จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ขำ เคืองใจ
ความพยายามรัฐบาลเพื่อไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตกเป็นประเด็นร้อนถูกแช่ แข็งไว้ในสภาวาระ 3 จากผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่เห็นว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมิชอบ แต่จากการประชุมครม.เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.และตามมาด้วยการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงบ่ายที่พรรคเพื่อไทย หากนำมาต่อจิ๊กซอว์กันก็พอจะเห็นทิศทางของรัฐบาลวางทิศทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนี้ไป
ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ครม.นายกรัฐมนตรี ปรารภต่อที่ประชุมว่า ขอให้นำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเน้นหลักเมตตาธรรม เพื่อให้บ้านเมืองอยู่ด้วยความสงบร่มเย็น พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและทีมงาน ที่ร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสำเร็จไปด้วยดี
เพราะการอ้างหลักทำงานเน้นเมตตาธรรม ทำให้ นายกฯกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ขณะนี้เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในความสนใจประชาชน มีการพูดกันกว้างขวางให้เกิดความไม่เข้าใจกัน สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือสร้างความปรองดอง สร้างความสงบสุข ดูแลปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน
ตอนนี้มีประเด็นการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 อยู่ในที่ประชุมรัฐสภา ก็ควรหาทางออกเพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ประเทศต้องเดินหน้า ขอให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ไปหารือกับประธานสภาและประธานวุฒิสภา เกี่ยวกับระบบการลงคะแนนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ว่าด้วยการลงประชามติจะใช้ระบบไหน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และให้รีบกลับมารายงานครม.โดยเร็วที่สุด
“ดิฉันอยากให้ไปทำความเข้าใจ ขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย ที่สงสัยว่าทำไมการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่เพื่อความรอบคอบเราอาจต้องทำประชามติ เพื่อลดแรงเสียดทางจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งมีแนวทางของการจัดเวทีสานเสวนากันอยู่แล้ว โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนกระทรวงยุติธรรม ขอให้ศึกษาข้อกฎหมายมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่และรีบเสนอ ที่ประชุมครม.”
ขณะที่ ครม.ต่างสนับสนุนแนวทางดังกล่าว โดยไม่มีใครโต้แย้งแต่อย่างใด มีเพียงการสอบถามนายอัชฌาพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกาว่า หากเดินหน้าโหวตวาระ 3 จะมีปัญหาทางข้อกฎหมายอะไรหรือไม่ ซึ่งนายอัชฌาพรยืนยันว่าได้ตรวจดูข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้ว สามารถโหวตได้ตามปกติ
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนเองได้มีการประชุมร่วมกับฝ่ายวิชาการ สมาชิกวุฒิสภา และกฤษฏีกา กระทรวงยุติธรรม ก็ส่งคนเข้าร่วมตลอด จนได้ข้อสรุปจัดทำรายงานเป็นรูปเล่มเพื่อเสนอต่อที่ประชุมครม.
ต่อมานายกฯยิ่งลักษณ์ ออกมาให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม. ยืนยันอีกครั้ง “วันนี้เราได้มีการพูดคุยกันและมีมติคณะรัฐมนตรี เนื่องจากว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลซึ่งเราได้นำเสนอหลังจากที่สมาชิกรัฐสภาและภาค ประชาชนได้นำเสนอต่อรัฐสภาไปแล้ว โดยได้ผ่านวาระ1และ2 แต่ยังมีหลายท่านที่ยังมีความห่วงใยเรื่องการโหวตวาระ3 ซึ่งถือว่าเป็นส่วนของรัฐสภาที่จะพิจารณา
“สำหรับรัฐบาลเราถือเรื่องทีว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศมีทางออกและเรื่อง การทำให้เกิดความสงบในประเทศเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งวันนี้เราได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5ธันวาคม โดยดูว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองมีความมั่นคงและอยู่รอดไปได้ด้วยความสงบ เราคิดว่าส่วนนี้น่าจะทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มากที่สุด แต่การมีส่วนร่วมนั้นต้องยึดหลักการมีส่วนร่วมภายใต้ระบอบประชาธิปไตยและ เป็นการมีส่วนร่วมที่ได้รับการยอมรับ”นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงมหาดไทยไปหารือในแนวทางการ สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะมีวิธีไหน ซึ่งได้เสนอ 2แนวทางคือการทำประชาเสวนา ซึ่งอยู่ในแผนที่รัฐบาลเสนอแล้ว แต่อยากให้เห็นว่าเมื่อทำประชาเสวนาแล้วจะได้รับการยอมรับจากประชาชนหรือ เปล่า ซึ่งมีอีกแนวทางหนึ่งคือการทำประชามติและการทำประชามติเป็นกระบวนการการมี ส่วนร่วม และเป็นกระบวนการสร้างการยอมรับของประชาชนภายใต้ระบอบประชาธิปไตยจึงได้มอบ หมายให้ไปศึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และนำกลับมาเสนอครม. พิจารณาโดยเร็วที่สุด
“ต้องเรียนว่าห่วงกระแสความไม่เข้าใจกันมากกว่า ดังนั้นเราถึงอยากให้มีส่วนร่วมและประชาชนอยากเดินหน้าอย่างไรตัดสินใจอย่าง ไร เป็นสิ่งที่ประชาชนจะมาแสดงออกในการที่จะให้ความเห็น ไม่ว่าจะเป็นประชาเสวนา หรือประชามติก็ตามว่ากระบวนการไหนเป็นกระบวนการที่เหมาะสม และถ้าประชาชนมีส่วนร่วมเราก็จะยอมรับในส่วนนั้น เพื่อให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาจะไม่ถูกใจอย่างที่คาด แต่สิ่งที่เราอยากได้คือเราอยากเห็นความสงบ บรรยากาศเดือนนี้เป็นความสุขของคนไทย เราอยากเห็นบรรยากาศนี้ต่อเนื่องต้องเรียนอย่างนั้น”นายกฯ กล่าว
หลังการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลจะสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนก่อนจากนั้นค่อยไปตัดสินใจโหวตวาระ3
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สมาชิกพรรคเพื่อไทย(พท.) ซึ่งเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) ได้แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนแนวทางน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะได้ประกาศบนเวทีมาตลอดให้พรรคเพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ3
ทันที่ที่การประชุมครม.เสร็จสิ้น นายวราเทพ ได้เดินทางไปร่วมประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และมีการเปิดแถลงข่าวตามมาว่า “พรรคร่วมพร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะมีการโหวตวาระ 3 แต่ระหว่างที่จะมีการโหวตวาระ 3 จะใช้เวลาสองถึงสามเดือนสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไข รัฐธรรมนูญผ่านเวทีสานเสวนาจากนั้น ครม.ก็จะมีช่องทางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ว่าด้วยการลงประชามติ โดยครม.ต้องหารือร่วมกับสองประธานสภา ได้แก่ประธานสภาฯและ ประธานวุฒิสภา เพื่อออกแบบการลงประชามติ
นี่คือเส้นทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลพรรค เพื่อไทยด้วยการทิ้งปมปริศนาให้ติดตาม ทั้งเวทีสานเสวนาจะเป็นอย่างไร การลงประชามติจะออกมาในรูปแบบไหน ก่อนที่จะไปถึงการโหวตวาระ 3 เป็นห้วงเวลา สองสามเดือนที่มีผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองยิ่ง
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน