จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ รายงานพิเศษ
"กล้า ยืนหยัด ทักท้วง อำนาจการเมือง ให้ความสำคัญต่อความเข้มแข็งขององค์กร มีวิสัยทัศน์ มองอนาคต และให้ความสำคัญต่อสังคมและผู้บริโภค"
เป็นนิยามสรุปความเป็นตัวตน นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่ 22 ในฐานะ "นักการเงินแห่งปี" 2555
เป็น ผู้ว่าการ ธปท.คนที่ 2 ที่ได้รับรางวัลนี้ จากวารสารการเงินธนาคาร นับจากผู้บริหาร ธปท.รายแรกที่ได้รับรางวัล คือ นายชวลิต ธนะชานันท์ ที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. คนที่ 15 ระหว่างเดือนมี.ค.-ก.ย.2533
ด้วยนายประสารมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การคัดเลือก นักการเงินแห่งปี ทั้ง 4 ข้อ ได้แก่
1.เป็น นักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย อันกล่าวถึง "แนวความคิดและวางแผนล่วงหน้า เช่น การเชื่อมความสัมพันธ์กับธนาคารกลางจีน ในการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนธปท.ในประเทศจีน การบรรลุข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อจัดตั้งสำนักงานให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการแห่งแรกในเอเชียที่ ประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน"
2.เป็น นักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ "ด้วยความกล้าออกมาทักท้วงรัฐบาล กรณีการโอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) และถึงขั้นเขียนพระราชกำหนดให้โอนทรัพย์สินของธปท.ออกไป จนกระทั่งท้ายที่สุดนำมาสู่ข้อตกลงการแก้ไขหนี้เอฟไอดีเอฟ โดยใช้การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากธนาคารพาณิชย์ 0.47% เพื่อชำระหนี้"
3.เป็น นักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร "ในแง่การให้ความสำคัญกับความเข้มแข็งขององค์กร เช่น พยายามจะสร้างให้ธปท.เป็นทางเลือกลำดับต้นของนิสิต นักศึกษา และออกไปอธิบายกับนิสิต นักศึกษาในเชิงรุก สร้างให้องค์กรมีความเข้มแข็งในเชิงภาพลักษณ์ มีหลักการ ซื่อสัตย์ ทำงานเพื่อส่วนรวม"
4.เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วน รวม "ด้วยมองถึงว่า ธปท.ไม่ใช่ทำงานด้านเสถียรภาพการเงินอย่างเดียว แต่ยังต้องเล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภค โดยตั้งศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) และบอกธนาคารพาณิชย์ให้คำนึงถึงความสำคัญในการอธิบายให้ประชาชนเห็นความ สำคัญของการออม ไม่ใช่โฆษณาให้ประชาชนใช้จ่าย เช่น ไม่ต้องห่วงว่าเวลาจะใช้เงินก็มีคนให้เงินได้ง่ายๆ ไม่มีการวางแผนทางการเงิน"
นายประสารเปิดใจว่า ขอขอบคุณกรรมการที่เลือก เพราะที่ผ่านมาทำงานไม่ได้คิดว่าจะได้รับรางวัล จึงถือเป็นความภูมิใจที่กรรมการเล็งเห็น แต่อยากเรียนว่างานด้านต่างๆ ที่กรรมการระบุในเหตุผลที่ได้รับเลือก ความจริงก็เป็นผลงานของพนักงานอีกหลายๆ คนที่ไม่ได้ระบุชื่อ
"ส่วน ตัวไม่คิดว่ารางวัลที่ได้รับครั้งนี้จะเป็นแรงกดดันต่อการทำงานในระยะต่อไป เพราะเวลาทำงานไม่ได้คิดว่าจะได้รางวัล เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงทำงานด้วยจิตที่ว่าง ไม่ได้คิดว่ารางวัลจะเป็นตัวที่สร้างแรงกดดัน และยังคงทำงานต่อเนื่องในหลักการที่มีอยู่ เป็นความภูมิใจส่วนตัวและสำหรับพนักงาน" นายประสารกล่าว และทิ้งท้ายว่า
ธปท.ถือ เป็นหน่วยงานที่ทำงานเพื่อส่วนรวม ซึ่งลักษณะงาน ต้องได้รับการยอมรับจากประชาชน เพราะเป็นงานเชิงนโยบาย ถ้าประชาชนไม่ยอมรับ ประชาชนก็ไม่เชื่อ ไม่ปฏิบัติตาม ผลก็จะไม่เกิด
แต่รางวัลนี้ ที่ปรากฏตามสื่อถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งว่า อย่างน้อยมีคนบางส่วนในสังคมที่ให้การยอมรับ เพราะฉะนั้นน่าจะเอื้อต่อทิศทางการทำงานของธปท. พนักงานก็คงรู้สึกดีใจไปด้วย เป็นปัจจัยสนับสนุนให้งานต่างๆ เดินหน้าได้
ที่มา : นสพ.ข่าวสด
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน