จากประชาชาติธุรกิจ
ขอบคุณ : National Geographic ผลของความเครียดต่อหัวใจ
ระยะสั้น : เร่งอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อสูบฉีดเลือดที่อุดมไปด้วยพลังงานไปขับเคลื่อนกล้ามเนื้อให้ทำงาน
ระยะยาว : ความดันโลหิตสูง การอักเสบของผนังหลอดเลือด และเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ
ผลของความเครียดต่อสมอง
ระยะสั้น : เพิ่มความตื่นตัวและช่วยในเรื่องความทรงจำ กระตุ้นการหลั่งโดพามีนซึ่งเป็นสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความสุข
ระยะยาว : รบกวนการนอนหลับ เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล การเรียนรู้และความทรงจำเสื่อมถอย
ผลของความเครียดต่อระบบย่อยอาหาร
ระยะสั้น : การสูบฉีดเลือดไปยังกลไกการทำงานต่างๆ ที่สำคัญต่อการเอาชีวิตรอดในระยะสั้น จะยับยั้งความอยากอาหารและส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง
ระยะยาว : เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เพิ่มความเสี่ยงของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และลำไส้ใหญ่เกิดรัคายเคือง
ผลของความเครียดต่อระบบสืบพันธุ์
ระยะสั้น : ลดแรงขับทางเพศและชะลอการตกไข่ ขณะที่พลังงานถูกสูบฉีดไปยังกลไกการทำงานต่างๆ ที่สำคัญต่อการเอาชีวิตรอดในระยะสั้น
ระยะยาว : การตกไข่หยุดชะงักเรื้อรังและประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอในเพศหญิง อวัยวะเพศไม่แข็งตัวในเพศชายความต้องการทางเพศลดลงอย่างมากในสองเพศ .....ฟังเรื่องแย่ๆ กันมามากแล้ว ก่อนอื่นต้องระลึกว่า จุดประสงค์ของการทำความเข้าใจเรื่องความเครียดนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อที่จะหา ทางหลีกเลี่ยงทุกรูปแบบ ความตื่นเต้นที่มีระดับความรุนแรงและระยะเวลาที่เหมาะสม อย่างการเล่นรถไฟเหาะหรือการดูภาพยนตร์สยองขวัญ จะช่วยปล่อยโดพามีนเข้าสู่กลไกสร้างความสุขในสมองคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ คุณจะรู้สึกดีนั่นเอง เราเรียกความเครียดชนิดนี้ว่าสิ่งกระตุ้น และเราก็ยินดีจ่ายไม่อั้นเพื่อให้ได้มา
ยังมีอีกหลายวิธีที่ใช้จัดการกับความเครียดเรื้อรัง อย่างเช่น ในระดับชีววิทยา มีการใช้วัคซีนหรือยา ส่วนในระดับปัจเจกบุคคล วิธีจัดการกับความเครียดก็มีอยู่มากมายตั้งแต่การทำสมาธิ สวดมนต์ เต้นแอโรบิก จิตบำบัด และทำงานอดิเรกเรื่อยไปจนถึงการใช้ประโยชน์จากโอกาสทางสังคม
บางวิธีสามารถลดการตอบสนองต่อความเครียดได้โดยตรง การหายใจเข้าออกลึกๆ อย่างช้าๆ ขณะทำสมาธิจะลดการหลั่งฮอร์โมนเครียดลงได้ ขณะที่การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดระดับฮอร์โมนเครียดในสถานการณ์ ปกติได้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอย่างอื่นที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกในการบังคับควบคุมและคาดการณ์ ซึ่งรวมถึงความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาหลายหลายรูปแบบที่อาจให้คำอธิบาย ปรากฏการณ์หรือสิ่งต่างๆ (เช่นภัยพิบัติหรือความตาย) ที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ ตลอดจนสัมพันธภาพทางสังคมหลายลักษณะด้วย
เราพึงต้องจดจำและเตือนตัวเองเสมอว่า สิ่งต่างๆ เป็นเรื่องใหญ่เพียงแค่ในโลกหรือมายาภาพที่เราสร้างขึ้นเท่านั้น เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดควมเครียดอย่างที่ไม่มีใครจะเข้าใจได้ แต่ในเมื่อเราฉลาดพอ จนสามารถสร้างความวิตกกังวล ความทะเยอทะยาน และความอิจฉาริษยาขึ้นมาแล้ว ทั้งยังโง่พอที่จะหลงกลหรือตกเป็นเหยื่อกับดักเหล่านั้น เราทุกคนย่อมมีศักยภาพที่จะฉลาดพอจนมองเห็นและรู้เท่าทันมันเช่นกัน