จากประชาชาติธุรกิจ

พระสยามเทวาธิราช เป็นเทวรูป หล่อด้วยทองคำสูง 8 นิ้ว ประทับยืนทรงเครื่องกษัตริยาธิราช ทรงฉลองพระองค์อย่างเครื่องของเทพารักษ์ มีมงกุฎเป็นเครื่องศิราภรณ์ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ ซ้ายยกขึ้นจีบดรรชนีเสมอพระอุระ ... แต่ดูเหมือนว่า ในช่วงหลายปีมานี้ อีลิท ในสังคมไทยเชื่อว่า บ้านเมืองอยู่รอดได้เพราะพระสยามเทวาธิราช

    ประชาชาติธุรกิจ ออนไลน์ รวบรวมวาทะกรรมและความเชื่อของชนชั้นนำในสังคมไทยที่ว่าด้วย " พระสยามเทวาธิราช"
     "การเป็นคนดีนั้นยาก ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ทุกคนทำได้ ผมเชื่อในพระสยามเทวาธิราชว่า ท่านมองเห็นการกระทำของคนไทยในชาติบ้านเมืองว่า ใครทำดีหรือไม่ดี ผมไหว้พระสยามเทวาธิราชทุกวัน และขอให้ท่านปกป้อง คุ้มครองบ้านเมืองเรา ขอให้ท่านทำคนที่ไม่ดีให้เป็นคนดี และทำให้คนดี เป็นคนดีมากๆ บ้านเมืองเราจะได้เป็นปกติสุขตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราช ดำรัสไว้"
         นี่คือ พรปีใหม่ ของพล.อ. เปรม ติลสูลานนท์  ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แก่บรรดาผู้นำเหล่าทัพ คณะนายทหาร นายตำรวจระดับสูง และลูกป๋า ที่ตบเท้าเข้าอวยพร ป๋าเปรม โดยพร้อมเพรียง  ณ. บ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา
        เอาเข้าจริงแล้ว ไม่ใช่แค่ ประธานองคมนตรี  ที่เชื่อว่าสังคมไทยมีโชคดีจากปาฎิหาริย์ของ "พระสยามเทวาธิราช" 
        ก่อนหน้านี้ นักข่าวถาม นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย  ในงานฉลองครบรอบ 74 ปี ของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีว่า  จะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ?
        คำตอบของ หลงจู๊ บรรหาร ก็คือ   "...คิดว่าบ้านเมืองเรามีองค์พระสยามเทวาธิราช แต่คงเป็นเพราะพระองค์ท่านไปท่องเที่ยวอยู่ที่ใด แต่ไม่ช้าท่านก็จะกลับบ้าน บ้านเมืองก็จะสงบเรียบร้อย
         ขณะที่  ศ. รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เคยกล่าวไว้ในยุครัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ว่า  " สังคมไทยโชคดีที่มีพระสยามเทวาธิราช" 
        ครั้งนั้น นักข่าวถามอาจารย์รังสรรค์ว่า  ในรัฐบาลสมัคร มีเรื่องกลุ้มใจอะไรบ้างในทางเศรษฐศาสตร์ ?
         นักวิชาการจากรั้วท่าพระจันทร์ ตอบว่า " โอ้!  คุณต้องทำจิตว่าง  ไปเที่ยวกลุ้มใจไม่ได้หรอก กลุ้มไปชีวิตก็ไม่มีความสุข คุณต้องทำจิตว่าง แล้วก็คิดถึงพระสยามเทวาธิราช นี่ผมไม่เล่นพูดเล่นนะ ผมเคยเขียนบทความ " 
         "...ในวงวิชาการเศรษฐศาสตร์มีการวิเคราะห์ว่า ทำไมประเทศต่างๆ จึงมีการเติบโต มีการพัฒนาที่แตกต่างกัน ความแตกต่างของพัฒนาการ ความแตกต่างของการเติบโตเกิดจากอะไร เกิดจากนโยบายหรือเกิดจากปัจจัยอื่น
        ก็พบว่า  LUCK ความมีโชค(เนี่ย)  ค่อนข้างเป็นปัจจัยที่สำคัญ ผมเลยตั้งชื่อใหม่ว่า พระสยามเทวาธิราช    นี่เป็นงานธนาคารโลกนะ งานวิจัยเขาก็ใช้เศรษฐมิติ แล้วก็มีตัวแปรต่างๆ ดูว่า นโยบายแตกต่างกัน ทำให้เติบโตต่างกันหรือไม่ ก็มีตัวแปรหลายอย่าง เสร็จแล้ว คำอธิบายที่อธิบายไม่ได้ เขาก็เลยตั้งชื่อว่ามันคือ  LUCK
         นักข่าวพูดขึ้นว่า ประเทศไทยโชคดีจริงๆ ที่มีพระสยามเทวาธิราช ?
         คำตอบของ อาจารย์รังสรรค์ คือ "ผมกลัวว่าพระสยามเทวาธิราชนอนหลับน่ะสิ (หัวเราะ) เพราะการแยกขั้วทางการเมืองจะทอนกำลังสังคมไทยทั้งในทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้  LUCK  กลับด้าน และพระสยามเทวาธิราชอาจไม่อยากทำงาน
        อีกคนที่เชื่อว่า พระสยามเทวาธิราชทำงานหนัก ก็คือ ดร. อักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด
         ช่วงปรากฏการณ์ศาลกู้ชาติ นักข่าวมีโอกาสสัมภาษณ์ท่านประธานปกครองสูงสุดว่า ความคาดหวังของสังคมไทยในยามวิกฤต อยู่ที่ศาลใช่หรือไม่ ?
      คำตอบที่ได้รับคือ "ประเทศไทยคงไม่ใช่มีแค่ศาล(มั้ง) พระสยามเทวาธิราชก็ยังมีความน่าเชื่อถืออยู่ในประเทศไทย แม้ว่าท่านจะเหนื่อยแสนเหนื่อยก็ตาม แต่ว่าใช้ได้ผลทุกครั้ง เวลาเข้าตาจนขึ้นมา ท่านทำงานหนัก อีกหน่อยจะต้องจัดพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช เพื่อตอบแทนพระคุณท่านอย่างแรง เพราะท่านเหนื่อย เพราะท่านทำงานเยอะ แล้วท่านก็ทำสำเร็จทุกครั้ง ไม่เคยพลาดเลย อันนี่เชื่อใจ"
       ทว่า ล่าสุด   "พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี"  หรือ  ว. วชิรเมธี  ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย พระนักคิดนักเขียนชื่อดัง เตือนสติคนไทยผ่านประชาชาติฯ ว่า
      "...เราคนไทยชอบพูดด้วยความประมาทว่า ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงอย่างไรสังคมไทยก็มีพระสยามเทวาธิราชย์"
       "...อาตมาคิดว่า ท่ามกลางวิกฤตสังคมการเมืองไทยที่แหลมคม ถ้าเราคิดอย่างนี้  ก็เท่ากับว่า เราไม่เชื่อมั่นสิ่งใดๆ แล้ว แม้กระทั่งตัวของเราเอง  ถึงต้องผลักภาระทั้งหมดไปให้พระสยามเทวาธิราชย์  อามาคิดว่า เวลานี้ท่านแบกภาระมากพอแล้วล่ะ  คนไทยต้องลุกขึ้นมาพึ่งตนเอง