Index Futures ดัชนีชี้วัดตลาดหุ้น
โดย : เกศรา มัญชุศรี
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สวัสดีค่ะ ตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างสดใส และร้อนแรงกันเลยทีเดียว
โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ของไทย ที่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศพากันสนใจเข้ามาลงทุน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจ และการคาดการณ์ถึงโอกาสการเติบโต และการขยายตัวของระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่มีผลต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว และเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศแล้ว พบว่าประเทศเรานั้นน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นในหลายๆ ประเทศนั้น ก็อยู่ในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากหลายๆ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้ดำเนินนโยบายเช่นเดียวกับสหรัฐในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ และใช้นโยบายกดค่าเงินของตนเองลง เพื่อสนับสนุนธุรกิจการส่งออก ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนมกราคม ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐ ปรับเพิ่มสูงขึ้น 5.8% ดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่น ปรับเพิ่มสูงขึ้น 7.2% และค่าเงินเยนอ่อนลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ
ด้าน SET Index ของไทยนั้น ในเดือนมกราคมปีนี้ ทะยานสูงขึ้นถึง 5.91% โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ทุบสถิติอย่างต่อเนื่อง SET Index เป็นดัชนีที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีจุดฐานที่ 100 จุด และได้เริ่มเผยแพร่ตั้งแต่วันเปิดตลาดหลักทรัพย์ในปี 2518 จุดสูงสุดของดัชนี SET Index นี้คือ 1704 จุด เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2538
ส่วนอีกดัชนีหนึ่งที่มักนิยมใช้อ้างอิงในสินค้าต่างๆ ก็คือ SET50 Index ที่วัดความเคลื่อนไหวของ 50 หลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง ดัชนีนี้เริ่มคำนวณและเผยแพร่ตั้งแต่สิงหาคม 2537 โดยมีจุดฐานที่ 1000 จุด ส่วนจุดสูงสุดของ SET50 Index คือ 1111.29 ที่ทำสถิติไว้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2539
สำหรับเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการติดตามการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมทั้งยังเป็นเครื่องชี้นำที่สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวของดัชนีที่ทุกๆ คนสามารถเข้ามาใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างเสมอภาคกัน และเป็นที่นิยมใช้ในทุกๆ ประเทศ คือ Index Futures ซึ่งเป็นสินค้าหลักของทุกๆ ตลาดอนุพันธ์ เช่น STI Futures ของสิงคโปร์ KLCI Futures ของมาเลเซีย HSI Futures ของฮ่องกง KOSPI200 Futures ของเกาหลีใต้ CSI300 Futures ของจีน TAIEX Futures ของไต้หวัน และ SET50 Futures ของประเทศไทย
โดยฟิวเจอร์สหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของดัชนีเหล่านี้มักเป็นสัญญาที่มีอายุเป็นรายเดือน และมีจำนวนประมาณ 3 ถึง 6 อายุให้เลือกซื้อขาย สัญญา Index Futures ที่เป็นที่นิยมสูงสุดและมักมีปริมาณการซื้อขายสูงนั้น จะเป็นสัญญาที่ครบอายุในเดือนปัจจุบัน และที่นิยมลำดับถัดไปก็คือสัญญาที่สิ้นสุดอายุในเดือนถัดไป ที่เป็นเช่นนี้ก็คงเนื่องมาจากพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สัญญาที่มีอายุสั้นๆ เป็นรายเดือนจึงสามารถสะท้อนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นได้อย่างรวดเร็วและทันการณ์ ดังนั้น Index Futures จึงถือเป็นเครื่องช่วยในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การซื้อขายทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับประเทศไทย TFEX SET50 Futures เป็นฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดตลาดหุ้นไทย โดยมีสัญญาให้เลือกซื้อขายทั้งสิ้น 6 อายุสัญญา 3 สัญญาแรกเป็นสัญญาระยะสั้นที่สิ้นสุดอายุในทุกเดือน สามเดือนติดต่อกันเริ่มจากเดือนปัจจุบัน และ อีก 3 สัญญาสิ้นสุดอายุในเดือนไตรมาส ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันเป็นเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้น SET50 Futures จะมีสัญญาสิ้นสุดรายเดือนคือ กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน และ สัญญารายไตรมาสคือ มิถุนายน กันยายน ธันวาคม
ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายสำหรับสัญญาที่สิ้นสุดอายุรายเดือนในปัจจุบันนั้นยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นและคาดว่าจะมีสภาพคล่องเช่นเดียวกับสัญญารายไตรมาส ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับตลาดอนุพันธ์ในประเทศอื่นๆ ผู้ที่สนใจในการใช้ประโยชน์จาก SET50 Futures สามารถที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะเริ่มต้นซื้อขาย โดยสามารถติดตามข่าวสารได้จาก www.tfex.co.th <http://www.tfex.co.th> หรือสอบถามกับโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการ
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน