จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
นาทีนี้ ชาวเฟซบุ๊กคนไทยจำนวนไม่น้อยได้รับข้อความส่งต่อวิธีการรับมือกับ “เพจหมิ่น” หรือเพจที่มีเนื้อหาดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งแนะนำให้ทุกคนกดรายงานเฟซบุ๊ก หรือ “Report page” เพื่อให้ทีมงานเฟซบุ๊กพิจารณาและลบเพจออกไปโดยไม่ต้องแจ้งผู้สร้างเพจ หลายคนตั้งคำถามว่า เฟซบุ๊กจะมีมาตรฐานอย่างไรในการพิจารณาปิดเพจ หรือการรายงานจะต้องมีความถี่และจำนวนเท่าใด เฟซบุ๊กจึงจะตัดสินว่าเพจดังกล่าวเข้าข่าย “พฤติกรรมรุนแรงเป็นอันตราย” จริง คำตอบนั้นไม่มีระบุในคำชี้แจงของเฟซบุ๊ก มีเพียงการยืนยันชัดเจนว่าโป รไฟล์ กลุ่ม เพจ หรือคอนเทนต์ใดๆ ที่ถูกรายงาน หรือ Report แก่เฟซบุ๊ก ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเฟซบุ๊กจะลงมือลบหรือปิดกั้นการใช้งานไป เฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กเป็นชุมชนออนไลน์ที่มีความหลากหลายมาก เป็นไปได้ว่าหลายคนจะไม่เห็นด้วยหรือถูกรบกวนโดยความเห็นที่ไม่เข้าข่าย เกณฑ์การลบเพจที่ไม่เหมาะสมซึ่งเฟซบุ๊กกำหนดไว้ อันได้แก่ การข่มขู่คุกคาม การปลุกเร้าให้ทำร้ายตัวเอง ข้อความให้ร้ายแสดงความเกลียดชัง ภาพที่มีความรุนแรง คอนเทนต์ลามกอนาจาร อาชญากรรม การแอบอ้างละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และการล่อลวง แนวทางที่เฟซบุ๊กยึดถือมาตลอด คือ การแนะให้ผู้ใช้ตั้งค่าส่วนตัว หรือ personal control เพื่อเลี่ยงให้ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวและติดตามข่าวสารที่รบกวนและรุกราน จิตใจ แต่กรณีนี้คนไทยทั่วประเทศไม่ต้องการ เพราะการหมิ่นสถาบันนั้นไม่ใช่เรื่องที่คนไทยจะยอมปิดหูปิดตา เฟซบุ๊กระบุว่า เนื้อหาที่ไม่เข้าเกณฑ์ของเฟซบุ๊กอาจจะถูกลบทิ้งได้ในบางกรณี โดยเฉพาะกรณีที่เฟซบุ๊กต้องดำเนินการตามกฎหมาย เท่ากับการรายงานเพจหมิ่นนั้นจะได้ผลชะงักทันทีหากหน่วยงานไทยยกข้อกฏหมายขึ้นมากล่าวอ้างกับเฟซบุ๊ก |
|||||
ที่ผ่านมา มีรายงานว่ารัฐบาลไทยได้ประสานงานกับเฟซบุ๊ก จนทำให้ราชการไทยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดที่มีความคิดและพฤติกรรมล้ม ล้างสถาบันเบื้องสูง โดยตำรวจสามารถนำกำลังชุดสืบสวนสะกดรอยเข้าจับกุมผู้ต้องหาบางรายได้พร้อม ของกลางเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสารและโทรศัพท์มือถือหลายรายการ อย่างไรก็ตาม การจับกุมครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา (กลางปี 2554) และยังไม่มีรายงานความคืบหน้าใดต่อสาธารณชนคนไทย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยต้องดิ้นรนกันเอง (ไปก่อน) คนไทยรักในหลวงกลุ่มหนึ่งหันมาจัดตั้ง "สมาคม Report แห่งประเทศไทย" ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและให้ความรู้คนไทยไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือแพร่ กระจายเพจหมิ่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมกับที่ชาวเฟซบุ๊กพร้อมใจส่งต่อวิธีการ Report แก่เฟซบุ๊กอย่างรวดเร็ว เนื้อความในเพจสมาคมระบุว่า การตอบโต้ใดๆ กับเพจหมิ่นนี้อาจจะไปเข้าทางและเข้าแผนของตัวการ ข้อห้ามเมื่อพบเพจหมิ่น คือ ชาวเฟซบุ๊กห้ามกด Share, กด like หรือ กด comment เพื่อชวนเพื่อนไปด่าทอ วิจารณ์ หรือตอบโต้ “การกระทำแบบนี้ อาจจะทำให้เรารู้สึกว่ากำลังปกป้องในสิ่งที่เรารัก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ เรากำลังช่วยเหลือให้ภาพเหล่านี้กระจายไปอย่างรวดเร็วต่างหาก เพราะทุกครั้งที่เรา comment เพื่อนเราจะเห็นกิจกรรมของเราบน News Feed ใน Facebook ทำให้ภาพนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว” |
|||||
หากเป็นรูปภาพให้คลิกที่คำว่า “รายงานรูปนี้” หรือ “Report” บริเวณใต้รูปภาพ จะพบหน้าต่างให้เลือกคำอธิบายความร้ายกาจของภาพ กรณีรูปหมิ่นบนเพจ ชาวเฟซบุ๊กสามารถเลือกคำว่า “โจมตีบุคคลหรือกลุ่ม” หรือ “Attack Individual or Groups” ได้ สิ่งที่ควรทำอีกอย่าง คือ การกดปุ่ม Print Screen เก็บภาพหน้าจอไว้เพื่อแจ้งความจับภาพดังกล่าวสามารถเป็นหลักฐานในการเอาผิด และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดได้ แต่ต้องระวังห้ามส่งต่อ เพราะการส่งต่อมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 15 ปี นอกนั้นคือการรายงานเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมต่อกระทรวง ICT ซึ่งคนไทยยสามารถใช้เป็นช่องทางแจ้งรัฐบาลได้ตลอดเวลา บทสรุปของเรื่องนี้คือ แม้พลังการส่งรายงาน หรือ Report แก่เฟซบุ๊ก อาจไม่ใช่ทางเดียวที่สามารถสางปมเพจหมิ่นได้ในวันสองวัน แต่นี่คือทางเดียวที่เราคนไทยทุกคนจะสามารถออกแรงได้ทันทีโดยไม่ต้องรอแขนขา จากรัฐบาล ส่วนเรื่องจะได้ผลหรือไม่ เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ |
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี