จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ขณะ ที่คนไทยจำนวนมาก กำลังให้ความสนใจกับโครงการรถคันแรก เช่นเดียวกับหลายค่ายรถเองก็กำลังรุมถล่มโตโยต้า จากการที่ดอดส่งเก๋งเล็กรุ่นวีออสใหม่ ขอรับสิทธิ์คืนเงินภาษีรถคันแรก และกรมสรรพสามิตก็จัดให้เต็มๆ โดยที่ยังไม่มีการเปิดตัวสู่ตลาดแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงกำลังชุลมุนรัฐบาลได้ขยับทิ้งทวนก่อนสิ้นปี อนุมัติปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ปรากฏ ว่าส่วนใหญ่ปรับฐานภาษีขึ้นหมด และแม้จะมีระยะเวลา 3 ปี แต่ผู้ที่วางแผนจะซื้อรถช่วงนั้น หากนิ่งนอนใจอาจจะได้รถราคาติดเทอร์โบได้ เหตุนี้มาดูประมาณราคาปรับเพิ่มและลดลง เพื่อประกอบการตัดสินใจไว้ก่อนก็ดี… | |||
โดยภาษีใหม่ปรับลดขนาดเครื่องยนต์เหลือ 2 ระดับเท่านั้น คือขนาดไม่เกิน 3,000 ซีซี และเกิน 3,000 ซีซี ควบคู่กับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดอัตราภาษีเป็นเท่าไหร่ อย่างรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง หากปล่อยน้อยกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร จะได้อัตราภาษีต่ำสุด 25% แต่ถ้ามากกว่าก็จะทยอยปรับเพิ่มขึ้นอีกเป็นระดับ หรือปิกอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยมาตลอด แม้จะยังยืนที่อัตราภาษี 3% แต่ปิกอัพที่ไม่ได้ใช้เพื่อขนส่งโดยตรง มีการปรับขึ้นเช่นกัน(ดูตารางโครงสร้างภาษีใหม่ประกอบ) |
|||
เนื่องจากรัฐบาลต้องการสนับสนุนรถที่ประหยัดพลังงานและเป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม อีโคคาร์ที่เดิมอัตราภาษีต่ำอยู่แล้ว ภาษีใหม่กลับยิ่งลดลงอีกเหลือ 14% จากเดิม 17% ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้อีโคคาร์ราคาลดลงประมาณ 9,000-14,000 บาท หรือหากใช้น้ำมัน E85 จะเหลือเพียง 12% ทำให้ราคาลดลงสูงสุดกว่า 34,000 บาทได้ หากดูจากตรงนี้และไม่มีโครงการคืนเงินภาษีรถคันแรกแล้ว ถ้าไม่รีบใช้รถคงไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก และยิ่งถ้าเกมการแข่งขันดุเดือด เชื่อว่าค่ายรถจะพยายามพัฒนาให้สามารถรับประโยชน์จากภาษีมากที่สุด และอีโคคาร์ปัจจุบันการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ก็ไม่สูงมาก สามารถลดลงได้อีก แต่อะไรก็ไม่แน่นอนเพราะบางทีค่ายรถก็อ้างเรื่องเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกที่ใส่เข้ามา ทำให้ราคาต้นทุนสูงขึ้น เมื่อบวกลบแล้วราคาก็อาจจะไม่ลดลงเลยก็ได้ |
|||
ขณะที่โตโยต้า คัมรี ไฮบริด อาการยังน่าห่วง เนื่องจากคัมรีไฮบริดหากคำนวณตามปัจจุบัน จะต้องปรับราคาขึ้นอีก 1.3-1.5 แสนบาท และไม่เพียงเท่านั้นโตโยต้ายังมีแผนที่จะผลิตรถไฮบริดในไทยหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นคอมแพกต์คาร์อย่างกลุ่มโตโยต้า อัลติส หรือเล็กกว่า เหตุนี้ล่าสุดโตโยต้าถึงกับออกมาโวยวาย ขู่จะย้ายฐานผลิตรถไฮบริดหนีไปมาเลเซีย รถอเนกประสงค์แบบพีพีวี(PPV) อย่างโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต หรืออีซูซุ มิว-7 เป็นอีกกลุ่มที่สาหัสเช่นกัน แม้ปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จะให้สูงถึง 200 กรัม/กิโลเมตร แต่พีพีวีเป็นรถที่พัฒนามาจากปิกอัพ และเป็นที่รู้กันเครื่องยนต์ปิกอัพล้วนเกินค่าดังกล่าวหมด ถึงปีนี้จะถูกบังคับให้เครื่องยนต์ดีเซล ต้องผ่านมาตรฐานยูโร4 และทำให้ปคาร์บอนไดออกไซด์เท่าหรือใกล้เคียง แต่ภาษีพีพีวีต่ำสุดอยู่ที่ 25% จากเดิมเพียง 20% ถึงยังไงราคาก็ต้องปรับขึ้น 40,000-60,000 บาท หรือถ้าเกิน 200 กรัม/กิโลเมตร ภาษีจะโดดขึ้นไปเป็น 30% ทีนี้ราคาติดเทอร์โบพุ่งขึ้นอีกเป็นกว่าแสนบาทเลยทีเดียว |
|||
ในส่วนอัตราภาษีใหม่เก๋งคอมแพกต์ เริ่มต้นที่ 25% และเป็น 30-35-40-50 ตามการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งส่วนใหญ่รถกลุ่มนี้จะอยู่ที่ประมาณช่วง 151-200 กรัม/กิโลเมตร ที่เสียภาษีใหม่ในอัตรา 30-35%(ตามประเภทพลังงานเชื้อเพลิง) เช่นเดียวกับเก๋งขนาดกลางอย่าง โตโยต้า คัมรี, ฮอนด้า แอคคอร์ด และนิสสัน เทียน่า ราคารถกลุ่มนี้จึงโดดขึ้นอีก 60,000-95,000 บาท ด้านเก๋งเล็กลงมาอย่างซับคอมแพกต์ พวกโตโยต้า วีออส-ยาริส, ฮอนด้า ซิตี้-แจ๊ซ, มาสด้า2 และฟอร์ด เฟียสต้า มีชะตาไม่แตกต่างกัน ปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ประมาณ 150-170 กรัม/กิโลเมตร จึงเสียภาษีในอัตรา 30-35% สูงจากเดิมที่เสียภาษี 25% (น้ำมัน E20) ทำให้ราคาหลังปรับภาษีใหม่เพิ่มสูงขึ้นอีก 40,000-60,000 บาท |
|||
จากข้อมูลทั้งหมดคงพอจะเห็นแล้วว่า มีรถรุ่นไหนที่จะต้องพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว ก่อนที่โครงสร้างภาษีใหม่จะบังคับใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะต้องมีภาระเพิ่มอีกเป็นแสนบาทเลยทีเดียว... อย่างไรก็ตาม มองอีกมุมภายในระยะเวลา 3 ปี เชื่อว่าค่ายรถจะต้องปรับให้ได้รับประโยชน์ หรือเสียภาษีน้อยที่สุดอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ และจากความเคลื่อนไหวของบริษัทรถ มีการเปิดเผยว่าจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือพัฒนามาตรฐานการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ต่ำสุด |
|||
แต่ไม่ว่าจะเทคโนโลยีไหน? นอกจากอีโคคาร์แล้ว โครงสร้างภาษีใหม่ล้วนปรับฐานขึ้นหมด อยู่ที่จะปรับขึ้นมากหรือน้อยเท่านั้น ทีนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของผู้ซื้อแล้วล่ะ?!... |
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน