จากประชาชาติธุรกิจ

ช่วงนี้ "ส.ส.เพื่อไทย"คึกคัก เป็นพิเศษ เพราะมีประเด็นมากหมายให้เลือกถล่มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้หลายประเด็นตั้งแต่กรณีการทุจริตงบประมาณปฏิบัติการตามโครงการไทยเข้ม แข็งของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการยกเลิกหวยออนไลน์ของนายกรัฐมนตรี ฯลฯ   แต่ท่ามกลางความคึกคักดังกล่าว  บรรดา ส.ส.เพื่อไทยลืมไปว่า ด้วยพฤติกรรมสนุกสนานจนขาดความบันยะบันยังในห้วงปลายปี 2552  ระหว่างงานฉลองปีใหม่ของพรรคเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา อาจทำให้ ส.ส.หลายสิบคนต้องตายหมู่ จนทำให้พรรคร้าง เพราะมีพฤติการณ์เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 103  พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

บทบัญญัติใน มาตรา 103 ดังกล่าว ห้าม มิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งหมายถึง ส.ส.ด้วย รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยา ตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด

แต่ปรากฎว่า ในงานเลี้ยงของของพรรคเพื่อไทย ซึ่งนอกจากจะมี ส.ส.บางคนเรี่ยไรเงินจาก ส.ส.ในพรรคได้เงิน 80,000 บาทอ้างว่า จะนำไปจ่ายค่าน้ำให้นักข่าวแล้ว ยังมีการจับสลากให้"ของขวัญ"แก่บรรดา ส.ส.ของพรรคนับร้อยคนจากจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 188 คน 

 ทั้งนี้ ของขวัญที่แกนนำพรรคนำมาแจกให้แก่บรรดา ส.ส.นับร้อยคนนั้นมีตั้งแต่รถกระบะโตโยต้าวีโก้ซึ่งราคาคันละเกือบ 1 ล้านบาท ส.ส.ที่โชคดีจับสลากได้คือ ส.ส.ศรีสะเกษ

 นอกจากรางวัลใหญ่ดังกล่าวแล้ว ยังมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหลายสิบเครื่อง นาฬิกาปาเต๊ะ 2 เรือน  จานดาวเทียมรางวัลละ 50 จานนับสิบรางวัล ฯลฯ

มี ส.ส.ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้หลายสิบคนซึ่งต่างยิ้มแย้มกันถ้วนหน้า แต่บรรดา ส.ส.เหล่านี้หารู้ไม่ว่า  รางวัลที่ได้รับอาจกลายเป็นทุกขลาภเพราะมูลค่าของขวัญแต่ละชิ้นมีมูลค่าเกิน 3,000 บาท ซึ่ง ส.ส.ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ เป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2543 ซึ่งกำหนดห้าม เจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาจากบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่ญาติในมูลค่าในการรับแต่ละบุคคล แต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000 บาท(ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.ข้อ 5(2))
ผู้ที่ฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(มาตรา 122 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต)

 ปรากฏการณ์ดังกล่าวนับเป็นเรื่องน่าสมเพชอย่างมาก เพราะ ส.ส.เพื่อไทยเองที่เป็นผู้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.สอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกรณีรับงาช้างจากนายโสภณ ซารัมย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และแหวนทองคำจากชาวบ้าน

 แต่เมื่อถึงคราวรับของขวัญในการจับสลากงานฉลองปี ใหม่ กิเลสบังตา ทำให้ลืมเรื่องที่เคยกล่าวหาผู้อื่นเสียสิ้น แม้เป็นการรับทรัพย์สินโดยธรรมเนียมประเพณีในโอกาสต่างๆซึ่งเข้าข่ายการรับ ทรัพย์สินโดยธรรมจรรยาตามประกาศ ป.ป.ช.

 แต่การรับทรัพย์สินดังกล่าวต้องมีมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาทอยู่ดี

แม้จะอ้างว่า  ของขวัญเหล่านี้แจกโดยพรรคต้นสังกัดก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะถึงที่สุดแล้วพรรคก็ได้รับของรางวัลเหล่านี้มากจากบุคคลอื่นอยู่ดี พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ทำให้ต้องโทษอาญาได้

 แต่น่าเสียดายที่พรรคคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ดีแต่โวหาร  ปล่อยให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยรุกไล่อยู่ฝ่ายเดียว น่าจะหาพยานหลักฐานว่า ส.ส.คนใดรับ"ของขวัญ"อะไรไปบ้างแล้วไปยื่ยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ซึ่งอาจจะทำให้ มีส.ส.เพื่อไทยตายหมู่หลายสิบคนจนพรรคร้างก็เป็นได้   ..............   ที่มา : มติชนออนไลน์ 6 ม.ค.53