เสรี"จี้ คอ.นธ.เคลียร์รัฐบาลให้ชัดเรื่องแก้ รธน. หวั่นล้วงลูกแก้จนเลอะ
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
อดีตรองประธาน ส.ส.ร. ยังไม่ได้รับการทาบทามจาก คอ.นธ.ให้เป็น กก.ร่าง รธน. แนะควรรับฟ้งความคิดเห็นให้รอบด้าน เพื่อเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เรียกร้อง คอ.นธ.เสนอรายละเอียดให้ชัด ถ้ายกร่างแล้วรัฐบาลจะเอาอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้แก้ไขจนออกมาอีกทาง
นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ว่า จนถึงขณะยังไม่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายใด ทราบจากข่าวเท่านั้น แต่เราควรให้เวลากับข้อเสนอของ คอ.นธ. เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดว่ารูปแบบของคณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่อะไร บ้าง
นอกจากนี้ ควรเปิดให้คนอื่นฝ่ายอื่นร่วมแสดงความคิดเห็น เราควรรับฟังให้รอบด้านเพื่อความรอบคอบ และให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับ ไม่มีความขัดแย้ง การแก้รัฐธรรมนูญจะประสบความสำเร็จ ถ้าเราสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจได้ ถ้าสร้างไม่ได้ก็ไปไม่ไกล
ส่วนข้อเสนอของ คอ.นธ. กับ ส.ส.รัฐบาล ที่จะเสนอแก้มาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้ตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่าง ยังขัดแย้งกันอยู่นั้น นายเสรี กล่าวว่า ต้องเทียบผลดีผลเสียระหว่าง 2 แนวทาง ผลดีของการตั้ง ส.ส.ร.คือ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม และเมื่อยกร่างมาแล้วสมาชิกรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาได้ มีอำนาจแค่ให้ความเห็นชอบหรือไม่เท่านั้น แต่ข้อเสียคืออาจจะช้าหน่อย
นายเสรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าเป็นรูปแบบคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ข้อดีคือทำได้รวดเร็ว แต่ข้อเสียคือ เมื่อเสนอเข้าสู่สภาแล้วอาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสาระไปจากร่างที่ยกมา โดยสมาชิกรัฐสภาในวาระ 2-3 ดังนั้น คอ.นธ.ต้องมีรายละเอียดมากกว่านี้ว่าหากจะทำในรูปแบบนี้ฝ่ายรัฐบาลจะเอา อย่างไร ยกร่างมาแล้วจะยืนตามความเห็นของคณะกรรมการหรือไม่ ไม่ใช่ยกมาอย่างแต่พอผ่านสภาฯ หน้าตาออกมาอีกอย่าง
“อุกฤษ ณ คอ.นธ.” มาแปลก หยิบ “นักวิจัยกุ้ง” รื้อรัฐธรรมนูญ!
ASTVผู้จัดการ-เผยข้อมูล “ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์” 1 ใน 34 อรหันต์ร่างรัฐธรรมนูญตามที่ “อุกฤษ” ประธาน คอ.นธ.เสนอ พบเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกุ้ง แต่ไม่เคยมีประวัติเคลื่อนไหวการเมือง และประสบการณ์ด้านรัฐธรรมนูญมาก่อน
หลังจากที่วานนี้ (6 ม.ค.) คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ซึ่งเกิดขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยแต่งตั้งนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน คอ.นธ. ได้จัดทำข้อเสนอแนะเรื่องกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการสร้างความสมานฉันท์ ผ่านเว็บไซต์ของ คอ.นธ.คือ www.nrlcthailand.org โดยเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขโดยรูปแบบผ่านมาตรา 291 ที่จะให้มีการสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นมา 30-35 คน โดยคัดเลือกจากบุคคลผู้มีความรู้และมีประสบการณ์ด้านรัฐธรรมนูญ เป็นที่ยอมรับในสังคม เช่น มีผลงานการเขียนตำรา เขียนบทความ ให้ความเห็นทางสื่อมวลชนทุกแขนง “เป็นนักรัฐธรรมนูญ” โดยให้มีองค์ประกอบจากบุคคลทุกฝ่าย
จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่เหมาะสมจะเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมตามความเห็นของ คอ.นธ. จำนวน 34 คนนั้น นอกจากส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 นักวิชาการ และนักหนังสือพิมพ์ที่มีแนวคิดสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน โดยไม่มีการเสนอตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แต่อย่างใด และมีตัวแทนจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโดยสิ้นเชิงก่อนหน้านี้แล้ว ยังพบว่ามีความผิดปกติในส่วนของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อบางคน พบว่ามี ดร.ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ ติดอยู่ในรายชื่อลำดับที่ 13 ทั้งที่ไม่พบประวัติว่าเคยออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมทั้งมีประสบการณ์ด้านการเมือง รัฐศาสตร์ กฎหมาย หรือรัฐธรรมนูญมาก่อนอีกด้วย
จากการตรวจสอบข้อมูลของเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีผู้สื่อข่าวพบว่า รศ.ดร.ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ ดำรงตำแหน่งรองคณบดีฝ่ายวิชาการ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จบการศึกษาปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัณฑิต (วศ.บ.) สาขาวิศวกรรมเคมี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปี 2534, ปริญญาโทวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปี 2537 และปริญญาเอก วิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (วศ.ด.) สาขาวิศวกรรมน้ำและน้ำเสีย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) ปี 2542
โดยสาขาวิชาที่มีความชำนาญพิเศษของ รศ.ดร.ปิยะบุตรคือ การพัฒนา การผลิต และการประยุกต์ใช้สารไคติน/ไคโตซาน, การนำกลับและการใช้ประโยชน์ของเสีย, เทคโนโลยีแผ่นเยื่อบาง, เทคโนโลยีสะอาด, วิศวกรรมน้ำและน้ำเสีย, ระบบประกันคุณภาพการศึกษา และงานอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว ไม่พบว่า รศ.ดร.ปิยะบุตรเคยออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ว่าในทางวิชาการหรือเข้าร่วมกลุ่มพลังทางการเมืองใดๆ สวนทางกับการเปิดเผยรายชื่อของนายอุกฤษ ที่ระบุว่าคัดเลือกจาก “นักรัฐธรรมนูญ” ผู้มีความรู้และมีประสบการณ์ด้านรัฐธรรมนูญ และเป็นที่ยอมรับในสังคม
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี