สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดร่างกม.ปรองดอง

เปิดร่างกม.ปรองดอง

จาก โพสต์ทูเดย์

เปิดร่างกม.ปรองดองปลดโซ่ระบอบทักษิณ

หมายเหตุ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ได้เสนอร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติพ.ศ. โดยได้ระบุถึงเหตุผลและความจำเป็นในการเสนอกฎหมายดังกล่าวซึ่งสำนัก เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับเมื่อวันที่ 24 พ.ค.เวลา 14.45น.โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

หลักการและเหตุผล

พ.ต.ท.ทักษิณ-พล.อ.สนธิ

โดยที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและความรุนแรงในประเทศในช่วงระยะเวลา ที่ผ่านมาโดยเฉพาะเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตการบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ผู้ต้องหาและจำเลยจึงไม่ใช่เป็นผู้ร้ายหรืออาชญากรดังเช่นคดีอาญาปกติ การยึดทำอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ที่ผ่านมา รวมถึงการยุบพรรคการเมืองและการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหาร พรรคที่มิได้ส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิด ทำให้เกิดข้อวิจารณ์เกี่ยวกับความสอดคล้องกับหลักนิติธรรมของกลไกต่างๆของ รัฐ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม

ประกอบกับได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกระทบ กระเทือนต่อขวัญและกำลังใจของคนในชาติตลอดจนความสงบสุขของบ้านเมืองอีกครั้ง หนึ่ง ประชาชนทั่วไปต้องการให้บ้านเมืองเกิดความปรองดองสมานฉันท์ หันหน้าเข้าหากัน แปลงวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาสเพื่อฟื้นความสงบสุขและความเชื่อมั่นของคนใน ชาติรวมทั้งนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้กลับคืนมา

จึงสมควรใช้หลักเมตตาธรรมด้วยการให้อภัยและให้โอกาสกับทุกฝ่ายซึ่งล้วนมี เจตนาดีต่อชาติบ้านเมือง อันเป็นไปตามประเพณีที่ประเทศไทยเคยปฎิบัติมาแล้วหลายครั้งและเป็นไปตาม มาตรฐานสากลด้วยการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดอันมีสาเหตุตจากความขัดแย้ง ทางการเมืองที่ได้กระทำระหว่างวันที่ 15 ก.ย.2548จนถึงวันที่ 10 พ.ค.2554 และเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการ เมืองที่ผ่านมาด้วยการคืนความชอบธรรมให้แก่ผู้ถูกดำเนินคดีโดยกระบวนการ ต่างๆที่เกิดขึ้นตามประกาศหรือคำสั่งของคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.)หรือคำสั่งของหัวหน้าคปค .ที่มิได้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามปกติหรือขัดต่อหลักนิติธรรม
อัน เป็นการผดุงรักษาไว้ซึ่งระบบนิติธรรมและกระบวนการยุติธรรมของประเทศที่สากล ให้การยอมรับ รวมทั้งการคืนสิทธิทางการเมืองให้กับกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่มิได้มี ส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคการเมืองนั้น เพื่อให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายได้เข้ามาใช้ความรู้ความสามารถของตนร่วมกันแก้ไข ปัญหาและนำพาประเทศให้ก้าวข้ามความขัดแย้งครั้งนี้ไปสู่สันติภาพและความมั่น คงสืบไป จึงจำเป็นต้องตราพ.ร.บ.นี้

สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.

มาตรา 3 ให้บรรดาการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2548 จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 หากมีการกระทำใดเป็นความผิดตามกฎหมาย ให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดโดยสิ้น เชิง

การกระทำตามวรรคหนึ่งให้หมายความถึงการกระทำของบุคคลดังต่อไปนี้

(1) การกระทำทั้งหลายของบุคคลที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามการชุมนุม การกล่าววาจาหรือโฆษณาด้วยวิธีใดเพื่อเรียกร้องหรือให้มีการต่อต้านรัฐ การต่อสู้ขัดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการประท้วงด้วยวิธีใดๆอันเป็นการกระทบต่อร่างกายหรือทรัพย์สินของบุคคล อื่นซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทาง การเมือง

(2) การกระทำทั้งหลายของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลใดๆอันเกี่ยวเนื่องกับการ ป้องกันระงับหรือปราบปรามในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง หรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว

มาตรา 4 เมื่อพ.ร.บ.นี้มีผลใช้บังคับแล้ว ถ้าผู้กระทำการตามมาตรา 3 อยู่ในระหว่างการสอบสวนให้ผู้มีอำนาจสอบสวนระงับการสอบสวนผู้นั้น ถ้าอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องให้พนักงานอัยการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องระงับ การฟ้องหรือให้ถอนฟ้อง ถ้าผู้นั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงและปล่อยตัวผู้นั้น

มาตรา 5 ให้ถือว่าบุคคลที่ได้รับผลระทบจากการดำเนินการหรือการปฏิบัติทั้งหลายของ องค์กรหรือคณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประกาศหรือคำสั่งของคปค. หรือคำสั่งของหัวหน้าคปค. ซึ่งได้ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 หรือการดำเนินการหรือการปฏิบัติทั้งหลายขององค์กร หรือหน่วยงานอื่นใดอันเป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินการหรือการปฏิบัติของ องค์กรหรือของคณะบุคคลดังกล่าว มิได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือเป็นผู้กระทำความผิด โดยให้นำความในมาตรา 4 มาใช้บังคับโดยอนุโลม และให้องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติต่อบุคคลที่ได้รับผลกระทบนั้น ให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมต่อไป


เผยร่าง “พ.ร.บ.ปรองดอง” ล้างมลทิน-คืนทรัพย์ทักษิณ ปล่อยผีบ้านเลขที่ 109

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ASTVผู้จัดการ - พบสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ “บิ๊กบัง” เข้าสภาวันพุธนี้ ปล่อยผีทางการเมืองชัดเจน ใช้ผลกระทบการชุมนุมบังหน้า อ้างเรื่องน้ำท่วมและปรองดอง “ทักษิณ” ได้เต็มๆ พ้นคุก 2 ปี-ได้เงิน 4.6 หมื่นล้านที่ถูกยึดทรัพย์คืน ปล่อยผี 109 นักการเมืองคืนสภา

              วันนี้ (25 พ.ค.) กองบรรณาธิการ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้รับเอกสารร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ 30 พ.ค.นี้ โดยประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.ซึ่งมีอยู่ 8 มาตรา บันทึกหลักการและเหตุผล บันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญ และหนังสือญัตติด่วนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ ได้ส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์) เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับเมื่อเวลา 14.45 น. วันเดียวกัน เลขที่รับ 64/2555
       
       จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว นัยสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่น่าสนใจ คือ การกระทำที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งการการป้องกันหรือปราบปรามของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทบต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2548 ถึง 10 พ.ค. 2554 หากมีความผิดทางกฎหมายให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป และผู้กระทำความผิดพ้นจากคดี รวมทั้งให้ระงับการฟ้องหรือถอนฟ้อง ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี และให้การลงโทษสิ้นสุดและปล่อยตัว
       
       ที่สำคัญคือ มาตรา 5 บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินคดีโดยประกาศ หรือคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข (คปค.) ซึ่งได้ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 หรือการกระทำที่เป็นผลสืบเนื่อง ให้ถือว่ามิได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือเป็นผู้กระทำความผิด รวมทั้งมาตรา 6 ให้สิ้นสุดการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกยุบ พรรค โดยอ้างว่าให้บุคคลดังกล่าวมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศซึ่ง เป็นการสร้างความปรองดองในสังคม
       
       ในส่วนของหลักการและเหตุผล พบว่าได้มีการให้เหตุผลที่เสนอ พ.ร.บ.ปรองดอง เนื่องมาจากความแตกแยกทางการเมืองอย่างรุนแรง เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหาย อีกทั้งการยึดอำนาจโดย คปค.ที่ผ่านมา รวมทั้งการยุบพรรคการเมืองทำให้ความขัดแย้งซับซ้อนกันมากขึ้น ประกอบกับได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ กระทบกระเทือนต่อขวัญกำลังใจของคนในชาติ และความสงบสุขของบ้านเมือง จึงมีการนิรโทษกรรมและให้โอกาสทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้งไปสู่สันติภาพ
       
       สำหรับคดีที่มีการตัดสินไปแล้วในช่วงเวลาที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับตั้งแต่ 15 ก.ย. 2548 ถึง 10 พ.ค. 2554 ที่สำคัญ ได้แก่ คดีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 111 คนเป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งพรรคการเมืองขนาดเล็ก เนื่องจากมีการจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงสมัครในการเลือกตั้ง 2 เม.ย. 2549 ซึ่งจะพ้นการถูกตัดสิทธิทางการเมืองในวันที่ 31 พ.ค.นี้
       
       คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2 ปี, คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคซื้อเสียงเลือกตั้ง ในการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. 2550 และคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ อันเนื่องมาจากร่ำรวยผิดปกติ ในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากทรัพย์สินก่อนการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จำนวน 46,373 ล้านบาท เป็นต้น
       
       

000


       
       

ร่าง
       พระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งาติ
       พ.ศ. ….


       
       

_____________________________


       
       .........................................
       .........................................
       .........................................
       
       ..........................................................................................................
       ..........................................................................................................
       ..........................................................................................................
       
       โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ
       
       ..........................................................................................................
       ..........................................................................................................
       ..........................................................................................................
       
       มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ....”
       
       มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถดจากวันประกาศในราชิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
       
       มาตรา ๓ ให้บรรดาการกระทำใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมืองตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงวนที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ หากมีการกระทำใดที่เป็นความผิดตามกฎมาย ให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้กระทำการน้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง
       
       การกระทำตามวรรคหนึ่งให้หมายความถึงการกระทำของบุคคล ดังต่อไปนี้
       
       (๑) การกระทำทั้งหลายของบุคคลที่เกิดจากการชุมนุมทางการมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามการชุมนุม กรกล่าววาจาหรือโฆษณาด้วยวิธีใดเพื่อเรีกร้อง หรือให้มีการต่อต้านรัฐ การต่อสู้ขัดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการประท้วงด้วยวิธีใด ๆ อันเป็นการกระทบต่อร่างกายหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อ เนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง
       
       (๒) การกระทำทั้งหลายของเจ้าหน้าที่ของรัฐรือบุคคลใด ๆ อันเกียวเนื่องกับการป้องกัน ระงับหรือปราบปราม ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง การแสงออกทางการเมือง หรือการกระทำใดที่เกี่วเนื่องกับการกระทำดังกล่าว
       
       มาตรา ๔ เมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับแล้ว ถ้าผู้กระทำการตามมาตรา ๓ อยู่ในระหว่างการอบสวนให้ผู้มีอำนาจอบสวนระงับการสอบสวนผู้นั้น ถ้าอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องให้พนักงานอัยการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องระงับ การฟ้องหรือให้ถอนฟ้อง ถ้าผู้นั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณคดีให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงและปล่อยตัวผู้นั้น
       
       มาตรา ๕ ให้ถือว่าบุคคลที่ได้รับผลระทบจากการดำเนินการหรือการปฏิบัติทั้งหลายของ องค์กรหรือคณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูปการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้เป็นไปตามประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งได้ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หรือการดำเนินการหรือการปฏิบัติทั้งหลายขององค์กร หรือหน่วยงานอืนใดอันเป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินการหรือการปฏิบัติของ องค์กรหรือของคณะบุคคลดังกล่าว มิได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือเป็นผู้กระทำความผิด โดยให้นำความในมาตรา ๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม และให้องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติต่อบุคคลที่ได้รับผลกระทบนั้น ให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมต่อไป
       
       มาตรา ๖ เพื่อให้บุคคลได้มีส่วนรวมในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศซึ่งเป็นการ สร้างความปรองดองในสังคม ให้การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองเพราะ เหตุมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคการเมืองเป็นอันสิ้นสุดลง และให้ถือว่าบุคคลผู้นั้นไม่เป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนับแต่วันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
       
       มาตรา ๗ การดำเนินการใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ไม่เป็นการตัดสิทธิของบุคคลซึ่งมิใช่องค์กรหรือหน่วยงาน ของรัฐที่จะเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากการกระทำของบุคคลใดซึ่งพ้นจากความ รับผิดตามพระราชบัญญัตินี้และทำให้ตนต้องได้รับความเสียหาย
       
       มาตรา ๘ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
       
       รับสนองพระบรมราชโองการ
       
       …….……...………………
       นายกรัฐมนตรี
       
       

000


       
       

บันทึกหลักการและเหตุผล
       ประกอบร่างพระราบัญญัติว่าด้วยความรองดองแห่งชาติ
       พ.ศ. ….


       
       

_____________________________


       
       

หลักการ


       
       ให้มีกฎหมายวาด้วยความปรองดองแหงชาติ
       
       

เหตุผล


       
       โดยที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและความรุนแรงในประเทศในช่วงระยะ เวลาที่ผ่านมาโดยเฉพาะเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ จนนำไปสู่การสูเสียชีวิต การบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ความเสียหายต่อทรัพ์สินและความเสียหายูปแบบอื่นๆ ที่เกิดข้นอย่างประมาณค่ามิด้ สู่สังคมไทยและปะเทศไทย สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมาจนนำไปสู่เหตุการณ์ ความรุนแรง ผู้ตองหาและจำเลยจึงมิใช่เป็นผู้ร้ายหรืออาชญากรดังเช่นคดีอาญาามปกติ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยการยึดอำนาการปกครองแผ่นดินเมื่อ วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ที่ผ่านมารวมถึงประเด็นการยุบพรรคการเมืองและการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของ กรรมการบริหารพรรค ที่มิได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคการ เมืองนั้น ทำให้เกิดข้อวจารณ์เกี่ยวกับความอดคล้องกับหลักนิติรรมของกลไกต่าง ๆ ของรัฐ กฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ความขัดแย้งที่มีอยู่แล้วจึงทวีความซับซ้อนมากขึ้น ประกอบกับได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกระทบ กระเทือนต่อขวัญและกำลังใจของคนในชาติตลอดจนความสงบสุขของบ้านเมืองอีกครั้ง หนึ่ง ประชาชนทั่วไปต้องการให้บ้านเมืองเกิดความปรองดองสมานฉันท์ หันหน้าเข้าหากันแปลงวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาสเพื่อฟื้นความสงบสุขและความ เชื่อมั่นของคนในชาติรวมทั้งนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้กลับคืนมา จึงสมควรใช้หลักเมตาธรรมด้วยการให้อภัยและให้โอกาสกับทุกฝ่ายซึ่งล้วนมี เจตนาดีต่อชาติบ้านเมืองอันเป็นไปตามนิติประเพณีที่ประเทศไทยเคยปฏิบัติมา แล้วหลายครั้งและเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วยการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิด อันมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ได้กระทำระหว่างวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ และเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ทางการเมือง ที่ผ่านมาด้วยการคืนความชอบรรมให้แก่ผู้ถูกดำเนินคดี โดยกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้ตามประกาศหรือคำสั่ของคณะปฏิรูปการปกคองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือคำสั่งของหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มิได้เป็นไปตามกระบวน การยุติธรรมตามปกติและขัดต่อหลักนิติธรรม อันเป็นการผดุงรักษาไว้ซึ่งระบบนิติธรรมและกระบวนการยุติธรรมของประเทศที่ สากลให้การยอมรับ รวมทั้งการคืนสิทธิทางการเมืองให้กับกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่มิได้มี ส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคการเมืองนั้น เพื่อให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายได้เข้ามาใช้ความรู้ความสามารถของตนร่วมกันแก้ไข ปัญหาและนำพาประเทศให้ก้าวข้ามความขัดแย้งครั้งนี้ไปสู่สันติภาพและความมั่น คงสืบไป จึงจำเป็ต้องตราพระราชบัญญัตินี้
       
       

000


       
       

บันทึกวิเคราะห์สรุปสารสำคัญ
       ประกอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ
       พ.ศ. ....


       
       

_____________________________


       
       สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับคณะได้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยควม ปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรและได้จัดทำบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญของร่างพระราช บัญญัติ ตามมาตรา ๑๔๒ วรรคห้าของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังต่อไปนี้
       
       ๑. เหตุผลและความจำเป็นในการเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ....
       
       โดยที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและความรุนแรงในประเทศในช่วงระ ยเวลาที่ผ่านมาโดยเฉพาะเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ความเสียหายต่อทรัพย์สินและความเสียหายรูปแบบอื่นๆ ที่เกิดขึ้นอย่งประมาณค่ามิได้สู่สังคมไทยและประเทศไทย สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมาจนนำไปสู่เหตุการณ์ ความรุนแรง ผู้ต้องหาและจำเลยจึงมิใช่เป็นผู้ร้ายหรืออาชญากรดังเช่นคดีอาญาตามปกติ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อ วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ที่ผ่านมารวมถึงประเด็นการยุบพรรคการเมืองและการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของ กรรมการบริหารพรรคที่มิได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้มี การยุบพรรคการเมืองนั้น ทำให้เกิดข้อวิจารณ์เกี่ยวกับความสอดคล้องกับหลักนิติธรรมของกลไกต่าง ๆ ของรัฐ กฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ความขัดแย้งที่มีอยู่แล้วจึงทวีความซับซ้อนมากขึ้น ประกอบกับได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกระทบ กระเทือนต่อขวัญและกำลังใจของคนในชาติตลอดจนความสงบสุขของบ้านเมืองอีกครั้ง หนึ่ง ประชาชนทั่วไปต้องการให้บ้านเมืองเกิดความปรองดองสมานฉันท์ หันหน้าเข้าหากันแปลงวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาสเพื่อฟื้นความสงบสุขและความ เชื่อมั่นของคนในชาติรวมทั้งนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้กลับคืนมา จึงสมควรใช้หลักเมตตาธรรมด้วยการให้อภัยและให้โอกาสกับทุกฝ่ายซึ่งล้วนมี เจตนาดีต่อชาติบ้านเมือง อันเป็นไปตามนิติประเพณีที่ประเทศไทยเคยปฏิบัติมาแล้วหลายครั้งและเป็นไปตาม มาตรฐานสากลด้วยการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดอันมีสาเหตุมาจากความขัด แย้งทางการเมืองที่ได้กระทำระหว่างวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ และเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการ เมืองที่ผ่านมาด้วยการคืนความชอบธรรมให้แก่ผู้ถูกดำเนินคดีโดยกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือคำสั่งของหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มิได้เป็นไปตาม กระบวนการยุติธรรมตามปกติและขัดต่อหลักนิติธรรม อันเป็นการผดุงรักษาไว้ซึ่งระบบนิติธรรมและกระบวนการยุติธรรมของประเทศที่ สากลให้การยอมรับ รวมทั้งการคืนสิทธิทางการเมืองให้กับกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่มิได้มี ส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคการเมืองนั้น เพื่อให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายได้เข้ามาใช้ความรู้ความสามารถของตนร่วมกันแก้ไข ปัญหาและนำพาประเทศให้ก้าวข้ามความขัดแย้งครั้งนี้ไปสู่สันติภาพและความมั่น คงสืบไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
       
       ๒. สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
       
       ๒.๑ ให้บรรดาการกระทำใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมืองตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ หากมีการกระทำใดที่เป็นความผิดตามกฎหมาย ให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดโดยสิ้น เชิง
       
       การกระทำตามวรรคหนึ่งให้หมายความถึงการกระทำของบุคคล ดังต่อไปนี้
       
       ๒.๑.๑ การกระทำทั้งหลายของบุคคลที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามการชุมนม การกล่าววาจาหรือโฆษณาด้วยวิธีใดเพื่อรียกร้องหรือให้มีการต่อต้านรัฐ การต่อสู้ขัดขืน การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการประท้วงด้วยวิธีใด ๆ อันเป็นการกระทบต่อร่างกายหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อ เนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง
       
       ๒.๑.๒ การกระทำทั้งหลายของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลใด ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการป้องกัน ระงับหรือปราบปราม ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง หรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว (ร่างมาตรา ๓)
       
       ๒.๒ เมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับแล้ว ถ้าผู้กระทำการตามมาตรา ๓ อยู่ในระหว่างการสอบสวนให้ผู้มีอำนาจสอบสวนระงับการสอบสวนผู้นั้น ถ้าอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องให้พนักงานอัยการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องระงับ การฟ้องหรือให้ถอนฟ้อง ถ้าผู้นั้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงและปล่อยตัวผู้นั้น (ร่างมาตรา ๔)
       
       ๒.๓ ให้ถือว่าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการหรือการปฏิบัติทั้งหลายของ องค์กรหรือคณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูปการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้เป็นไปตามประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งได้ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หรือการดำเนินการหรือการปฏิบัติทั้งหลายขององค์กร หรือหน่วยงานอื่นใดอันเป็นผลสืบนื่องจากการดำเนินการหรือการปฏิบัติของ องค์กรหรือของคณะบุคคลดังกล่าว มิได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือเป็นผู้กระทำความผิด โดยให้นำความในมาตรา ๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม และให้องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติต่อบุคคลที่ได้รับผลกระทบนั้น ให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมต่อไป (มาตรา ๕)
       
       ๒.๔ เพื่อให้บุคคลได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศซึ่งเป็นการ สร้างความปรองดองในสังคม ให้การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองเพราะ เหตุมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคการเมืองเป็นอันสิ้นสุดลง และให้ถือว่าบุคคลผู้นั้นไม่เป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนับแต่วันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (มาตรา ๖)
       
       ๒.๕ การดำเนินการใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ไม่เป็นการตัดสิทธิของบุคคลซึ่งมิใช่องค์กร หรือหน่วยงานของรัฐที่จะเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากการกระทำของบุคคลใด ซึ่งพ้นจากความรับผิด ตามพระราชบัญญัตินี้และทำให้ตนต้องได้รับความเสียหาย (ร่างมาตรา ๗)
       
       ๒.๖ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา ๘)


“สาทิตย์” ปูดข่าว “บิ๊กบัง” ดอดพบ “แม้ว” ก่อนชงร่างปรองดอง

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“สาทิตย์” แฉ พท.เสียงแตก กม.ปรองดอง ใช้ “บิ๊กบัง” เป็นนอมินี ปูดข่าวลือ “สนธิ บัง” ดอดพบ “แม้ว” แล้ว จี้ตอบให้ชัดจริงหรือไม่ เชื่อขัดแย้งบานปลายแน่ ถาม “ปู” แสดงท่าทีให้ชัดในฐานะน้องสาวคนได้ประโยชน์

       
       วันนี้ (25 พ.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนทราบว่าขณะนี้มีการเสนอกฎหมายปรองดองแล้ว ซึ่งความจริงเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคนเสื้อแดง เพียงแต่พ่วงพันธมิตรฯ และกรณีตำรวจ ทหาร เข้าไปด้วย ซึ่งความจริงตำรวจ ทหาร เขามีกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้ว ซึ่งการเขียนกฎหมายปรองดอง ตนทราบเบื้องต้นว่า ภายในพรรคเพื่อไทยก็ยังขัดแย้งกันอยู่ในเนื้อหา เพราะฝ่ายหนึ่งเห็นว่าถ้าเขียนให้เป็นการนิรโทษกรรมทุกความผิด รวมทั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประโยชน์ นิรโทษกรรมลบล้างผิดไปด้วยจะมีการลุกฮือขึ้นมาคัดค้านของประชาชนแน่นอน แต่อีกฝ่ายเห็นว่า ทำไปเลย เพราะเสียงในรัฐสภามีเพียงพออยู่แล้ว ในที่สุดก็ให้นอมินี คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นผู้เสนอ
       
       “การเสนอของ พล.อ.สนธิ ก็มีข่าวลือในวงการเมือง ว่า พล.อ.สนธิ ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว จะจริงหรือไม่ พล.อ.สนธิ ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบ ผมไม่ทราบว่า มีการแลกเปลี่ยนอะไรหรือไม่ หรือมีการพบกันจริงหรือไม่ แต่การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมลบล้างความผิดทุกคดีความ ตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นแนวทางที่ กมธ.ปรองดอง เคยศึกษาเอาไว้ แต่สถาบันพระปกเกล้า ที่ทำรายงานเรื่องปรองดองในจำนวน 20 กว่าคนนั้น เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 2 คนเท่านั้น เพราะแนวทางเขียนกฎหมายให้ลบล้างความผิดทั้งอาญา วางเพลิง ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคดียิงวัดพระแก้ว เผาศาลากลาง ยิงเอ็ม 79 จนแม่ค้าข้าวแกง ผู้ชุมนุม ตำรวจ ทหารตาย รวมถึงลบล้างสิ่งที่ คตส.ดำเนินการทั้งหมดที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นจากความผิด แล้วในที่สุดนำไปสู่การคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม และกฎหมายลงอย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่า การเสนอกฎหมายลักษณะนี้จะเป็นชนวนใหญ่ให้ความขัดแย้งที่มีผลมาจากการแก้รัฐ ธรรมนูญ การจ่ายเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท กลายเป็นความขัดแย้งที่บานปลายมากขึ้นอย่างแน่นอน” นายสาทิตย์ กล่าว
       
       นายสาทิตย์ กล่าวว่า กฎหมายลักษณะนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ถ้ามีการบรรจุระเบียบวาระแล้ว จะมีเอกสารส่งระเบียบวาระ รวมถึงตัวกฎหมายให้สมาชิกได้ดูกัน เวลานั้นจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น แต่ในเบื้องต้นนี้ กฎหมายนิรโทษกรรม ไม่อาจสร้างความปรองดองอย่างแนแนอน เหมือนเป็นการใช้เสื้อคลุมปรองดอง ปิดบังอำพาง เป้าประสงค์ที่แท้จริง เพื่อนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวาร ดังนั้น ตนขอเรียกร้องให้ พล.อ.สนธิ ชี้แจงกับประชาชนให้ชัดว่า 1.ประเทศชาติและประชาชนจะได้อะไร จากกฎหมายนิรโทษกรรม 2.พล.อ.สนธิ ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาจริงหรือไม่ และตกลงเงื่อนไขอะไรกันเอาไว้ ถึงยอมเป็นผุ้เสนอกฎหมายฉบับนี้ 3.ผมคิดว่า นายกฯฯ ซึ่งอยู่ในฐานะ ส.ส.หัวหน้ารัฐบาล เจ้าของพรรคเพื่อไทย และในฐานะที่เป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้ ต้องแถลงท่าทีให้ชัด เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์แน่นอน อย่าบอกว่า เป็นเรื่องของสภาฯ เพราะนายกฯเป็นหนึ่งในสภาฯ ที่ต้องลงมติด้วย และ 4.ถ้ากฎหมายนี้ออกมา จะมี ส.ส.อย่างน้อย 20 คนที่ได้ประโยชน์ พรรคเพื่อไทย จะมีท่าทีอย่างไร


ปชป.ซัด “บิ๊กบัง” ชงร่างปรองดองจุดชนวนปฏิวัติ เชื่อมีโบนัสนั่ง รมต.

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ถาวร” อัด “บิ๊กบัง” ชงร่างปรองดองเข้าสภาฯ จุดชนวนทำปฏิวัติรอบใหม่ เชื่อ คนเสื้อแดงแท้แห่ต้าน เหตุใช้นโยบายการเมืองหลอกลวงประชาชน เชื่อ “แม้ว” ไม่หนีคุก ไม่ถูกยึดทรัพย์ ปูด “สนธิ” นั่ง รมต.ครม.ปู 3

       
       วันนี้ (25 พ.ค.) นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ได้ยื่นพระราชบัญญัติปรองดอง (พ.ร.บ.ปรองดอง) เข้าสู่สภาฯในวันที่ 25 พ.ค.แล้ว ว่า พล.อ.สนธิ เป็นผู้ที่ทำการปฏิวัติรัฐประหารในครั้งเมื่อปี 2549 และขณะนี้ พล.อ.สนธิ ก็กำลังทำให้เกิดความขัดแย้งในรอบต่อไปแน่นอน แต่จะออกมาในรูปแบบใดนั้นยากจะคาดเดา และอาจจะเกิดการปฏิวัติรอบใหม่ก็ได้
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่สภาฯเเล้ว แรงต้านจากฝ่ายที่คัดค้านนอกสภาฯ อย่างเช่น กลุ่มเสื้อหลากสี กลุ่มสยามสามัคคี ฯลฯ จะเป็นไปในทิศทางใด นายถาวร กล่าวว่า ตนคิดว่า ไม่เฉพาะกลุ่มที่คัดค้านในเรื่องนี้เท่านั้นที่จะออกมาต้าน แต่ว่ากลุ่มที่สนับสนุนเองอย่างกลุ่มคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยแท้ๆ หากเห็นว่า พ.ร.บ.ปรองดอง นี้ นำไปสู่การทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือลบล้างความผิดจากการทุจริตของบุคคลใด บุคคลหนึ่งแล้ว ตนเชื่อว่ากลุ่มคนพวกนี้ก็จะออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน
       
       เมื่อถามต่อว่า การที่รัฐบาลเร่งดัน พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสภาฯในครั้งนี้ มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังส่งสัญญาณอะไร นายถาวร กล่าวว่า ก็ไม่เห็นจะต้องคิดให้ปวดหัว สัญญาณที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกมาตลอดอยู่แล้ว ก็คือ ไม่ต้องติดคุก ไม่อยากถูกยึดทรัพย์ และใช้นโยบายการเมืองหลอกลวงประชาชนมาตลอด
       
       เมื่อถามอีกว่า ส่วนตัวคิดว่า พล.อ.สนธิ จะได้รับตำแหน่งในการปรับคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 3 หรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า แน่นอน พล.อ.สนธิ จะได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ รมต.ในการปรับ ครม.ครั้งต่อไปแน่นอน
       
       “ขอให้จำคำของผมไว้ว่าที่ พล.อ.สนธิ รับหน้าที่ดัน พ.ร.บ.ปรองดอง ในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะเข้าไปมีชื่อเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และจะได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ดูแลจังหวัดปัตตานี หรือไม่อาจจะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมดก็ได้ อีกทั้งเงินที่ใช้การหาเสียงในครั้งต่อไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมอบให้ พล.อ.สนธิ มาใช้หาเสียงในพื้นที่ ก็คือ เงินทุจริตซึ่งเป็นผลสำเร็จที่เกิดจากการผ่าน พ.ร.บ.ปรองดอง ในครั้งนี้” นายถาวร กล่าว


มาร์คอัดสนธิเร่งชงร่างกม.ปรองดอง

จาก โพสต์ทูเดย์

มาร์คอัดสนธิเร่งชงร่างกม.ปรองดองทำลายประเพณีสภา คำนูณชี้ไม่น่าเชื่อคนทำรัฐประหารล้างผิดให้ทักษิณ

วันนี้ (25พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หากพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ จะรีบเร่งนำเสนอพรบ.ปรองดอง เข้าสู่สภา จะเป็นการเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้าอีกหรือไม่ และการเลื่อนวาระการพิจารณาเรื่องนี้ให้เร็วขึ้นก็เป็นที่ชัดว่า กฎกติกาประเพณีต่างๆ ถูกโยนทิ้งหมด พอเห็นเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ยังเห็นว่า รัฐบาลคงไม่เป็นเจ้าภาพเองแต่ให้พล.อ.สนธิ เป็นคนขับเคลื่อน ตั้งแต่ตอนที่มีคณะกรรมาธิการปรองดองแล้ว จากนั้นก็มีการซุบซิบถึงการตั้งกรรมาธิการฯ งบประมาณ ในสัดส่วนพรรคการเมืองขนาดเล็ก ซึ่งที่สุด พล.อ.สนธิ ก็ได้เป็นกรรมาธิการงบประมาณ คงต้องดูเนื้อหาของกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องการพาพ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน มีการล้างผิด ก็ไม่ใช่เป็นกฎหมายปรองดอง แต่เสียงข้างมากในสภาก็สามารถผ่านกฎหมายฉบับนี้ได้ เพียงแต่ว่า จะถูกต้องหรือไม่ และมีปัญหาในเชิงกฎหมายหรือไม่

"ขอบอกว่าการออก พรบ.ปรองดอง ไม่ต้องมาอ้างผมและคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ) ว่าจะได้รับประโยชน์ด้วย เพราะพวกผมไม่ได้เรียกร้องให้มีเรื่องเหล่านี้ เราต้องการให้มีการค้นหาข้อเท็จจริง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โพสในทวิตเตอร์ @Kamnoon ถึง พ.ร.บ.ปรองดองว่า "ร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯที่จะมีผลล้างผิดให้ทักษิณ เสนอโดยคนที่รัฐประหารล้มทักษิณ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ" ทั้งยังแนบเอกสารประกอบในชิ้นแรก นายคำนูณ ทวิตอีกข้อความว่า "สาระสำคัญของพ.ร.บ.ปรองดองฯมาตรา 5 และ 4 ที่จะมีผลทำให้คำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุดในคดีที่ดินรัชดาและคดียึดทรัพย์ สิ้นผล" และแนบเอกสารอันที่ 2 มาด้วย


เผยโฉมหน้าพ.ร.บ.ปรองดองล้มคตส.นิรโทษมาร์ค-เทพเทือก

จาก โพสต์ทูเดย์

เผยเนื้อหา พ.ร.บ.ปรองดองฉบับบิ๊กบัง นิรโทษยกเข่ง มาร์ค-สุเทพรอด ดัน ‘แม้ว’ เข้ากระบวนการยุติธรรมใหม่ บ้าน 109 รับอานิสงค์ถูกปลดล็อกด้วย
 

นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้เเทนราษฎรคนที่ 1 เปิดเผยถึงกรณี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิติ ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรองดองว่า พล.อ.สนธิได้ยื่นมาตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ตรวจสอบแล้วพบว่าถูกต้องตามกฎหมายและข้อบังคับ เพราะมี สส.กว่า 30 คน ลงชื่อเสนอร่าง  โดยพล.อ.สนธิ ได้ยื่นความประสงค์ว่าเป็นเรื่องด่วน จึงได้บรรจุเป็นวาระเร่งด่วนที่ 27   ซึ่งจะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 30-31 พ.ค.ส่วนจะเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนได้หรือไม่ ต้องรอมติจากที่ประชุมสภา

นายเจริญ กล่าวต่อว่า เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเนื้อหาของ พ.ร.บ.ประกอบด้วย 8 มาตรา มีหลักสำคัญอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.การนิรโทษกรรมให้ผู้ที่ชุมนุมหรือแสดงออกทางการเมืองและผู้ปฏิบัติงานส่วน ราชการ  2. ล้มล้างสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการยึดอำนาจของคณะปฏิวัติไม่ว่าจะในรูปแบบคำสั่ง หน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง และ 3.การคืนสิทธิการเลือกตั้งให้แก่นักการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ทั้งบ้านเลขที่ 109 และ 111 ซึ่งการยกเว้นให้ในแต่ละกรณีจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้มาตรา 7 ยังระบุให้ไม่ตัดสิทธิการฟ้องร้องของบุคคลที่ถูกผู้อื่นละเมิด

นายวัฒนา เมืองสุข สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลักการตามข้อ 1 คือ ต้องนิรโทษกรรมชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทั้งหมด รวมถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณด้วย จะเลือกนิรโทษกรรมไม่ได้ เพราะจะเป็นการเลือกปฏิบัติ ส่วนในข้อ 2 นั้นไม่ใช่การนิรโทษกรรม แต่เป็นการยกเลิกคำตัดสินขององค์กรที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารให้คนที่ถูก พิพากษาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมใหม่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเองต้องกลับมาถูกดำเนินคดีอีกครั้ง

“เชื่อว่าไม่ทำให้ความน่าเชื่อถือของศาลลดลง หากล้มคำพิพากษาเดิม เหมือนกรณีนายอุทัย พิมพ์ใจชน ที่ถูกโทษขังคุก 10 ปีหลังไปฟ้องจอมพลถนอม กิตติขจรว่าทำปฏิวัติ ศาลก็พิพากษาว่านายอุทัยผิดเพราะยึดว่าผู้ปฏิวัติเป็นองค์รัฐาธิปัตย์ ต่อมาเมื่อจอมพลถนอมถูกขับไล่ก็มีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติล้มล้าง สิ่งที่คณะปฏิวัติทำนายอุทัยก็พ้นโทษ” นายวัฒนากล่าว

นายวัฒนา กล่าวอีกว่า การเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสู่กระบวนการรัฐสภาเป็นเรื่องดี เพราะไม่เป็นความลับ และให้ประชาชนช่วยตัดสิน หัวใจของการปรองดอง คือ การพูดคุยและทำความเข้าใจ แต่จะเข้าใจได้อย่างไร หากคนหนึ่งอยู่ในคุกอีกคนอยู่นอกคุก ดังนั้นต้องทำให้ถูกต้อง การนิรโทษกรรมในโลกนี้ไม่มีใครเห็นด้วย 100% ต้องมีบางคนไม่พอใจ แต่วันนี้ต้องเลือกว่าจะให้ประเทศจะดำเนินหน้าไปอย่างไร 

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า หลังการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันที่ 5 มิ.ย.ที่ประชุมจะต้องพิจารณาว่ามีร่างกฎหมายใดมีความสำคัญบ้าง แล้วจึงกำหนดวันปิดการประชุมสมัยนี้ ไม่มั่นใจว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองจะพิจารณาทันสมัยนี้หรือไม่ เพราะถึงจะถูกบรรจุเป็นวาระเร่งด่วน แต่ก็ต้องต่อคิวอีกหลายร่างที่รออยู่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่เห็นเนื้อหาภายใน ร่างพ.ร.บ.ปรองดอง จึงยังไม่ขอลงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.


ภาพ จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เปิดร่างกม.ปรองดอง

view