สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทำไมคนไทยถึงรักในหลวง?

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์



แสงไฟสว่างไสวประดับ ประดาบนยอดไม้ ธงชาติสลับกับธงสีเหลืองประจำพระองค์ประดับประดาสองข้างทางของถนน ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพ่อหลวงอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยโดดเด่นกลางถนน ราชดำเนิน ถือเป็นการเริ่มต้นช่วงเวลาวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีก ครั้ง พ่อผู้เป็นผู้สร้าง ผู้ให้แก่ลูกเสมอมา โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดพอมี พอใช้ ที่พลิกฟื้นความยากจนมาเป็นความสุขแบบพอดี
       
       พ่อหลวง ผู้ครองใจราษฎร์
       
       ทำไมคนไทยถึงรักในหลวง ? คำ ถามที่คำตอบอาจไม่สามารถร้อยเรียงความคิดจากใจให้ครบถ้วนออกมาเป็นคำพูดได้ เพราะพระราชจริยวัตรที่งดงาม พระราชกรณียกิจอันมากมายนับไม่ถ้วน พระองค์ทรงเป็นทั้งกษัตริย์ที่ปกครองคุ้มภัยอาณาประชาราษฎร์ พระองค์ทรงเป็นพ่อผู้ให้ทั้งความรู้ แนวคิด ต้นแบบ นอกจากโครงการต่างๆ ที่ช่วยให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความสุขอย่างยั่งยืน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้ที่ได้รับมอบถวายปริญญากิตติมศักดิ์มากเป็นสถิติโลกถึง 136 ฉบับ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของปวงชนชาวไทย
       
       โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทุก โครงการที่กระจายไปทั่วภูมิภาคผืนแผ่นดินไทย ล้วนแต่ทำให้ราษฎรนั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ และรู้จักใช้ประโยชน์สูงสุดจากต้นทุนที่มีอยู่ หลายพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำจนไม่สามารถทำการเกษตรได้ พระองค์ก็ทรงพระราชทานความช่วยเหลือ พลิกฟื้นความแห้งแล้งมาเป็นแหล่งทำกิน ถึงตอนนี้พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งมูลนิธิ 8 มูลนิธิ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้นถึง 4,100 โครงการ โดยล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และพัฒนาน้ำเป็นอันดับแรก รองลงมา คือ ดิน ธรณีวิทยา การเกษตร ตลอดจนการจัดสรรที่ดิน การประกอบอาชีพ รวมถึงการอนุรักษ์ และพัฒนาป่า
       
       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มโครงการหลายอย่างเพื่อเป็นแนวทางให้กับประชาราษฎร์ อย่างในวังจิตรลดาของพระองค์เองก็เป็นต้นแบบเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง มีการเลี้ยงสัตว์ ทำเกษตร จน เรียกได้ว่าเป็นวังที่แปลกประหลาดที่สุดในโลกก็ว่าได้ อย่างเรื่องเล่าจากในวังที่นำมาเล่าสู่กันฟังบนโลกโซเชียล เรื่องที่พระองค์ไม่เสวยปลานิล หลังทรงเลี้ยงเป็นอย่างดี จนได้ขยายแพร่พันธุ์เป็นอาชีพหลักสร้างรายได้ให้ประชาชน
       
       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ โปรดเสวยปลานิล ทุกครั้งที่มีผู้นำปลานิลไปตั้งเครื่องเสวย จะโบกพระหัตถ์ให้ย้ายไปไว้ที่อื่น โดยไม่รับสั่งอะไรเลย
       จนวันหนึ่งมีผู้กล้าหาญชาญชัยกราบบังคมทูลถามว่า เพราะเหตุใดจึงไม่โปรดเสวยปลานิล มีรับสั่งว่า “ก็เลี้ยงมันมาเหมือนลูก แล้วจะกินมันได้อย่างไร”
       20 ปีก่อน ราวพุทธศักราช 2524 แรกครั้งพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งญี่ปุ่น ยังทรงฐานันดรศักดิ์เป็นมกุฎราชกุมารได้ส่งปลานิลทางเครื่องบินจำนวน 100 ตัวมาทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง ปรากฏว่า เมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทย ปลาตายเกือบหมด เหลือรอดแบบใกล้ตายเพียง 10 ตัว
       ในหลวง ทรงเป็นห่วงเป็นใยปลานิลเหล่านี้ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้นำไปไว้ในพระที่นั่ง ทรงเลี้ยงอย่างประคบประหงม ให้อาหารด้วยพระองค์เอง จนปลานิลทั้ง 10 ตัวรอดชีวิตแล้วปลานิลทั้ง 10 ตัว ได้สนองพระเดชพระคุณแพร่พันธุ์ไปอีกมากมายตามพระราชประสงค์เป็นอาหารคนไทย 62 ล้านคน มาจนถึงทุกวันนี้
       
       เดินตามรอยเท้าพ่อ
       
       คนไทยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณพระ มหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุด มีพระราชดำริโครงการเพื่อช่วยเหลือเหล่าประชาราษฎร์ในแผ่นดิน ทรงวางแนวทางให้ลูกๆ ได้ก้าวเดินอย่างมั่นคงและยั่งยืน อย่างปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่แม้แต่ โคฟี อันนัน ในฐานะเลขาธิการองค์การสหประชาชาติก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และได้มีปาฐกถาถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงว่า เป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ และสามารถเริ่มได้จากการสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง สู่หมู่บ้าน และสู่เศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นในที่สุด
       
        “พอมีพอกิน ก็แปลว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง ถ้าแต่ละคนมีพอกินก็ใช้ได้ ยิ่งถ้าประเทศมีพอกินยิ่งดี” พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       
       จวบจนวันนี้คำพ่อสอน “เศรษฐกิจพอเพียง” ได้แปรเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไทยหลายคน ไม่ว่าจะคนรวย คนจน ให้อยู่อย่างมีความสุขเพียงแค่รู้จักคำว่า “พอ” ตัวอย่างเกษตรกรที่คุณภาพชีวิตดีขึ้นหลังเดินตามคำพ่อสอน คำใหม่ บริบาล หมอดินนักพัฒนาชาวราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ในตอนแรกจากที่เขาเป็นเพียงเกษตรกรอย่างเดียว เมื่อได้มารู้จักกับคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง จึงทำให้ได้พลิกผืนดินของตนเองมาเป็นไร่ผสมผสานทั้งการเกษตรและปศุสัตว์
       
       “เราเป็นเกษตรกร เราเป็นหมอดิน ก็เลยมาคิดว่าจะทำเกษตรให้ได้ผลดีอย่างไร โดยไม่ต้องใช้ยา ใช้สารเคมี หลังผมไปอบรมเรื่องเกษตรอินทรีย์ ที่ศูนย์อบรมเศรษฐกิจพอเพียงก็เลยเอาสมุนไพรมาทำ ผมทำมาได้ห้าหกปี ก็ดีขึ้นมาก ดีขึ้นเยอะ เราก็ได้ใบรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง แล้วเราก็เป็นตัวอย่างให้คนอื่นดูว่าเรามีที่แค่นี้เราทำได้มั้ย 1 ไร่ 1 แสนบาท
       
       แล้วก็มาลองทำดู เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ทำทุกอย่าง ข้างบนเราจะทำบ่อปลา ถัดมาเป็นที่อยู่อาศัยและโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ แล้วก็เป็นนาข้าว บ่อกบ บ่อปลา แปลงผัก ผมทำทุกอย่าง ขอให้ได้เงินทุกวันก็พอ สรุปปีนึงเราได้หนึ่งไร่เกือบเหยียบล้านบาท รายได้เรามากขึ้น รายจ่ายก็น้อยลง ชีวิตครอบครัวดีขึ้น พอเรามาทำตามเศรษฐกิจพอเพียง จะเห็นได้ว่าเป็นการลดค่าใช้จ่ายได้จริงๆ
       
       กิมฮก แซ่เตีย เกษตรกรดีเด่น สาขาไร่นาสวนผสม ปี 2553 ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่นำปรัชญาพอเพียงมาปรับใช้ภายในพื้นที่ 31 ไร่ โดยการปลูกพืชทุกชนิดที่ใช้บริโภคในชีวิตประจำวัน และนำกิจกรรมอื่นๆ มาผสมผสาน อย่างการเลี้ยงไก่งวงบนบ่อปลา การปลูกผลไม้แบบผสมผสาน การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ จากตอนแรกที่เคยเป็นหนี้ มาตอนนี้ก็มีรายได้สม่ำเสมอ ถึงไม่ร่ำรวย แต่ก็อยู่ได้แบบสบายๆ โดยคติประจำใจที่กิมฮกยึดถือและปฏิบัติคือ “ความพอเพียงคือพออยู่ พอกิน เห็นช้างขี้ อย่าขี้ตามช้าง”
       
        ธ รวมใจไทยทั้งผอง
       
        หลากเหตุการณ์ หลายกิจกรรม ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 กษัตริย์ที่เรียกได้ว่าเป็น “พ่อ” ของประชาชนทั้งประเทศ ย้อนไปเมื่องานพระราชพิธี ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในเดือนมิถุนายน ปี 2549 ครั้งนั้นเป็นความทรงจำอันน่าประทับใจที่ประชาชนเรือนแสนเรือนล้านร่วมกัน สวมเสื้อสีเหลือง อันเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของในหลวง
       
       หลังจากนั้นทุกวันจันทร์ ตามหน่วยงานรัฐ เอกชน รวมทั้งสถานศึกษาก็ต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองด้วยความพร้อมเพรียง ครั้งนั้นเสื้อสีเหลืองลายต่างๆ ข้อความต่างๆ เป็นที่นิยมอย่างมาก มีร้านขายละลานตา ในปีนั้นนอกจากแฟชั่นสวมเสื้อเหลืองคงต้องพูดถึงริสต์แบนรักในหลวง สายรัดข้อมือที่มีข้อความพิมพ์ลายด้วยคำว่า “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” ที่มูลนิธิคิงเพาเวอร์จัดทำขึ้นจำนวน 1 ล้านเส้น ถึงกระนั้นก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนมีการผลิตริสต์แบนขึ้นเองและจำหน่ายโดยทั่วไป ตอนนั้นใครไม่สวมริสต์แบนสีเหลืองถือว่าแปลกก็ว่าได้
       
       จากนั้นทุกปีทั้งเสื้อ ริสต์แบน ก็จะกลับมาวนเวียนขายในช่วงวันพ่ออีกครั้ง โดยนอกจากนี้อาจมีสินค้าที่ระลึกอีกหลายอย่างแต่อาจไม่เป็นที่นิยมทั้งเข็ม กลัด กำไลข้อมือ แหวน ขายกันเกลื่อนให้ได้เลือกซื้อ หาใส่กันในช่วงเดือนสำคัญอย่างเดือนธันวาคมทุกๆ ปี จนเป็นภาพชินตา
       
        กิจกรรม โครงการต่างๆ ก็เช่นกัน ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งภาพยนตร์ เพลง กิจกรรมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล อย่างในปีนี้ก็มีการจัดงาน เช่น หนังไทยเพื่อในหลวง “9ตามรอย...ด้วยเกล้า”, โครงการ “เพื่อพ่อ ตลอดไป”, โครงการ “ทำดีให้พ่อดู”
       
        “เป็นรูปที่มีทุกบ้าน จะรวย หรือจน หรือว่าจะใกล้ไกล เป็นรูปที่มีทุกบ้าน ด้วยความรัก ด้วยภักดี ด้วยจิตใจ” สี ยงเพลงลอยแว่วมาอีกครั้งในช่วงเดือนสุดท้ายของปี อีกหนึ่งเพลงที่แต่งด้วยใจ ด้วยความจงรักภักดี เพลงที่ถึงแม้ถ้อยคำอาจจะไม่ได้ใช้ถ้อยคำงดงามสละสลวย แต่เนื้อความช่างมีความหมายจากเรื่องจริง รูปที่มีทุกบ้าน พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประดับไว้บนฝาบ้านเพื่อเคารพกราบไหว้ ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยทุกคน ไม่ ว่าจะแห่งหนตำบลไหน ไม่ว่าบ้านหลังเล็กหลังใหญ่ ไม่ว่าพระบรมฉายาลักษณ์จะขนาดเท่าใด เก่าซีดขนาดไหน แต่ความศรัทธาต่อพระองค์ท่านมิเคยแปรเปลี่ยนได้เลย
       
        แม้กระทั่งเรื่องราวของชายเร่ร่อนอย่าง “เขียว” จากราย การคนค้นฅน ถึงแม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกดูเหมือนคนวิกลจริต หน้าตาเคร่งขรึม ผมรกยาว หนวดเครารุงรัง เนื้อตัวมอมแมม แต่สิบปีที่ผ่านมา ชายผู้นี้ได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขียวเก็บสะสมรูปภาพของในหลวง ถึงแม้บางส่วนอาจจะเก็บจากถังขยะ บางส่วนที่ผู้คนทิ้งขว้าง จะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนขนาดไหน เขาก็จะเก็บและบรรจงเช็ดทำความสะอาดเป็นอย่างดี พร้อมเก็บอยู่ในลังโฟมผลไม้เพื่อไม่ให้รูปภาพต้องโดนน้ำ ไม่ต้องสงสัยในการกระทำของเขียวว่าทำเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพราะความรัก ความเทิดทูนต่อล้นเกล้าฯ ในหลวงของเรานั่นเอง
       
       เมื่อเดือนมกราคม ต้นปีที่ผ่านมาศิลปิน Sand Animation ระดับโลกชาวยูเครนอย่างซีเนีย ซิมโมโนวา แชมป์ Ukraine Got Talent 2009 ก็สร้างความอึ้งปนความซาบซึ้งเมื่อได้วาดทรายเป็นเรื่องราวพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผสานเข้ากับบทเพลงสายฝน ภายในงาน BOI Fair แม้กระทั่งในรายการ Thailand Got Talent เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ก็ได้มีการแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงผ่านรายการเช่นกันเมื่อ ผ่านภพ เฉลิมบัวทิพย์ ผู้ที่เข้ามาโชว์ความสามารถได้ทำการแสดงโดยใช้หัวไฟพ่นแก๊สวาดรูปในหลวง พร้อมกับร้องเพลงไปด้วย ทำคนดูทั้งประเทศขนลุกและซึ้งไปตามๆ กัน
       
       อีกหนึ่งการแสดงออกถึงความรักต่อในหลวงของปวงชนชาวไทย เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ปรากฏภาพแพร่กระจายอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต ชายคนหนึ่งที่มีการอ้างอิงว่าเป็นชาวญี่ปุ่นได้สักรูปในหลวงไว้บนศีรษะของตนเอง และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ปรากฏภาพชายอีกคนตัดผมสั้นเป็นรูปในหลวงและมีคำว่า “พ่อ” อยู่ด้านล่าง ถึงแม้จะมีเสียงวิพากษ์ว่าอาจเป็นการมิบังควรก็สุดแล้วแต่คนคิด หากมองในด้านดี เขาทั้งสองคงตั้งใจสักลายและโกนผมรูปในหลวงลงไปด้วยเพียงใจเคารพรักและ เทิดทูน
       ……
        หยาดพระเสโทของพระองค์เพื่อลูกชาวไทยทุกหยด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืน แม้กระทั่งต่างชาติเองยังชื่นชมในพระปรีชาญาณของพระองค์ นับเป็นความโชคดีของเราที่มีกษัตริย์ผู้ซึ่งเป็นผู้นำและพ่ออย่างแท้จริง
       
       ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ทำไมคนไทยถึงรักในหลวง

view