จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
“วัชระ พรรณเชษฐ์”ออกโรงแจงแทนแม่ โอนเงินเข้าบัญชี"ป๋าเปรม"เพื่อบริจาคสร้างอาคารวัดสวนแก้ว โชว์หลักฐานสั่งจ่ายเช็ค-ใบอนุโมทนาบัตรลงนามพระพยอม
ที่ทำเนียบรัฐบาล-นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย บุตรชาย นางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานบริษัท เอ็ม เอ็มซี สิทธิพล แถลงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาระบุติดตามเส้นทางการเงินของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พบว่า ขณะดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลชั้นนำในสังคม และกลุ่มทุนรวมทั้งกลุ่มธุรกิจใหญ่ในประเทศไทยหลายกลุ่ม โดยเฉพาะคณะ 11 ที่รวมถึง นางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ได้โอนเงินให้ กับพล.อ.เปรม หลายครั้งใบละ ใบละ 1.8 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกับนางกัลยาณีแล้ว ซึ่งแม่ไม่สบายใจ จึงได้มอบหมายให้ตนมาชี้แจง ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทแล้ว
เพราะแม่ และน้องสาวเป็นผู้ดำเนินธุรกิจ แต่ต้องการชี้แจงให้เกิดความเป็นธรรมกับแม่ของตน เนื่องจากแม่รู้จักกับ ล.อ.เปรม มานาน และมีอายุก็อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน และแม่ก็เป็นคนชอบธรรมบุญ เมื่อรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ชอบทำบุญด้วย แม่จึงได้สั่งเช็คผ่านทางพล.เปรม เพื่อร่วมทำบุญด้วย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 - 2547 มีผู้หลักผู้ใหญ่มาชวนให้ทำบุญ ก่อสร้างโครงการสร้างบ้านทักษะชีวิต ที่วัดสวนแก้ว มูลค่าการก่อสร้างอาคารร่วม 6 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นสถานที่พักอาศัยของผู้คนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเข้ามาทำ ธุระในกรุงเทพ จะได้มีที่พักอาศัยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แม่จึงอยากร่วมทำบุญด้วย
นายวัชระ กล่าวอีกว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่แม่ตนให้ความเคารพนับถือ จึงได้สั่งจ่ายเช็คผ่านพล.อ.เปรม เพื่อเป็นตัวแทนไปทำบุญ เช่นเดียวกับการทำกฐิน ที่บริจาคผ่านคนที่เรานับถือและไว้ใจ จากนั้นพล.อ.เปรม ก็นำเงินไปบริจาคให้กับวัดเพื่อสร้างอาคารดังกล่าว โดยการสั่งจ่ายเช็คทั้งหมดจำนวน 5 ครั้ง และมีเช็คสองใบ สั่งจ่ายใบละ 1.8 ล้านบาท โดยเซ็คแต่ละไปมีชื่อเจ้าของผู้รับเหมาก่อสร้างเซ็นรับด้วย ที่สำคัญวัดสวนแก้วได้ออกใบอนุโมทนาบัตร ให้ด้วยในนามของ บริษัท เอ็ม เอ็น เอช โฮลดิ้ง จำกัด โดยมีชื่อของพระพยอมกัลยาโน เจ้าอาวาสกำกับด้วย ยืนยันว่าเป็นการบริจาคเงินเพื่อทำบุญจริงๆ เพราะช่วงนั้น บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัทของประเทศญีปุ่น สามารถตรวจสอบความโปร่งในการดำเนินการทั้งหมดได้
เมื่อถามว่าเพราะเหตุใด จึงต้องสั่งจ่ายเช็คในชื่อของพล.เปรม แทนที่จะบริจาคเองโดยตรงในนามบริษัท นายวัชระ กล่าวว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ที่แม่เคารพนับถือ จึงไว้ใจให้เป็นคนกลางในการรวบรวมเงินทั้งหมด เพื่อนำไปบริจาค ซึ่งทุกครั้งที่มีการสั่งจ่ายเช็ค ทางวัดก็ออกใบอนุโมทนาบัตให้ตรงกับเงินบริจาคทุกครั้ง ซึ่งแม่ตนจะทำบุญลักษณะเช่นนี้มาตลอด และการที่สั่งจ่ายเช็คผ่านพล.อ.เปรม ท่านก็ไม่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเป็นที่ปรึกษาของบริษัทแต่อย่างใด แต่เป็นผู้ใหญ่ที่แม่เคารพ และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ตลอดเวลา
เมื่อถามว่านางกัลยาณี ผู้เป็นมารดา เกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่ม 11 ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ร่วมกันโอนเงินให้กับพล.อ.เปรม นายวัชระ กล่าวว่า กลุ่ม 11 ที่ถูกกล่าวอ้างไม่ได้ตั้งกลุ่มขึ้นมาที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจแต่อย่าง ใด แต่เป็นกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกันมานาน อายุใกล้เคียงกัน มีการพบปะนัดรับประทานอาหารร่วมกัน แต่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจ ซึ่งคุณลุง คุณป้า ในกลุ่มนี้ ก็ใจบุญกุศล และร่วมกันทำบุญตลอด การพบปะกันไม่ได้มีวัตถุประสงค์อะไรเป็นพิเศษ ไม่ใช่กลุ่มเพื่อหาผลประโยชน์ แต่เป็นกลุ่มที่ทำงานร่วมกันเพื่อสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการแถลงข่าวนายวัชระ ได้นำรูปภาพอาคารโครงการก่อสร้างบ้านทักษะชีวิต พร้อมทั้งนำเช็คในนามของ บริษัท เอ็ม เอ็น เอช โฮลดิ้ง จำกัด ของธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมาก เลขที่ 3748879 สั่งจ่ายให้ พล.อ.เปรมติณสูลานนท์ ลงวันที่ ลงวันที่ 5 มีนาคม 2547 รวมถึงใบนุโมทนาบัตรที่ลงนามโดยพระพยอมกัลยาโน เจ้าอาวาสวัด จำนวน 1.8 ล้านบาท มาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย โดยนายวัชระ ระบุ ว่าทางวัดมีการออกใบอนุโมทนาบัตรให้เช็คทุกใบ แต่วันนี้นำมาแสดงเพียงใบเดียวตามที่นายณัฐวุฒิ กล่าวอ้าง ส่วนจะดำเนินการฟ้องร้องนายณัฐวุฒิ หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่คิดไกลถึงขั้นนั้น เพราะคนทำบุญย่อมมีจิตใจเป็นกุศล ไม่คิดเล็ก คิดน้อย
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเปิดเผยเส้นทางทางการเงินของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่รับเงินจากภาคธุรกิจ ว่า คนของพล.อ.เปรมได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้ว
กัลยาณี คณะ 11 คนจ่ายเช็คให้ "ป๋า" 3.6 ล้าน แม่เสี่ยโด่ง นักบุญ เจ้าแม่สิทธิผล ?
จากประชาชาติธุรกิจ
กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาปูดหลักฐานการรับเช็คของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จากนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานบริษัทเอ็มเอ็มซี สิทธิผล ย่อมเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของผู้คน เรามีข้อมูลลึกแต่ไม่ลับมานำเสนอ
... นายณัฐวุฒิ คนเสื้อแดง บอกว่า คุณกัลยาณี เป็่น 1 ในกลุ่มทุนที่ใช้นามว่า "คณะ 11" จำนวน 2 ใบ ใบแรกเช็คเลขที่ 3745366 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2546 และใบที่ 2 เช็คเลขที่ 3748879 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2547 รวม 1.8 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิบอกว่า พล.อ.เปรมมักจะเป็นประธานที่ปรึกษาขององค์กรคณะ 11 และน่าจะเป็นที่ปรึกษาของบริษัทเอ็มเอ็มซี สิทธิผล
ดังนั้น จึงมีคำถามว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้รับเป็นค่าตอบแทนในฐานะที่ปรึกษา ขององค์กรใช่หรือไม่ และถ้าใช่การสั่งจ่ายเช็คเหล่านี้จ่ายมาตั้งแต่เมื่อไหร่และจ่ายให้จนถึง เมื่อไหร่ การรับเงินจากบริษัทเอกชนที่มีเป้าหมายแสวงหากำไร เหมาะสมและบังควรหรือไม่อย่างไร
ขณะที่พล.ร.อ.พระจุณณ์ ตามประทีป ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพเรือ หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี ออกมาอาจเป็นเงินบริจาคให้มูลนิธิรัฐบุรุษ และเอานำไปใช้สำหรับสาธารณประโยชน์
ล่าสุด นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย บุตรชาย นางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ออกมาชี้แจงว่า มารดาสั่งจ่ายเช็คเพื่อทำบุญก่อสร้างอาคารวัดสวนแก้ว มูลค่า 6 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นงวดๆ มีหลักฐานเป็นใบอนุโมทนาบัตร ตั้งแต่ปี 2547
ส่วนสาเหตุที่ต้องสั่งจ่ายชื่อพล.อ.เปรม เพราะต้องการให้เป็นผู้รวบรวมดูแลในการทำบุญครั้งนั้น และติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้าง
เป็นที่เข้าใจได้ว่าการออกมาปูดข้อมูลของนายณัฐวุฒิ เจตนาก็เพื่อต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของ พล.อ.เปรมซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหาเป็นหัวหน้าอำมาตย์ที่อยู่เบื้องหลัง การโค่นล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เหมือนกรณีสนามกอล์ฟเขาสอยดาวซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงเชื่อว่า พล.อ.เปรมมีคอนเนกชั่นพิเศษกับตระกูลโสภณพนิชเจ้าของสนามกอล์ฟแห่งนี้ในช่วง ก่อนหน้านี้
กระนั้น นางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ เธอ เป็นใครและทำธุรกิจอะไร? ย่อมเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
จากการตรวจสอบพบว่า นางกัลยาณีเป็นแม่ของนายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งนายวัชระเคยเป็นหนึ่งในผู้บริหารพรรคไทยรักไทยเคยดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มี นายพินิจ จารุสมบัติ เป็นรัฐมนตรีว่าการในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
นางกัลยาณีเป็นเจ้าของธุรกิจขายรถมอเตอร์ไซด์และอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรรมการบริษัท 6 แห่ง ได้แก่
บริษัท สิทธิผลมอเตอร์ จำกัด ,บริษัท สหพัฒนายานยนต์ จำกัด , บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด ,บริษัท เซ่งง่วนฮง จำกัด ,บริษัท บ้านแม่น้ำ จำกัด และ บริษัท เอ็มเอส โฮลดิ้งแอนด์เฮาส์ซิ่ง จำกัด
ในจำนวนนี้กิจการที่ยังเปิดดำเนินการมีเพียง 2 บริษัท คือ บริษัท เซ่งง่วนฮง จำกัด และ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด
บริษัท เซ่งง่วนฮง จำกัด ประกอบธุรกิจ ขายรถจักรยาน จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 19 พฤษภาคม 2529 ทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 854-862 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ มีบริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด และ คนตระกูลลี้อิสสระนุกูลถือหุ้นใหญ่ โดยมี นายวิทยา ลี้อิสสระนุกูล นางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ นางศรีวัฒนา พิสิษฐเกษม นายทนง ลี้อิสสระนุกูล นางพรทิพย์ เศรษฐีวรรณ นายพิพัฒน์ ลี้อิสสระนุกูล เป็นกรรมการ
บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด เดิมชื่อ บริษัท เซ่งง่วนฮงสิทธิผล จำกัด ประกอบธุรกิจ ขายยางรถจักรยายนยนต์และหลอดไฟ ก่อตั้งวันที่ 6 มิถุนายน 2517 ทุนเริ่มแรก 30 ล้านบาท ปัจจุบัน 80 ล้านบาท ที่ตั้ง เลชที่ 815-823 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ นางพรดี ลี้อิสสระนุกูล และคนตระกูลลี้อิสสระนุกูลถือหุ้นใหญ่ และเป็นกรรมการ
ส่วนบริษัท สิทธิผลมอเตอร์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 8 สิงหาคม 2504 ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ประกอบธุรกิจลิสซิ่ง บริษัท สหพัฒนายานยนต์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 6 ตุลาคม 2507 ทุน 20 ล้านบาท ทั้ง 2 บริษัทได้ควบรวมกิจการ เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2530
บริษัท บ้านแม่น้ำ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อตั้งวันที่ 4 ธันวาคม 2530 ทุน 100 ล้านบาท อยู่ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางกัลยาณี พรรณเชษฐ์
นายวัชระ พรรณเชษฐ์ นางสาว วัชรี พรรณเชษฐ์ นางสาวถาวร พัวศิริรักษ์ และนางสาววิภาวี อุดมกะวานิช เป็นกรรมการ
บริษัท เอ็มเอส โฮลดิ้งแอนด์เฮาส์ซิ่ง จำกัด ให้เช่าอสังหาน ก่อตั้งวันที่ 14 สิงหาคม 2533 ทุน 300 ล้านบาท มีนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ นางสาววัชรี พรรณเชษฐ์
นางสาวถาวร พัวศิริรักษ์ นายวิทยา เอกนิคม นางสาววิภาวี อุดมกะวานิช และ นายวัชระ พรรณเชษฐ์ เป็นกรรมการ
บริษัท บ้านแม่น้ำ จำกัด และ บริษัท เอ็มเอส โฮลดิ้งแอนด์เฮาส์ซิ่ง จำกัด ได้ควบรวมกัน เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2542
ในทางการเมืองไม่มีข้อมูลว่าตัวนางกัลยาณีสนับสนุนพรรคไหน?
แต่นายวัชระเคยสนับสนุนพรรคเพื่อแผ่นดิน
ส่วนนายทนง ลี้อิสระนุกูล หุ้นส่วนนางกัลยาณีในกลุ่มสิทธิผลมอเตอร์ เป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์