จาก โพสต์ทูเดย์
เฟอร์นิเจอร์ถือเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างในบ้านที่มีไว้คอยอำนวย ความสะดวกในการใช้งาน แต่หลายคนมักลังเลอยู่เสมอว่าจะเลือกอะไรดี ระหว่างเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
โดย...นิตยสารบ้านและสวน
เฟอร์นิเจอร์ถือเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างในบ้านที่มีไว้คอยอำนวยความสะดวก ในการใช้งาน แต่หลายคนมักลังเลอยู่เสมอว่าจะเลือกอะไรดี ระหว่างเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ก่อนอื่น “บ้านและสวน” ขอพาคุณมาทำความรู้จักกับเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 ชนิดนี้สักนิด
เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน คือการทำเฟอร์นิเจอร์แบบติดตายโดยยึดกับโครงสร้างของบ้าน มีข้อดีคือ สามารถออกแบบให้ใช้งานได้เต็มพื้นที่ และเพิ่มฟังก์ชันพิเศษได้ตามต้องการ แต่ถ้าจะปรับเปลี่ยนก็ต้องรื้อสถานเดียว จึงเหมาะกับห้องที่มีการใช้งานแน่นอน อย่างห้องครัว ห้องแต่งตัว ตู้เก็บของ และชั้นหนังสือ เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินยังแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
1. เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินมีโครงคร่าว นิยมทำโครงด้วยไม้เนื้อแข็งแล้วกรุด้วยไม้จริงหรือไม้อัด หนา 4 6 มิลลิเมตร สามารถโชว์ผิวไม้หรือปิดผิวด้วยวัสดุอื่นก็ได้ นิยมใช้ในบ้านพักอาศัย เพราะมีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นาน
2. เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินไม่มีโครงคร่าว ใช้วัสดุแผ่นที่มีส่วนผสมของเส้นใยไม้หรือพืชที่มีเส้นใย ผสานด้วยกาวสังเคราะห์ แล้วอัดให้เป็นเนื้อเดียวกัน อย่างแผ่น MDF (Medium Density Fiber Board), HDF (High Density Fiber Board) และแผ่นชิ้นไม้สับอัดหรือพาร์ทิเคิลบอร์ด (Particle Board) ที่มีความหนามากๆก็สามารถรับน้ำหนักได้ เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็ว ราคาประหยัด แต่ทนทานน้อยกว่าโครงไม้ และควรหลีกเลี่ยงความชื้น
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเป็นตัวๆ มีรูปทรงหลากหลาย สามารถซื้อมาวางได้เลย โยกย้ายได้สะดวก แต่มักจะไม่พอดีกับพื้นที่ ต้องอาศัยการจัดวางให้ดูลงตัว จึงเหมาะกับส่วนที่ต้องการการใช้งานที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย
สำหรับคนที่ยังลังเลว่าจะเลือกแบบไหน ลองตอบคำถาม 3 ข้อนี้ก่อน
1. ประโยชน์ เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดที่จะได้รับของเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินและลอยตัว รวมทั้งพิจารณาว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรบ้าง เช่น เน้นเรื่องความเรียบร้อย เน้นเรื่องการปรับพื้นที่ใช้งาน หรือเน้นเรื่องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดลองพิจารณาแต่ละจุดก็จะ รู้ว่า ตรงไหนบ้างที่ควรทำบิลท์อิน
2. สถานที่ พิจารณาว่าห้องนั้น ตำแหน่งนั้นเหมาะสมที่จะทำบิลท์อินหรือไม่ เช่น ห้องเด็กเล็กที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ก็ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวไปก่อน แต่พื้นที่ใต้บันไดซึ่งเป็นซอกมุม ก็ควรทำบิลท์อินเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ หรือห้องที่เป็นผนังกระจกต้องการความโปร่ง ก็ไม่ควรทำบิลท์อินให้ดูเกะกะ อาจวางเฟอร์นิเจอร์เป็นชิ้นๆ จะดูสบายตากว่า
3. งบประมาณ เมื่อรู้แล้วว่าตรงไหนจะทำบิลท์อินก็มาพิจารณางบประมาณที่ต้องใช้กัน อาทิ ถ้าเรารู้ว่าตรงไหนจะทำอะไร ก็จะสามารถกะงบประมาณเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง
ตัวอย่างราคาประมาณของการทำเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน
ชั้นโล่งติดผนัง ราคาเมตรละ 6,000-8,000 บาท
ตู้ลอย ราคาเมตรละ 8,000-10,000 บาท
ตู้สูงประมาณ 1 เมตร ราคาเมตรละ 12,000-15,000 บาท
ตู้สูงถึงฝ้าเพดาน ราคาเมตรละ 15,000-20,000 บาท
ตู้สองหน้าสูงถึงฝ้าเพดาน ราคาเมตรละ 20,000-25,000 บาท
เคาน์เตอร์ครัวสูงประมาณ 90 เซนติเมตร รวมท็อปหินและอุปกรณ์ในตู้เคาน์เตอร์บาร์ ราคาเมตรละ 12,000-20,000 บาท
หมายเหตุ ราคานี้เป็นราคาของตู้โครงไม้ และราคาจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และความยากง่ายของแบบ
ถึงตรงนี้คิดว่าหลายคนน่าจะพอได้คำตอบบ้างแล้ว ลองปรึกษาคนในครอบครัวอีกที ถ้าตัดสินใจได้แน่ๆแล้วก็เลือกเฟอร์นิเจอร์ในแบบที่คุณต้องการจริงๆได้ เลย...
Tips : 4 ช่องทางของการทำบิลท์อิน
1. ให้มัณฑนากรเป็นผู้ออกแบบ จะช่วยดูแลภาพรวมของทั้งห้องให้สวยงาม พร้อมให้คำแนะนำในการออกแบบและการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นทั้งประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร
2. ใช้บริการบิลท์อินสำเร็จรูปของบริษัทเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะมีแบบและตัวอย่างจริงให้ดู พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ สามารถปรับแบบและวัสดุได้ตามต้องการ ติดตั้งได้รวดเร็ว
3. ถ้าเป็นงานที่ไม่ต้องการความพิเศษมากนัก อาจให้ผู้รับเหมาบิลท์อินมาทำ ซึ่งบางรายก็พอออกแบบเองได้บางรายก็ต้องมีแบบมาให้ดู วิธีนี้ต้องช่วยตัวเองมากหน่อยแต่ก็ราคาประหยัดกว่า
4. ใช้บิลท์อินแบบน็อกดาวน์ เช่น ชั้นปรับระดับติดผนัง ตู้ติดผนัง ซึ่งมีขายตามศูนย์รวมของตกแต่งบ้านทั่วไป สามารถติดตั้งเองได้ แต่มีแบบให้เลือกจำกัด