จากประชาชาติธุรกิจ
ความขัดแย้งเรื่องการดำเนินนโยบายทางการเงินของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยกับ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร มิใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ดร.วีรพงษ์จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้งเมื่อเห็นการดำเนินนโยบายของผู้บริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ถูกต้อง แล้วจะสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติบ้านเมือง
ประวัติศาสตร์ 30 ปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญ ๆ อย่างน้อย 3 ครั้งที่ ดร.วีรพงษ์แสดงให้ปรากฏว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยบริหารนโยบายการเงินผิดพลาด
ปี 2527 นายสมหมาย ฮุนตระกูล รัฐมนตรีคลัง ดร.วีรพงษ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เห็นควรลดค่าเงินบาท แต่นายนุกูล ประจวบเหมาะ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ
ไม่ เห็นด้วย นายสมหมายต้องปลดออกจากตำแหน่งแล้วลดค่าเงินบาทจาก 25 บาท เป็น 27 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากนั้นเศรษฐกิจของไทยขยายตัวอย่างมาก
ปี 2540 ดร.วีรพงษ์ ในฐานะนักวิชาการ เรียกร้องให้ ธปท.ลดค่าเงินบาท อย่าเอาทุนสำรองเงินตราต่างประเทศไปสู้กับจอร์จ โซรอส ผู้นำเฮดจ์ฟันด์ที่เข้ามาโจมตีค่าเงินบาท แต่แบงก์ชาติไม่ฟัง กระโดดเข้าสู้อย่างไม่คิดชีวิต จนกระทั่งหมดตัว ค่าเงินบาทอ่อนค่าถึง 50 กว่าบาทต่อเหรียญสหรัฐ ภาวะเศรษฐกิจของบ้านเมืองถดถอยหรือเสียหายอย่างหนักแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทรัพย์สินโดยรวมด้อยค่า ถูกเลหลังขายแบบไม่มีราคา
ปี 2543-44 ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติ ไม่บริหารค่าเงินบาท ปล่อยให้ค่าเงินบาทขึ้นลงตามกลไกตลาด และสร้างนวัตกรรม inflation targeting ดร.วีรพงษ์ไม่เห็นด้วยเพราะทำให้พ่อค้าส่งออกและพ่อค้านำเข้าขาดทุนจากอัตรา แลกเปลี่ยนกันถ้วนหน้า ครั้นเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร นายกฯทักษิณ
ทำ ตามข้อเสนอ ดร.วีรพงษ์ ปลด ม.ร.ว.จัตุมงคล จากนั้นเริ่มบริหารค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพและอ่อนตัวนิด ๆ พร้อมกับกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจนกระทั่งเศรษฐกิจเมืองไทยเฟื่องฟู
ฝีมือการบริหารเศรษฐกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณสร้างคะแนนนิยมให้กับเจ้าตัวจนถึงทุกวันนี้
2 ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ธาริษา วัฒนเกส และประสาร ไตรรัตน์วรกุล ดูแคลนขิงแก่อย่าง ดร.วีรพงษ์ทุกครั้งที่ออกมาเสนอแนะให้แบงก์ชาติให้ความสนใจกับช่องว่าง ระหว่างดอกเบี้ยบาทกับดอลลาร์สหรัฐ อย่าให้ห่างกันมากจนเป็นเหตุจูงใจให้ hot money เข้ามาแสวงหากำไร
ดร.วีรพงษ์ออกปากเตือนมาอย่างยาวนาน แต่แบงก์ชาติไม่สนใจ แถมยังเหน็บแนมว่า มีเครื่องมืออื่นที่ดีกว่าดอกเบี้ยที่จะสกัด hot money จนกระทั่งปัญญาชนบางท่านออกปากถามถึง "เครื่องมืออันลี้ลับ" ของนายประสาร
นับ ตั้งแต่นายประสารเข้ามารับตำแหน่ง แบงก์ชาติยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา hot money ได้สำเร็จ อาวุธแต่ละเล่มที่นำมาออกสกัดมีแต่บาดสถานะการเงินของแบงก์ชาติให้ถลำลึก
บาด แผลของแบงก์ชาติสะท้อนผ่านสถานะกองทุนของแบงก์ชาติ ติดลบไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท นี่คือภาระของประชาชนทุกคนที่จะต้องชดใช้ในอนาคต
วันนี้ ดร.วีรพงษ์ออกมาเตือนให้สังคมระมัดระวังภัยจาก hot money กำลังสร้างภาวะฟองสบู่ในตลาดการเงิน หากแบงก์ชาติแก้ไขไม่ได้จะลุกลามไปภาคธุรกิจอื่น
คำเตือนของ ดร.วีรพงษ์สะกดนักธุรกิจกว่า 200 คนที่เข้าไปฟังจนเงียบสนิท นิ่งเงียบเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนั้นแม้แต่คนเดียวไม่ทราบว่าผู้บริหาร แบงก์ชาติจะได้ยินหรือไม่
สถานการณ์ hot money ที่เข้ามาแสวงหากำไรเที่ยวนี้รุนแรงมาก ผมอยากทราบว่า แบงก์ชาติจะใช้เครื่องมืออะไรแก้ปัญหาครั้งนี้ อยากให้ผู้ว่าฯประสารตอบกับสังคมให้ชัดเจน อย่าเอาแต่พูดว่าแบงก์ชาติมีเครื่องมือพร้อมแก้ไข หากมีพร้อมจริงดังว่า hot money คงทำมาหากินกับเมืองไทยไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว
สังคมกำลังรอให้แบงก์ชาติตอบโจทย์ของ ดร.วีรพงษ์ หรือปล่อยให้ภาวะฟองสบู่แพร่กระจายไปเรื่อย ๆ เช่นนี้
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน