จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ณัฐพล หวังทรัพย์

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ไม่อยากให้ตื่นตระหนกกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า แต่ภาพของบริจาคที่ลอยเกลื่อนในน้ำ

 และ ประชาชนผู้อพยพกว่า 500 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง ภายหลังรัฐบาลตัดสินใจย้าย ศปภ.ไป อาคารเอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์แล้ว

 ภาพ ความโกลาหลวุ่นวายที่จะนำไปสู่การจลาจลในวันข้างหน้า ที่ฝ่ายความมั่นคง นักวิชาการ รวมทั้งอดีตคนในรัฐบาล “ทักษิณ” วิเคราะห์ให้ฟัง ก็ลอยมาอยู่ตรงหน้า

 ต้องไม่ลืมว่าท่าอากาศยานดอนเมืองแห่งนี้เคย เป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบครบวงจร แต่รัฐบาลกลับปล่อยทิ้งให้สิ่งที่อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกลอยไปตามน้ำ หลังจากมวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของรัฐบาล

 หลาย ฝ่ายวิเคราะห์ตรงกันว่า ชนวนสำคัญที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย จนประชาชนเกิดการลุกฮือนั้น มี ปัจจัยสำคัญ คือ ความยากจน ภัยพิบัติธรรมชาติ และความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งปัจจัยต่างๆ ในขณะนี้มีครบแล้ว เพียงแต่รอวันสุกงอม

 ถ้าดูจากปัญหาน้ำท่วมในช่วง ที่ผ่าน ตามตัวเลขของกระทรวงอุตสาหกรรม จะพบว่ามีแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบตกอยู่ในภาวะว่างงาน แล้วกว่า 6.6 แสนคน ทั้งนี้ไม่รวมแรงงานที่อยู่ในเศรษฐกิจนอกระบบ เช่น พ่อค้า แม่ค้า ก็ขาดรายได้ ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกับพนักงานในโรงงานที่ถูกน้ำท่วม

 ขณะที่สินค้า อุปโภคบริโภค ก็มีราคาสูง แถมยังขาดแคลน แต่กลไกการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานรัฐก็มีข้อจำกัด ไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง คนที่ทนความหิวโหยไม่ไหว ก็จะต้องดิ้นรนทุกทางเพื่อความอยู่รอด ปัญหาที่จะตามมาคือการก่ออาชญากรรมที่สูงขึ้น

 นอกจากนี้ เมื่อดูจากกลไกการบริหารงานของรัฐที่ยังเอาการเมืองเข้ามาจัดการวิกฤติ แถมยังแบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งแยกสี  และเลือกปฏิบัติในขณะนี้ ก็จะเป็นปัจจัยซ้ำเติมให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนมากขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงให้กลุ่มที่ไม่ได้รับความเท่าเทียมในการให้ความช่วย เหลือจากรัฐ ลุกฮือขึ้นก่อความวุ่นวาย

  ที่สำคัญคือกลไกการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในปัจจุบันทั้งเจ้า หน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ข้าราชการประจำ ที่มีบทบาทในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมน้อย

 ถ้า จะอธิบายให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ขอให้ลองนึกภาพหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งที่ถูกน้ำท่วม เมื่อชาวบ้านอพยพออกมา ขโมยก็อพยพเข้าไปทันที แต่กลับไม่มีใครเห็นการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่ผ่านมา

 ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่ากลไกของข้าราชการประจำไม่ได้เป็นที่พึ่งพาของประชาชน

 เมื่อ อำนาจรัฐอ่อนแอไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ สุดท้ายก็จะนำไปสู่ ระบอบอนาธิปไตย ที่ทุกคนต้องช่วยตัวเอง ปกป้องตัวเอง บ้านเมือง ไม่มีขื่อ ไม่มีแป

 ถึงตรงนั้น ต่อให้รัฐบาลอัดฉีดนโยบายประชานิยมมาเอาใจคนเท่าไร หรือปรับ ครม.ใหม่สักกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถหยุดปัญหาที่เกิดขึ้นได้

 ถึง เวลาที่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ต้องยกเครื่องการบริหารงานครั้งใหญ่ เลิกแนวคิดเอาการตลาดมาบริหารประเทศ เพื่อความนิยมทางการเมืองเสียที

 ปัญหาของประเทศชาติในขณะนี้ซับซ้อนมากกว่าที่นักการเมืองคิด อย่ารอให้การจลาจล เป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลไม่อาจปฏิเสธ

สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี