สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กิตติรัตน์ ปัดข่าวกดดันผู้ว่าธปท.ลาออก พ่วงขายหุ้นปตท.-บินไทย จวกคนปล่อยข่าวหวังดิสเครดิต รบ.

กิตติรัตน์"ปัดข่าวกดดันผู้ว่าธปท.ลาออก พ่วงขายหุ้นปตท.-บินไทย จวกคนปล่อยข่าวหวังดิสเครดิต รบ.

จากประชาชาติธุรกิจ

จากกรณีที่มีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์คว่า กระทรวงการคลังเตรียมขายหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน บริษัทละ 2% เพื่อลดสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ

ล่าสุดวันนี้( 7 ก.พ. 56) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาปฎิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ไม่เคยคิด และจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนในรัฐบาลชุดนี้ พร้อมประณามบุคคลที่ปล่อยข่าวดังกล่าวว่าใช้วิธีสกปรก และขอให้หยุดการกระทำเพราะจะไม่เกิดประโยชน์ในทางที่ดี

“เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง โดยหลายต่อหลายหลายครั้งที่ผมพยายามไม่ให้ความสำคัญในประเด็นเหล่านั้น มองว่า เป็นการปล่อยข่าวเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจสำหรับคนที่ปล่อยข่าว เป็นประเด็นว่าทำไมผมถึงอยากพูด ยืนยันว่า ปตท. การบินไทยต้องการให้เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยกระทรวงการคลังจะถือหุ้นเกิน 50% และไม่มีความประสงค์หรือสนใจที่จะหลบหนี้สาธารณะ เพราะขณะนี้หนี้สาธารณะ หนี้เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่ในระดับที่ต่ำมาก จึงไม่มีแหตุผลที่ต้องหลบซ่อนหนี้สาธารณะ”

“ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่ปล่อยข่าวย้อนกลับไปดูว่าสาเหตุที่เป็นหนี้เกิดจากอะไร และดูว่าการปล่อยข่าวสร้างความเสียหายและลดความน่าเชื่อถือของประเทศลง มองว่าไม่เป็นผลดี ลดการถือครองหุ้นสำหรับการดำเนินการของรัฐบาล พยายามให้ความสำคัญมากด้วยความโปร่งใส และทุกเรื่องที่มีการดำเนินการสามารถอธิบายได้ และพยายามทำทุกเรื่องด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พ.ศ..... จำนวน 2 ล้านล้าน บาท มีการดำเนินการที่รอบคอบและปรึกษาหารือกับส่วนราชการ ที่สำคัญพร้อมจะร่วมหารือกับภาคเอกชนเพื่อให้เกิดความรอบคอบ" นายกิตติรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ นายกิตติรัตน์ ย้ำว่า ไม่อยากให้ปล่อยข่าวหรือสร้างประเด็นดังกล่าวให้เป็นประเด็นทางการเมือง และลดความน่าเชื่อถือของประเทศ ผมขอตำหนิและประนามว่าเป็นการกระทำที่ไม่นึกถึงประเทศชาติ หากเรื่องใดเป็นเรื่องจริงที่รัฐบาลจะปฏิบัติ ตนเองก็พร้อมที่จะแถลงและให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ในส่วนของกระทรวงการคลัง หากดำเนินการในเรื่องใดจะชี้แจงให้ทราบก่อนทุกครั้งเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน และยืนยันว่าไม่มีเรื่องใดที่แอบทำ ขอให้สบายใจได้ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจและให้สบายใจได้ในเรื่องของระดับหนี้สาธารณะ

ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าภาคการเมืองบีบบังคับให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยลาออกนั้น นายกิตติรัตน์ ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ และขอให้หยุดปล่อยข่าว


“โต้ง” ฉุนข่าวบีบ “ประสาร” แอบขายหุ้น “ปตท.-จำปี” ครวญถูกวิธีสกปรกเล่นงาน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“กิตติรัตน์” โต้บีบ “ประสาร” ไขก๊อกผู้ว่าฯ ธปท. ยันไม่เป็นความจริง ลั่นทุกอย่าง “โปร่งใส-ตรวจสอบได้” ส่วนประเด็นฮอต “คลัง” ทิ้งหุ้น ปตท.-บินไทย 20% สะพัดในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยคิด และจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน พร้อมประณามการใช้วิธีสกปรก และขอให้หยุดการกระทำทันที เพราะไม่เกิดประโยชน์ แถมยันซ้ำไม่มีเรื่องใดที่ รบ.ชุดนี้ ไปแอบทำ และขอให้สบายใจได้ในทั้งเรื่องของ รสก. และปัญหาระดับหนี้สาธารณะ

       
       นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า ภาคการเมืองบีบบังคับให้นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลาออกนั้น ตนเองขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ และขอให้หยุดปล่อยข่าวได้แล้ว
       
       ส่วนที่มีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กระบุว่า กระทรวงการคลังเตรียมขายหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน บริษัทละ 20% เพื่อลดสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ไม่เคยคิด และจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนในรัฐบาลชุดนี้ พร้อมประณามบุคคลที่ปล่อยข่าวดังกล่าวว่าใช้วิธีสกปรก และขอให้หยุดการกระทำ เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ในทางที่ดี
       
       “มันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง โดยหลายต่อหลายหลายครั้งที่ผมพยายามไม่ให้ความสำคัญในประเด็นเหล่านั้น มองว่า เป็นการปล่อยข่าวเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจสำหรับคนที่ปล่อยข่าวในเรื่องนี้ เป็นประเด็นว่าทำไมผมถึงอยากพูด ยืนยันว่า ปตท. การบินไทยต้องการให้เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยกระทรวงการคลังจะถือหุ้นเกิน 50% และไม่มีความประสงค์ หรือสนใจที่จะหลบหนี้สาธารณะ เพราะขณะนี้หนี้สาธารณะ หนี้เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่ในระดับที่ต่ำมาก จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหลบซ่อนหนี้สาธารณะ”
       
       ทั้งนี้ ตนเองขอให้ผู้ที่ปล่อยข่าวย้อนกลับไปดูว่าสาเหตุที่เป็นหนี้เกิดจากอะไร และดูว่าการปล่อยข่าวสร้างความเสียหาย และลดความน่าเชื่อถือของประเทศลง มองว่าไม่เป็นผลดี ลดการถือครองหุ้นสำหรับการดำเนินการของรัฐบาล พยายามให้ความสำคัญมากด้วยความโปร่งใส และทุกเรื่องที่มีการดำเนินการสามารถอธิบายได้ และพยายามทำทุกเรื่องด้วยความรอบครอบ โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครง สร้างพื้นฐาน พ.ศ. ... จำนวน 2 ล้านล้านบาท มีการดำเนินการที่รอบคอบ และปรึกษาหารือกับส่วนราชการ ที่สำคัญพร้อมจะร่วมหารือกับภาคเอกชนเพื่อให้เกิดความรอบคอบ
       
       นายกิตติรัตน์ กล่าวเสริมว่า ตนเองไม่อยากให้ปล่อยข่าว หรือสร้างประเด็นดังกล่าวให้เป็นประเด็นทางการเมือง และลดความน่าเชื่อถือของประเทศ ผมขอตำหนิ และประณามว่าเป็นการกระทำที่ไม่นึกถึงประเทศชาติ หากเรื่องใดเป็นเรื่องจริงที่รัฐบาลจะปฏิบัติ ตนเองก็พร้อมที่จะแถลง และให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ในส่วนของกระทรวงการคลัง หากดำเนินการในเรื่องใดจะชี้แจงให้ทราบก่อนทุกครั้งเพื่อให้เห็นภาพที่ ชัดเจน และยืนยันว่าไม่มีเรื่องใดที่แอบทำ ขอให้สบายใจได้ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ และให้สบายใจได้ในเรื่องของระดับหนี้สาธารณะ


“ประสาร” ฉะ “จม.คลัง” ป้ายสี ธปท. พิจารณา “ดบ.” ไม่คำนึงถึงนโยบาย “รบ.” ยันไม่เป็นความจริง

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ผู้ว่าการ ธปท. เผยไม่กดดันในการทำงาน หลังโดนขุนคลังร่อนหนังสือให้พิจารณาปรับลด ดบ.นโยบาย พร้อมตอบโต้ข้อความที่ระบุว่า ธปท. ไม่คำนึงถึงนโยบายการทำงานของรัฐบาล ไม่เป็นความจริง เพราะการพิจารณาตัดสินใจของ กนง. มีการดูถึงนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว เพียงแต่จะให้บอร์ด ธปท. มาสั่งการให้ กนง. ลดดอกเบี้ย คงไม่ได้

       
       นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แม้ว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะส่งหนังสือกระทรวงการคลังถึง นายวีรพงษ์ รามางกรู ประธานคณะกรรมการ ธปท. (บอร์ด ธปท.) เพื่อให้บอร์ด ธปท.มาดูแลการทำหน้าที่ของ ธปท. และคณะกรรมการนโยบายการเงิน ให้พิจารณาลดดออกเบี้ยดูแลผลกระทบเศรษฐกิจจากเงินทุนไหลเข้า และเงินบาทแข็งค่า แต่ก็ไม่ถือว่าการกระทำดังกล่าวกดดันการทำงาน เพราะยังทำหน้าที่ตามปกติ
       
       “ยืนยันว่าไม่มีอะไรกดดัน ตอนนี้ผมยังทำงานตามปกติ ทานข้าวเสร็จก็ทำงานต่อ เพราะ ธปท. ทำงานโดยคำนึงถึงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเสมอ”
       
       ส่วนข้อความที่ระบุว่า ธปท. ไม่คำนึงถึงนโยบายการทำงานของรัฐบาล นายประสาร ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการพิจารณาตัดสินดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการดูปัจจัยหลายด้านประกอบ รวมถึงดูแนวทางการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว
       
       ดังนั้น เนื้อหาในจดหมายของคลังถึงประธานก็รับทราบแล้ว เนื่องจากประธานอ่านให้ฟังในที่ประชุมบอร์ด ซึ่งคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพียงแต่จะให้บอร์ด ธปท. มาสั่งการให้ กนง. ลดดอกเบี้ยคงไม่ได้


ยัน “คลัง” บีบ “ธปท.” ลด “ดบ.นโยบาย” สกัดเงินนอกไม่กระทบตลาดตราสารฯ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ตลาดบอนด์ มองปมร้อน “คลัง” บีบ “ธปท.” ลด ดบ.นโยบาย สกัดเงินทุนไหลเข้าไม่สะเทือนการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ เพราะนักลงทุนแห่เก็งกำไรบอนด์ระยะสั้น

       
       น.ส.อริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (THAIBMA) กล่าวว่า ข่าวที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่งสัญญาณให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยเพื่อดูแลเงินทุนไหลเข้า ตลาดตราสารหนี้ไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อข่าวเรื่องนี้มากนัก
       
       “มุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ค่อนข้างนิ่งๆ เพราะตลาดตราสารหนี้ไม่ได้อ่อนไหวต่อข่าวจิตวิทยาในลักษณะนี้เท่าไรนัก อัตราผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ จึงค่อนข้างทรงตัว เพราะกว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 20 ก.พ. โดยนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ส่วนใหญ่ยังคงลงทุนเน้นตราสารหนี้ระยะสั้นเป็น ปกติไม่ได้ขยายอายุตราสารหนี้ที่ลงทุน เพื่อรอรับการปรับลดดอกเบี้ยแต่ประการใด”
       
       โดยมุมมองของนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ส่วนใหญ่ ไม่ได้ปิดมุมมองที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงช่วง 2-3 เดือนนี้ เช่นกัน หากเงินเฟ้ออยู่ในกรอบไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเข้ามาในช่วงครึ่งแรกของปี แต่หากมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อขึ้นมา ธปท.คงไม่ปรับลดดอกเบี้ยแน่นอน ซึ่งปัจจุบัน ตลาดประเมินว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา
       
       ดังนั้น ข่าวกดดันให้ ธปท.ลดดอกเบี้ย ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้อย่างมีนัยสำคัญแต่ประการใด บรรยากาศการลงทุนยังเป็นปกติ และจากข้อมูลที่พบการลดดอกเบี้ยก็ไม่ได้ช่วยสกัดเงินทุนไหลเข้าได้เท่าไรนัก เหมือนช่วงต้นปี 2555 ที่มีการลดดอกเบี้ยลงแต่เงินทุนก็ยังไหลเข้าต่อเนื่อง ดังนั้น ผลต่างดอกเบี้ยระหว่างไทย และต่างประเทศคงไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะมีผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย


คลังขัดแย้งธปท.ไม่กระทบตลาดตราสารหนี้

คลังบีบแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยสกัดเงินทุนไหลเข้า ไม่สะเทือนการลงทุนตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนแห่เก็งกำไรบอนด์ระยะสั้น

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (THAIBMA) กล่าวว่า ข่าวที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่งสัญญาณให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยเพื่อดูแลเงินทุนไหลเข้า ตลาดตราสารหนี้ไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อข่าวเรื่องนี้มากนัก

"มุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ค่อนข้างนิ่งๆ เพราะตลาดตราสารหนี้ไม่ได้อ่อนไหวต่อข่าวจิตวิทยาในลักษณะนี้เท่าไรนัก อัตราผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ จึงค่อนข้างทรงตัว เพราะกว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 20 ก.พ. โดยนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ส่วนใหญ่ ยังคงลงทุนเน้นตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นปกติไม่ได้ขยายอายุตราสารหนี้ที่ลงทุน เพื่อรอรับการปรับลดดอกเบี้ยแต่ประการใด"

มุมมองของนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ส่วนใหญ่ ไม่ได้ปิดมุมมองที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงช่วง 2-3 เดือนนี้ เช่นกัน หากเงินเฟ้ออยู่ในกรอบไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเข้ามาในช่วงครึ่งแรกของปี แต่หากมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อขึ้นมา ธปท.คงไม่ปรับลดดอกเบี้ยแน่นอน ซึ่งปัจจุบันตลาดประเมินว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ จะเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา

"ดังนั้น ข่าวกดดันให้ ธปท.ลดดอกเบี้ย ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้อย่างมีนัยสำคัญแต่ประการใด บรรยากาศการลงทุนยังเป็นปกติและจากข้อมูลที่พบการลดดอกเบี้ย ก็ไม่ได้ช่วยสกัดเงินทุนไหลเข้าได้เท่าไรนักเหมือนช่วงต้นปี 2555 ที่มีการลดดอกเบี้ยลงแต่เงินทุนก็ยังไหลเข้าต่อเนื่อง ดังนั้นผลต่างดอกเบี้ยระหว่างไทยและต่างประเทศคงไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะมีผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย"


อดีตบอร์ดกนง.มึนคลังแทรกแซงแบงก์ชาติ

อดีตบอร์ดกนง.มึนคลังแทรกแซงแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย สกัดเงินไหลเข้า ชี้ตามกฎหมายให้อำนาจอิสระในการดำเนินนโยบาย

นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้เปิดเผยผ่านรายการ "ตรงประเด็น" กรุงเทพธุรกิจทีวี ถึงกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่งหนังสือผ่านประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย กดดันให้ลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินทุนไหลเข้า ลดแรงกดดันค่าเงินบาทแข็งค่า ว่า ตามกฎหมายได้ให้อำนาจการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงิน มีอิสระพอสมควร การที่รมว.คลัง ส่งหนังสือมายังแบงก์ชาติถือเป็นเรื่องค่อนข้างผิดปกติ

อดีตกรรมการกนง.ให้ความเห็นว่า ปกติการประชุมกนง.นานๆจะเห็นการเมืองเข้ามา ส่วนความเห็นของกระทรวงการคลังก็มีเข้ามาบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่จะให้คำแนะนำ และปรึกษาหารือกัน

ส่วนการที่รมว.คลัง ส่งหนังสือมาถึงแบงก์ชาติเป็นการกดดันให้ลาออกหรือไม่นั้น นายพรายพล ให้ความเห็นว่า ไม่แน่ใจให้ดร.ประสาร (ไตรรรัตน์วรกุล) ออกจากตำแหน่งหรือไม่ แต่ที่ชัดเจนคือ อยากให้ลดดอกเบ้ย เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง และป้อกงันเงินทุนไหลเข้า"

ส่วนกรณีที่รมว.คลัง ระบุว่า หากไม่ลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินทุนไหลเข้าแบงก์ชาติต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น อดีตกรรมการกนง. ให้ความเห็นว่า การสกัดเงินไหลเข้ามีหลายวิธี เช่น เข้าไปแทรกแซงมากขึ้น ส่งเสริมให้คนไทยไปลงทุนต่างประเทศ หรือให้ผู้ส่งออกถือครองดอลลาร์ได้นาน และการควบคุมการไลเข้าของเงินบาท


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : กิตติรัตน์ ปัดข่าว กดดัน ผู้ว่าธปท. ลาออก พ่วงขายหุ้น ปตท. บินไทย คนปล่อยข่าว หวังดิสเครดิต รบ.

view