สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ถนนไร้ฝุ่นของข้าใครอย่าแตะ

จาก โพสต์ทูเดย์

การยกเลิกโครงการถนนไร้ฝุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโครงการทั้งหมด 3,000 กว่าโครงการ ลงนามเซ็นสัญญาไปหมดแล้ว

โดย...ทีมข่าวการเงิน

การออกมาคิดนโยบายดังๆ ของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ว่าจะหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เพื่อยกเลิกบางโครงการในแผนไทยเข้มแข็งของกระทรวงที่พรรคร่วมรัฐบาลดูแล โดยจะพิจารณาตามความจำเป็น ความสำคัญของแต่ละโครงการในระยะยาว

ขณะเดียวกัน ก็พูดด้วยมธุรสวาจาออกมาว่า แม้จะเกรงใจพรรคร่วมรัฐบาลมาก แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการทุ่มงบลงไปในโครงการถนนไร้ฝุ่น เพราะมันไม่ได้เพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ถ้าจะกู้เงินต้องเอามาทำโครงการใหญ่ที่เกิดประโยชน์กับลูกหลานใน 30-40 ปีข้างหน้า

หลักคิดของไตรรงค์นั้นชัดเจนว่า การกู้เงินมาลงทุน รัฐบาลต้องมั่นใจว่าอัตราผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ย เช่น โครงการรถไฟรางคู่ โครงการสะพานสายเศรษฐกิจ

ก่อนจะโยนระเบิดตูมลงไปจนรัฐบาลและพรรคร่วมสะท้านไปทั้งคณะว่า “ผมไม่ได้หมายความว่าห้ามทำถนนไร้ฝุ่น แต่การทำเพิ่มต้องมีอัตราที่น้อยลงกว่าเดิม”

ดำริทางนโยบายของนายไตรรงค์จึงเจ็บลึกสุดใจบรรดานักเลือกตั้งและพรรคภูมิใจไทยที่ยกถนนไร้ฝุ่นทั่วประเทศมาชูหราเป็นนโยบาย

..................................

ถ้าพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม แนวคิดทางนโยบายของนายไตรรงค์ถือว่าโดนใจคนไทยจำนวนหนึ่งไม่น้อย เพราะงบถนนไร้ฝุ่นครอบคลุมทุกจังหวัดที่รัฐบาลได้จัดสรรผ่านงบไทยเข้มแข็ง รวม 4 ชุด

ชุดแรก อนุมัติโครงการและเงินลงไปแล้ว ระยะทาง 3,200 กิโลเมตร วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท

ชุดที่สอง ที่รอการอนุมัติโครงการและวงเงินอยู่ ระยะทาง 4,000 กิโลเมตร วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท

ชุดเสริม คือถนนลาดยางของกรมชลประทาน 3 หมื่นกิโลเมตร วงเงินร่วม 2.5 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาสร้างปีละ 5,000กิโลเมตร ต่อเนื่องถึง 6 ปี

ชุดแทรก คือถนนลาดยางเชื่อมชุมชนขององค์การ บริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ 1 แสนกิโลเมตร ระยะเวลาสร้างยาวนาน 10 ปี ใช้งบรวมทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาท

วงเงินรวม 7.8 หมื่นล้านบาทนั้น แม้จะสร้างความชื่นชอบให้กับชาวบ้านในระดับรากหญ้าที่จะได้มีถนนลาดยางมะตอย แต่ก็ถือเป็นจุดที่งบประมาณรั่วไหลอย่างมาก

ขนาดว่าโครงการถนนไร้ฝุ่นยังไม่ลง แต่ผู้รับเหมารายเล็กรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนไว้ และผู้รับเหมาช่วงต่างรับรู้กันแล้วว่า เส้นนี้ใครได้
บางรายเงินยังไม่ทันมา โครงการยังไม่ทันได้รับการอนุมัติ แต่เข้าไปขอวงเงินโอ/ดีกับธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้ในการก่อสร้างแล้ว

ขณะที่กระแสข่าวคาวฉาวโฉ่ว่า สส.ต่างแบ่งเค้กกันชัดเจนว่า พรรคร่วมได้ไปคนละ 23 เส้นทาง พรรคฝ่ายค้านรับไปคนละ 1 เส้นทาง ส่วนวิธีการหากินก็แล้วแต่ใครว่าจะมีเทคนิคอย่างไร

แต่เสียงของผู้รับเหมานั้นชัดเจนว่า “ชักสามสิบ”

ถ้างบ 100 ล้านบาท ถูกชักเปอร์เซ็นต์ไปสามสิบ วงเงินจริงที่ต้องไปซื้อหิน กรวด คนงาน ยันยางมะตอยจะต้องเหลือไม่เกิน 50 ล้านบาท ที่เหลือคือกำไรของผู้รับเหมา

คุณภาพถนนหนทางในแต่ละแห่งไม่ต้องพูดถึง แค่ลาดยางไม่ให้ฝุ่นคลุ้งเป็นอันใช้ได้...

