้องวิ่งหาเงินมาต่อลมหายใจ ธุรกิจอย่างเหน็ดเหนื่อยกว่าทุกๆ เดือน
เรื่องสภาพคล่องหรือกระแสเงินสดจึงเป็นหัวใจสำคัญมากที่สุดของกิจการที่ ผู้ประกอบการต้องใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองอย่างจริงจัง!!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดือนธ.ค. เดือนปราบเซียน
เดือนที่มีวันหยุดมาก เดือนที่คาบเกี่ยวข้ามปีที่มีผลต่อการปิดงบการเงินของทุกกิจการ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงินที่ท่านไปกู้ยืมมาด้วย
เดือนที่ต้องเตรียมเงินสดไว้จับจ่ายซื้อของขวัญของที่ระลึก เดือนที่หลายกิจการต้องเตรียมเงินสดไว้จ่ายโบนัสให้ลูกจ้างคนงาน และเป็นเดือนที่ต้องเตรียมเงินสดไว้รองรับการดำเนินธุรกิจตอนเปิดร้านหลัง วันหยุดยาวช่วงปีใหม่
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผมจึงอยากเตือนดังๆ มายังท่านเจ้าของกิจการทั้งหลายว่า เดือนธ.ค.นี้ ท่านต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดให้เพียงพอ หลายอย่างอาจไม่เป็นดังหวัง ไม่เป็นดังที่คิด และไม่มาตามกำหนด ดังที่ตกลงไว้
ผมหมายถึงเงินที่จะเรียกเก็บจากลูกหนี้การค้าของท่าน!!
เงินที่ควรจะเก็บได้ตอนสิ้นเดือนเพื่อมาจ่ายค่าเช่า เงินเดือน โบนัส ค่าวัตถุดิบ และอีกจิปาถะ มันอาจไม่มาตรงเวลาเหมือนเดือนก่อนๆ
คู่ค้าของท่านอาจติดขัดกระแสเงินสดจริงๆ จากฝันร้ายเดือน ธ.ค. เหมือนท่าน หรืออาจจำเป็นต้องขยับการจ่าย เพราะต้องเอา ไปใช้กับเรื่องอื่นที่จำเป็นมากกว่า หรืออาจตั้งใจขยับการจ่าย เพื่อผลทางงบการเงินประจำปี หรืออาจเลื่อนจ่ายเพราะถูกคู่ค้าของ เขาขยับเวลาการจ่ายเช่นกัน เรียกว่ากระทบแบบลูกโซ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยิ่งถ้าได้รับเช็คการค้าลงวันที่ปลายๆ เดือนก็ยิ่งหนาว อย่าลืมว่าปีนี้หยุดยาวปีใหม่ 4 วันเต็ม ถ้าเช็คไม่ผ่านต้องยื่นใหม่อีกครั้งหลังปีใหม่ละก็ งานนี้หน้ามืดล่ะครับ
ฝากเตือนด้วยความหวังดี เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นก็ดีไป แต่ถ้าโชคร้ายเกิดกับเราโดยไม่เตรียมรับมือไว้ก็จะลำบากในการทำธุรกิจ สิ่งที่แนะนำได้คือพยายามเตรียมเสริมสภาพคล่องไว้ให้พอ อย่างที่บอก เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้จะดีกว่า
ท่านที่มีบัญชีโอดีกับธนาคารก็ควรกันยอดเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ส่วนท่านที่ไม่มีบัญชีโอดีก็สามารถนำเอาเอกสารการแจ้งหนี้ซึ่งประกอบไปด้วย ใบสั่งซื้อ ใบส่งของ ใบวางบิล และอื่นๆ นำไปโอนสิทธิการรับเงินกับธนาคารได้ ซึ่งเรียกสินเชื่อประเภทนี้ว่า สินเชื่อ แฟกตอริง
ถ้าคิดว่ารอเรียกเก็บเงินตามเวลาในเครดิตเทอมไม่ไหว ผมแนะนำให้ไปใช้สินเชื่อแฟกตอริงกันเหนียวไว้จำนวนหนึ่ง เพียงแค่เอาบิลแต่ละชุดไปขายให้ธนาคาร ก็จะได้รับเงินมาหมุนเวียนก่อนประมาณ 80% ของยอดเงินในบิล
สินเชื่อประเภทนี้สามารถเลือกใช้บริการได้หลายธนาคาร แต่ถ้าจะแนะนำก็ต้องที่เอสเอ็มอีแบงก์ เพราะดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ คิดแค่ 5% ต่อปีเท่านั้น รายละเอียดต่างๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ถ้าสนใจก็ควรรีบไปติดต่อขอตั้งวงเงินเอาไว้ ถึงเวลาจำเป็นต้องขายก็ขาย ไม่จำเป็นไม่ขาดเงินสดก็ไม่ต้องขาย
ทำธุรกิจเหนื่อยมาทั้งปีแล้ว ไม่อยากเห็นท่านเหนื่อยข้ามปี เดี๋ยวจะเที่ยวปีใหม่ไม่สนุกนะครับ