สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สธ.ออกประกาศห้ามสูบบุหรี่ในที่ สาธารณะ100% มีผลบังคับใช้ใน 90 วัน

จากประชาชาติธุรกิจ


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้ลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 19 พ.ศ. 2553 เรื่อง กำหนดชื่อหรือประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่ สูบบุหรี่ และกำหนดส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของสถานที่สาธารณะดังกล่าวเป็นเขตสูบ บุหรี่หรือเขตปลอดบุหรี่ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 คาดว่า เนื้อหาของประกาศดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วันหลังจากประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าจะนำไปลงประกาศได้ภายในไม่เกิน 1 เดือน  

ดังนั้นนับจากนี้ไปไม่เกิน 4 เดือน พระราชบัญญัติฉบับนี้จะต้องมีผลบังคับใช้ หากฝ่าฝืนผู้สูบมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยผลสำรวจการบริโภคยาสูบในผู้ใหญ่ระดับโลกปี 2552 คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ไม่สูบบุหรี่จำนวน 40.13 ล้านคน   นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า เนื้อหาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับใหม่นี้ ได้จัดสถานที่สาธารณะที่เป็นเขตห้ามสูบบุหรี่ให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจและการนำไปใช้ โดยกำหนดสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ มี 5 ประเภท ได้แก่ 1.สถานบริการสาธารณสุขและส่งเสริมสุขภาพ 2.สถานศึกษา 3.สถานที่สาธารณะที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ได้แก่ สถานที่ออกกำลังกาย สถานกีฬา ร้านค้า สถานบริการและบันเทิง บริเวณโถงพักคอย และบริเวณทางเดินทั้งหมดภายในอาคาร สถานบริการทั่วไป สถานที่ทำงาน สถานที่สาธารณะทั่วไป 4.ยานพาหนะสาธารณะทุกประเภท ได้แก่ ยานพาหนะสาธารณะ ในขณะให้บริการไม่ว่าจะมีผู้โดยสารหรือไม่ก็ตาม และสถานีขนส่งสาธารณะทุกประเภท และ5.ศาสนสถาน และสถานปฏิบัติธรรมในศาสนาและนิกายต่างๆ ต่อไปนี้ จะมีกลุ่มพื้นที่ที่ห้ามสูบบุหรี่ 3 กลุ่มใหญ่ คือ

1. สถานที่ที่ห้ามสูบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในอาคารหรือห้องทำงานส่วนตัว ห้ามสูบเต็มพื้นที่ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งเดิมกลุ่มนี้เคยอนุญาตให้สูบในอาคารบริเวณพื้นที่ที่จัดไว้หรือพื้นที่ ส่วนตัวได้ ประกอบด้วย

       1) อุทยานหรือศูนย์การเรียนรู้ สถานฝึกอาชีพ สถานกวดวิชา สถานที่สอนภาษาสอนดนตรี - ขับร้อง สอนการแสดง สอนศิลปะ สอนกีฬา สอนศิลปะป้องกันตัว และอื่นๆ

       2) ธนาคาร สถาบันการเงิน

       3) ศาสนสถาน

       4) สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้งหรือสนามกีฬา

       5) โรงพยาบาล หรือสถานรักษาพยาบาลทั้งคนและสัตว์ ที่รับผู้ป่วยหรือสัตว์ไว้ค้างคืน

กลุ่มที่ 2 คือ ห้ามสูบเช่นเดียวกัน จากเดิมที่เคยอนุญาตให้จัดพื้นที่สูบบุหรี่ในอาคารหรือสูบในห้องส่วนตัวได้ ขณะนี้ เปลี่ยนเป็นห้ามสูบภายในอาคารและสิ่งก่อสร้าง แต่อนุโลมให้จัดเขตสูบบุหรี่นอกอาคารและสิ่งก่อสร้างได้แก่

     1) สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือ หน่วยงานอื่นของรัฐ

     2) สถานที่ให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือแก๊สเชื้อเพลิง

     3) มหาวิทยาลัย สถานศึกษา สถาบันการศึกษา ตั้งแต่ระดับอุดมศึกษาขึ้นไป และ

กลุ่มที่ 3 ห้ามสูบ ในอาคารและสิ่งก่อสร้างเช่นกัน แต่อนุญาตให้สูบในอาคารได้เฉพาะพื้นที่ที่จัดไว้ สถานที่เดียวที่ยังอนุญาตให้สูบบุหรี่ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างได้ คือ ท่าอากาศยานนานาชาติ สุวรรณภูมิเฉพาะส่วนนานาชาติเท่านั้น

ทางด้านนายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดี กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 19 นี้ ได้ยกเลิกประกาศฉบับที่ 17 และ 18 เดิม ซึ่งกำหนดชื่อหรือประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ ไม่สูบบุหรี่ ส่วนที่มีการแก้ไขบังคับเพิ่มในฉบับที่ 19 นี้ ประการแรกได้แก่

1.ประเภทของยานพาหนะที่ห้ามสูบบุหรี่ บังคับถึงยานพาหนะสาธารณะทุกชนิด ในขณะให้บริการไม่ว่าจะมีผู้โดยสารหรือไม่ก็ตาม ได้แก่ รถแท็กซี่ รถไฟ รถราง รถตู้โดยสาร กระเช้าโดยสาร เรือโดยสาร เครื่องบิน ยานพาหนะโดยสารอื่นๆ ทั้งประเภทประจำทางและไม่ประจำทาง

2. ประเภทสถานีขนส่งสาธารณะ ได้แก่ ที่พักผู้โดยสาร ป้ายรถเมล์ บริเวณที่ใช้รอก่อนหรือหลังการใช้บริการยานพาหนะโดยสารทุกประเภท บริเวณอาคาร ชานชาลา และพื้นที่ภายใต้หลังคาของสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบกทั้งรถยนต์ รถไฟ และท่าเรือโดยสาร ส่วนท่าอากาศยานภายในประเทศ บังคับเฉพาะบริเวณในอาคารและพื้นที่ภายใต้หลังคา และ

ประเภทที่ 3 สถานที่ที่ใช้จัดประชุม อบรม สัมมนาหรือสันทนาการ บังคับทั้งอาคาร

ประการที่ 2 สถานที่ห้ามสูบ 100 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่

      1) สถานที่จัดแสดงศิลปวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์สถาน หรือหอศิลป์

      2)ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า สถานที่แสดงสินค้าหรือนิทรรศการ

      3) ร้านตัดผม ร้านตัดเสื้อ สถานเสริมความงาม

      4) สถานที่บริการคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ตู้เกมส์ ตู้คาราโอเกะ

      5) อุทยานหรือศูนย์การเรียนรู้ สถานฝึกอาชีพ สถานกวดวิชา สถานที่สอนภาษาสอนดนตรี - ขับร้อง สอนการแสดง สอนศิลปะ สอนกีฬา สอนศิลปะป้องกันตัว และอื่นๆ

      6) ธนาคาร สถาบันการเงิน

      7) ศาสนสถาน หรือสถานที่ประกอบศาสนกิจในนิกาย หรือศาสนาต่างๆ ในส่วนอื่นทั้งหมด นอกเหนือจากบริเวณที่ประกอบศาสนกิจ

      8) สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือสนามกีฬา

      9) โรงพยาบาล หรือสถานรักษาพยาบาลทั้งคนและสัตว์ ประเภทที่รับผู้ป่วยหรือสัตว์ไว้ค้างคืน

    10) สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ โดยอนุญาตให้จัดเขตสูบบุหรี่ได้เฉพาะส่วนที่เป็นอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถาน อุทยานหรือวนอุทยานแห่งชาติ

ประการที่ 3 สถานที่ที่อนุโลมให้จัดเขตสูบบุหรี่นอกอาคารและสิ่งก่อสร้างได้ ได้แก่ สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊สเชื้อเพลิง มหาวิทยาลัย สถานศึกษา สถาบันการศึกษา ตั้งแต่ระดับอุดมศึกษาขึ้นไป

ประการที่ 4 สถานที่ห้ามสูบเป็นบางส่วน ได้แก่ สถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีระบบปรับอากาศ ห้ามสูบบุหรี่เฉพาะบริเวณที่มีการขาย และโต๊ะรับประทานอาหาร

ประการที่ 5 สถานที่ดังต่อไปนี้ ได้แก่ โรงแรม รีสอร์ท สถานที่พักตากอากาศ ห้องเช่า หอพัก คอร์ท อพาร์ทเมนต์ หรือสถานที่ที่ให้บริการในลักษณะเดียวกัน และอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม ให้สูบได้เฉพาะห้องส่วนตัว เท่านั้น และ

ประการสุดท้าย สถานที่ที่อนุญาตให้จัดสถานที่สูบบุหรี่ภายในอาคารและสิ่งปลูกสร้างได้ คือ ท่าอากาศยานนานาชาติ

view