จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เปิดร่างประกาศกฎกระทรวง"ดูแลค่าเงินบาท" สกัดเงินไหลเข้าเก็งกำไรตลาดบอนด์ ดันบาทแข็ง รมว.คลังขอเอี่ยวอนุมัติหลักเกณฑ์-เงื่อนไข
กระทรวงการคลังเตรียมแก้ไขประกาศการดูแลเงินทุน เพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีเครื่องมือดูแลค่าเงินบาท มีประเด็นดังนี้
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่นิติบุคคลรับอนุญาต
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับวันที่ 13 (พ.ศ.2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศเป็นข้อกำหนด เป็นคำสั่งซึ่งนิติบุคคลรับอนุญาตจะต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
1.ให้ยกเลิกความในข้อ 10 ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทน รับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้แทน
"ข้อ 10 ในการรับซื้อ หรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นิติบุคคลรับอนุญาต ต้องจัดให้ผู้ขอยื่นแบบ และเอกสารหลักฐานตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่เจ้าพนักงานกำหนด
ในการรับซื้อ หรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ให้นิติบุคคลรับอนุญาตปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานกำหนด
การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของเจ้าพนักงานตามวรรคสอง จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีก่อน"
2.ให้ยกเลิกความในข้อ 12 ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่นิติบุคคลรับอนุญาต (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 16 ก.ย.2553 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้แทน
"ข้อ12 ในการขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ ให้นิติบุคคลรับอนุญาตขายหรือแลกเปลี่ยนได้ไม่เกินวงเงิน ที่เจ้าพนักงานกำหนด ซึ่งต้องไม่เกินวงเงิน ดังต่อไปนี้
(1) เพื่อลงทุน หรือให้กู้ยืมแก่กิจการที่ต่างประเทศที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ดังนี้
(ก) การส่งเงิน โดยนิติบุคคล เพื่อลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศ โดยจัดตั้ง หรือเข้าร่วมลงทุน โดยให้มีสัดส่วนการถือหุ้น หรือมีส่วนเป็นเจ้าของตามที่เจ้าพนักงานกำหนด หรือเพื่อลงทุน หรือให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือที่ต่างประเทศ ที่อยู่ในเครือเดียวกันกับผู้ขอซื้อ หรือแลกเปลี่ยนไม่จำกัดจำนวน เว้นแต่เจ้าพนักงานจะกำหนดวงเงิน
(ข) การส่งเงิน โดยนิติบุคคลเพื่อให้กู้ยืมแก่กิจการที่ต่างประเทศ ที่นอกเหนือจาก (ก) เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกินปีละ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด
(ค) การส่งเงิน โดยบุคคลธรรมดา เพื่อลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศ โดยจัดตั้ง หรือเข้าร่วมลงทุน โดยให้มีสัดส่วนการถือหุ้น หรือมีส่วนเป็นเจ้าของตามที่เจ้าหน้าที่พนักงานกำหนด หรือเพื่อให้กู้ยืมแก่กิจการที่จัดตั้ง หรือเข้าร่วมทุนดังกล่าว หรือเพื่อลงทุน หรือให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือที่ต่างประเทศของกิจการดังกล่าวไม่จำกัดจำนวน เว้นแต่เจ้าพนักงานจะกำหนดวงเงิน
ทั้งนี้ การลงทุน หรือให้กู้ยืมตาม
(1) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานกำหนด
(2) เพื่อส่งเงินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของคนไทย ที่ย้ายถิ่นฐานไปพำนักอยู่ต่างประเทศ เป็นการถาวร เป็นจำนวนไม่เกินปีละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อผู้รับแต่ละราย
(3) เพื่อส่งเงินมรดกให้แก่ผู้รับมรดก ซึ่งมีถิ่นพำนักถาวรในต่างประเทศเป็นจำนวนไม่เกินปีละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อผู้รับแต่ละราย
(4) เพื่อส่งไปให้ครอบครัว หรือญาติพี่น้อง ซึ่งมีถิ่นพำนักถาวรในต่างประเทศเป็นจำนวนไม่เกินปีละ 1 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อผู้รับแต่ละราย
(5) เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนมาก ไม่เกินปีละ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อราย
(6) เพื่อบริจาคให้แก่สาธารณประโยชน์ เป็นจำนวนไม่เกินปีละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า ตามอัตราตลาดต่อราย
(7) เพื่อซื้อหุ้นใบสำคัญ และแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทในเครือเดียวกันที่ต่างประเทศในลักษณะที่เป็นการให้สวัสดิการแก่พนักงานเป็นจำนวนไม่เกินปีละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อราย"