นี่คือความจริงของถนนไร้ฝุ่นที่สร้างครอบคลุมทั่วประเทศ

แม้จะด้อยคุณภาพแค่ไหน แต่สำหรับเรื่องของจิตใจและความนิยมของคนในชนบทที่วันๆ กินแต่ฝุ่นของถนนดินลูกรังจนเท้าแดง หัวแดงแล้ว สส. นักการเมืองคนไหนนำถนนลาดยางเข้าหมู่บ้าน ตำบลได้ ความนิยมชมชอบ และเสียงขอบคุณจากคนในชุมชน หมู่บ้านย่อมไม่เคยเสื่อมคลาย

ลงเลือกตั้งคราไหน ย่อมได้ใจครานั้น

ภาพความจริงในการจัดสรรงบประมาณถนนไร้ฝุ่นจึงสำคัญสำหรับรัฐบาลที่มี 6 พรรคร่วม และกำลังต่อสู้กับความเชื่อถือในพรรคฝ่ายค้านอย่างหนัก สำคัญขนาดว่า ไม่จัดสรรไม่ได้

..................................

เสียงคัดค้านในการปรับลดงบถนนไร้ฝุ่นจึงถูกสวนหมัดจากบรรดารัฐมนตรีและแกนนำอย่างหนักหน่วง

คำค้านของ นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่กล่าวว่า การปรับลดโครงการถนนไร้ฝุ่นเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจกันได้ และไม่น่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาล

แต่ขอยืนยันว่า การลงทุนในโครงการถนนไร้ฝุ่นนั้น มีประโยชน์ต่อประชาชน และเป้าหมายการลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็งก็มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับ ประเทศ ไม่ได้มุ่งหวังที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเพิ่มขึ้น

อาจดูเบาๆ เพราะอาจเกรงใจนายไตรรงค์ที่ขึ้นชื่อลือชาว่า ปากกล้า ขาก็สู้...

แต่เสียงขู่ฟ่อของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมากล่าวว่า หากโละโครง การถนนไร้ฝุ่นที่พรรคภูมิใจไทยดูแล ก็ต้องพิจารณาการดำเนินการในโครงอื่นๆ ด้วย และต้องดูเงินในกระเป๋าของรัฐบาล

“ถ้าโละก็ต้องโละทุกพรรค และต้องเทียบตามบัญญัติไตรยางค์ แต่ยืนยันว่าไม่มีการต่อรองอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์” ชัดเจนไม่ต้องแปรความว่า อั๊วไม่ยอม...

อย่าแปลกใจที่เห็นน้ำเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า ไม่ได้มีแนวคิดปรับลดเงินตามแผนปฏิบัติการโครงการไทยเข้มแข็ง แต่จะเป็นการปรับลดโครงการต่างๆ ให้มีความเหมาะสมเท่านั้น

ขนาดมีการถกกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเรื่องการปรับเปลี่ยนงบไทยเข้ม แข็งให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ครม.ถอยไม่กล้าเปลี่ยนแปลงโครงการถนนไร้ฝุ่นของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีมูลค่า สูงถึง 3.3 หมื่นล้านบาท

เพียงแต่ปรับปรุงรายละเอียดโครงการเล็กน้อย แต่ไม่มีการปรับลดวงเงินงบประมาณใดๆ ในแต่ละโครงการ

สะท้อนว่า งบไทยเข้มแข็งในส่วนของถนนไร้ฝุ่นนั้นเป็นหัวใจสำคัญ

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่เป็นผู้จัดสรรโครงการก็ยืนยันว่า โครงการถนนไร้ฝุ่นเป็นประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโครงการต่อไป ไม่ได้มีการตัดทิ้งตามนายไตรรงค์แสดงความคิดเห็น

ทุบโต๊ะไปได้เลยว่า การยกเลิกโครงการถนนไร้ฝุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโครงการทั้งหมด 3,000 กว่าโครงการ ลงนามเซ็นสัญญาไปหมดแล้ว และที่ผ่านมาโครงถนนไร้ฝุ่นถือว่ามีความพร้อมในการลงทุนมากที่สุด มีการทำรายละเอียดของโครงการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ยังไม่มีโครงการไทยเข้ม แข้ง

ที่สำคัญโครงการถนนไร้ฝุ่นถือเป็นหน้าเป็นตาของปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพราะยอดการเบิกจ่ายไทยเข้มแข็งที่มีการเบิกจ่ายก็เป็นโครงการถนนไร้ฝุ่น เสียส่วนใหญ่

หากไม่มีโครงการถนนไร้ฝุ่น การเบิกจ่ายงบไทยเข้มแข็งวันนี้อาจจะล้มเหลวก็เป็นไปได้

ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง โครงการถนนไร้ฝุ่นนั้นมีครอบคลุมทั้งประเทศ แม้แต่ในกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรก็ยังมีงบโครงการถนนไร้ฝุ่นสูงถึง 500 ล้านบาท เป็นจำนวนถึง 22 โครงการ และทั้งหมดได้เซ็นสัญญาโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

หากโครงการนี้ถูกเบรกขึ้นมาจริง เห็นทีจะกระเทือนทุกหย่อมหญ้า แม้แต่ในเมืองกรุงก็ยังวุ่นวาย

view