สำนักงานบัญชีในฝัน(ร้าย) (2)
PAL0433
คราวที่แล้วได้เล่าประเภทสำนักงานบัญชีไปประเภทหนึ่งแล้ว วันนี้เอาไปอีกซักสองประเภท พอหอมปากหอมคอจ๊ะ
2.สำนักงานบัญชี อีแอบ
หลายครั้งที่เรามักเจอว่า เมื่อเราจ้างสำนักงานบัญชีทำบัญชีให้และถูกเรียกตรวจ เรามักจะให้สำนักงานบัญชีไปติดต่อสรรพากรแทนเรา พอเริ่มดำเนินการก็จะบอกว่าถูกประเมินหลักแสนหลักล้าน ทิ้งเวลาไปได้ซักพักสำนักงานบัญชีก็จะบอกว่าค่าปรับต้องจ่ายให้กับกรมตามที่เจ้าหน้าที่ประเมินจำนวนหนึ่งซึ่งสำนักงานได้ต่อรองลดลงมามากแล้ว ที่ลดลงมากอย่างนี้เพราะสนิทกันกับผู้ใหญ่ ส่วนเจ้าหน้าที่สรรพากรที่ทำเรื่องนี้อยู่เรียกเงินค่าปิดเรื่อง ถ้าไม่ได้เงินจำนวนนี้เจ้าหน้าที่จะไม่ปิดเรื่องให้ และจะรื้อต่อในประเด็นอื่นอีก ซึ่งอาจจะถูกประเมินเพิ่มอีกมาก เป็นที่แน่นอนว่าเจ้าของกิจการมักกลัวและยอมจ่าย สำนักงานก็จะนำเงินสดไปและแจ้งเจ้าของกิจการว่า จะไปดำเนินการจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่สรรพากร แต่เก็บไว้เสียเอง
สำนักงานบัญชีพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับอีแอบแสวงหาผลประโยชน์อยู่หลังชื่อของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ถ้าอยากทดสอบ ลองดูถ้าเจอกรณีดังกล่าวลองเอาเงินไปจ่ายเองดูว่าสำนักงานบัญชีพวกนี้จะว่าอย่างไร เรื่องนี้กรมสรรพากรก็รู้ หลังๆจะเห็นว่าเมื่อมีการเรียกตรวจ เจ้าหน้าที่มักจะให้เจ้าของกิจการเข้าพบเพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเจ้าของกิจการมักไม่อยากไปพบเพราะกลัว (ถ้าไม่ผิดไม่รู้จะกลัวทำไม) จริงๆแล้วเท่าที่เห็นเมื่อเจ้าของกิจการเข้าพบเจ้าหน้าที่จะเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะนอกจากจะได้คำแนะนำดีๆ ยังเป็นการสานสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ไว้ เมื่อมีปัญหาภาษีอะไรก็ยังพอถามได้ (ให้ไปอ่านบทความเรื่อง "เจ้าของกิจการควรไปพบเจ้าหน้าที่สรรพากรเองหรือไม่") ถ้าสนิทสนมจริงๆ อาจได้รู้นโยบายปฎิบัติด้านการเก็บภาษีในอนาคตอันใกล้ก็ได้ว่าจะเน้นเรื่องอะไรจะได้มีโอกาสตรวจสอบและแก้ไขทำให้ถูกต้องก่อนการถูกเรียกตรวจ และเป็นที่แน่นอนว่าคุณจะไม่ถูกสำนักงานบัญชีอีแอบหลอกเอาเงินไปแบบง่ายๆ
ถ้าใครเคยเจอหรือไม่อยากเจอสำนักงานประเภทนี้ก็ต้อง ฆ่าโง่ ทิ้งเสียด้วยการเดินเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่สรรพากรจริงๆ จะได้ไม่ต้องเสีย ค่าโง่ ให้เจ็บใจต้องมาโทษตัวเองภายหลังว่า ข้าโง่ .... (วรรคนี้อย่าไปอ่านให้ใครเขาฟังเชียวน่า... คนฟัง งง ตาย)
3.สำนักงานบัญชี ฉี่ไม่สุด
สำนักงานประเภทนี้ เวลาเข้ารับงานบัญชีมักจะไม่มีการทำสัญญาว่าจะเรียกเก็บเงินอย่างไร เวลาทำจริงก็ไม่โกหกครับ เก็บค่าบริการนิดเดียว แต่เก็บค่าอย่างอื่นอีกเพียบ ทำบัญชีแต่ต้องจ้างปิดบัญชี ตอนเวลาเก็บค่าบริการหลายๆครั้งแต่ทะยอยแยกเรื่องเป็นเรื่องๆ แยกการเก็บเงินเป็นครั้งๆ ทะยอยบิลมาเก็บค่าบริการกระปิดกระปอยเหมือนคนเป็นช้ำรั่วฉี่ไม่สุดซักที
ส่วนใหญ่เจ้าของกิจการมักไม่ได้เฉลียวใจเซ็นต์เช็คจ่ายไปโดยไม่ได้ตรวจดู สำนักงานประเภทนี้มักจะเรียกค่าบริการรายเดือนเป็นราคาต่ำมากๆจนไม่น่าจะทำได้เช่น ห้าร้อยบาทบ้าง พันหรือไม่ก็พันห้าร้อยบาทต่อเดือนบ้าง (อยากรู้ว่าทำไมให้ไปอ่านบทความเรื่อง "วิธีการเลือกสำนักงานบัญชี") เมื่อตกลงทำไปแล้วเมื่อจ่ายค่าทำบัญชีรายเดือนมักอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการเฉพาะภาษี ไม่รวมค่าจ้างบันทึกบัญชี และค่าปิดบัญชีรายครึ่งปี สำหรับยื่น ภงด 51 บ้างหรือ ปิดบัญชีประจำปี เพื่อยื่น ภงด 50 หรืองบการเงินบ้าง
โดยส่วนตัวเราเองไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ว่าทำไมต้องมี เพราะสภาพความเป็นจริงโดยเทคโนโลยี่ปัจจุบัน การทำบัญชีนั้นมีการจัดทำโดยใช้ซอฟแวร์ทางบัญชีซึ่งมีการจัดทำบัญชีแบบ online realtime แล้วเกือบทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อคุณนำเข้าข้อมูลทางบัญชีในโปรแกรมบัญชีเสร็จ คุณก็ได้งบการเงินทันที ไม่เห็นต้องปิดบัญชีเพราะโปรแกรมทำให้หมดแล้ว ทำไมกิจการต้องจ่ายค่าปิดบัญชี
มีบางสำนักงานมีการพัฒนาโปรแกรมบัญชีให้เป็นแบบการทำงานแบบเก่าของตัวเอง โดยการแยกโปรแกรมบัญชีออกเป็นสองส่วน คือ ให้ลูกค้าซื้อโปรแกรมที่พัฒนาจากตัวเองไปบันทึกเอกสารบัญชีเข้าไป และสำนักงานบัญชีจะมีโปรแกรมอีกส่วนหนึ่งที่เอา ดาต้าเบสของลูกค้าที่ KEY IN เอาไว้มาผ่านบัญชี (Posting) และปิดบัญชีอีกที เวลาเก็บค่าบริการส่วนที่ตัวเองมาผ่านบัญชีก็จะบอกว่าเป็นการปิดบัญชี มันพยายามกันจังที่จะทำอะไรให้มันยุ่งยากเพื่อที่จะทำให้ดูเหมือนว่างานมันเยอะทั้งที่มันไม่มีอะไร ใช้โปรแกรมที่มีขายในท้องตลาดเยอะแยะก็ใช้ได้กันทั้งนั้นเป็นส่วนใหญ่ หรือว่าจะเอาแบบฟรี ของสภานักบัญชีเขาก็มีไว้ให้ ดาวน์โหลดกันฟรีๆ และโปรแกรมบัญชีประเภทที่พัฒนาขึ้นมาเอง ไม่ถูกต้องตามที่กรมสรรพากรกำหนดไว้อีกต่างหาก
นี่แหละจ่ายแพงแต่ได้ไม่ดี โบราณเขาว่าไว้ "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย " ถ้าแบบแนวๆหน่อยก็ต้องบอกว่า “จ่ายเงินกันอย่างนี้ มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย”
ถ้าถามถึงจรรยาบรรณของสำนักงานบัญชีก็คงยาก เพราะอย่างที่บอกไว้สำนักงานมันไม่ใช่นักบัญชี จะให้มีจรรยาบรรณนักบัญชีคงไม่ได้ ส่วนเจ้าของกิจการมักไม่ว่าอะไรเพราะว่ากลัวไม่อยากเปลี่ยนสำนักงานบัญชี...............กลัววววววววจนตัวสั่น
ความคิดเห็น