3.ให้ยกเลิกความในข้อ 13 ทวิของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มี.ค.2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่นิติบุคคลรับอนุญาต (ฉบับวันที่ 6) ลงวันที่ 23 ก.ค.2550 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้
"ข้อ 13 ทวิในการขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตรา เงินตราต่างประเทศเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยผู้ลงทุน หรือบุคคลอื่นตามที่เจ้าหน้าที่พนักงานกำหนด ให้นิติบุคคลรับอนุญาตขาย หรือแลกเปลี่ยนได้ โดยไม่จำกัดจำนวน เว้นแต่เจ้าพนักงานจะกำหนดวงเงิน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ตามที่เจ้าหน้าที่พนักงานกำหนด"
4.ให้เพิ่มเติมความดังต่อไปนี้ เป็นข้อ 13 ตรี และข้อ 13 จัตวา ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มี.ค.2547
"ข้อ 13 ตรีในการขาย หรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพื่อลงทุนในหลักทรัพย์สกุลเงินตราต่างประเทศตามที่เจ้าหน้าที่พนักงานกำหนด ซึ่งออกและจำหน่ายในประเทศ โดยผู้ลงทุน หรือบุคคลอื่นตามที่เจ้าพนักงานกำหนดให้นิติบุคคลรับอนุญาตขายหรือแลกเปลี่ยนได้โดยไม่จำกัดจำนวน เว้นแต่เจ้าพนักงานจะกำหนดวงเงิน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่เจ้าพนักงานกำหนด
ข้อ 13 จัตวา การกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข หรือหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานกำหนดแล้วแต่กรณีในภาคนี้ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีก่อน
5.ให้ยกเลิกความในข้อ 14 ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่นิติบุคคลรับอนุญาต (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 16 ก.ย.2553 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้แทน
"ข้อ 14 นอกจากเจ้าพนักงานมีคำสั่งยกเว้นไว้หรือประกาศกำหนดวงเงินในแต่ละกรณีไว้เป็นอย่างอื่น ในการรับเงินตราต่างประเทศเข้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ให้นิติบุคคลรับอนุญาตตรวจสอบจนเป็นที่น่าพอใจว่าเงินตราต่างประเทศที่จะรับเข้าบัญชีนั้นเป็นเงินที่ได้รับมาจากต่างประเทศ หรือเป็นเงินที่บุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศซื้อ แลกเปลี่ยน หรือกู้ยืมเงินจากนิติบุคคลรับอนุญาตและให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) กรณีเป็นเงินอันเกิดจากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศ ให้รับฝากได้ตามจำนวนที่ขอนำฝาก เว้นแต่เจ้าพนักงานจะกำหนดวงเงิน
(2) กรณีเป็นเงินที่บุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศซื้อ แลกเปลี่ยน หรือกู้ยืมจากนิติบุคคลรับอนุญาตให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
(ก) รับฝากเงินตราต่างประเทศไม่เกินจำนวนที่ผู้ฝากยื่นเอกสารที่แสดงว่ามีภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินตราต่างประเทศให้แก่บุคคลในต่างประเทศ หรือนิติบุคคลรับอนุญาต เว้นแต่เจ้าพนักงานจะกำหนดวงเงิน
(ข) รับฝากเงินตราต่างประเทศ ที่ผู้ฝากไม่สามารถแสดงว่ามีภาระผูกพัน โดยยอดเงินฝากรวมทุกบัญชี และทุกสกุลของผู้ฝากต้องมีจำนวนไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด
การรับฝากเงินตราต่างประเทศตาม (1) และ (2) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่เจ้าพนักงานกำหนดโดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ให้เจ้าพนักงานมีอำนาจกำหนดให้นิติบุคคล รับอนุญาตรับเงินอันเกดจากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศ เข้าบัญชีรวมกับเงินที่ซื้อ แลกเปลี่ยน หรือกู้ยืมจากนิติบุคคลรับอนุญาตตาม (2) ได้ โดยให้ถือปฏิบัติตาม (2) (ก) หรือ (ข) แล้วแต่กรณี"
6.การกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ หรือหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานกำหนดแล้วแต่กรณี ก่อนที่จะประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ ให้ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ และให้เจ้าพนักงานเสนอการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ หลักเกณฑ์และเงื่อนไข หรือหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขแล้วแต่กรณี ต่อรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ และประกาศใช้ก่อนสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน