จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ชุษณ์วัฏ ตันวานิช
คลอดโฉมหน้าทีมบริหารในคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ปู 5” เรียกเสียงวิพากษ์หนาหูว่ายิ่งลักษณ์-ทักษิณ ชินวัตร เพียงปรับเปลี่ยนหน้าเค้ก หวังรับแรงกระแทกทางการเมืองเท่านั้น แต่ปาดไปเกลี่ยมาปรากฏว่า ขณะนี้รายชื่อว่าที่ ครม.ป้ายแดง ส่งแรงกระเพื่อมต่อกลุ่มก๊วนในเพื่อไทยจนระส่ำอย่างหนัก
เพราะส่องลิสต์แล้วสะท้อนชัดโควต้าเริ่มผูกขาดอำนาจกระจุกตัวที่บรรดาแกนนำพรรค เริ่มที่ ยิ่งลักษณ์ เองที่ยื้อโควต้าทีมไทยคู่ฟ้าไว้ครบแบบไม่ต้องออกแรง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ ยังเหนียวหนึบหนับ โยก นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล คุมพาณิชย์กระทรวงเกรดเอ แม้แต่ ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ที่ถูกรุกอย่างหนักจากกลุ่มแพทย์ชนบทก็รอดพ้นการถูกปลดไปแบบสบายๆ
แต่การยื้อทีม รมต.ข้างกาย ไม่ได้เป็นปมหมั่นไส้เท่ากับการดึง “คนนอก” ที่ฤดูกาลนี้บรรดาข้าราชการประจำขั้วไทยรักไทยเดินพาเหรดเข้าทำเนียบแบบไม่ แคร์สายตาก๊กก๊วน สส.พรรคเพื่อไทย ที่สั่งตัดชุดขาวรอเก้อมาหลายสมัย
รายแรก เบญจา หลุยเจริญ สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า โควต้าอิมพอร์ตตรงจากคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เคยปฏิบัติหน้าที่อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร ฟันธงคดีซื้อขายหุ้นชิน คอร์ปอเรชั่น นั้น “พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องเสียภาษี” หลัง จากนั้นชื่อ เบญจา ฮอตฮิตติดลมบนนั่งสารพัดบอร์ด ทั้งกรุงไทย ปตท. ฯลฯ ทั้งยังก้าวขึ้นเป็นอธิบดีกรมศุลกากร ก่อนจะไขก๊อกลาออกเพื่อรับตำแหน่ง รมช.คลัง
ขณะที่ว่าที่รัฐมนตรี ชัยเกษม นิติสิริ ลาออกจากประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่งตัวรอนั่งเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม ท่ามกลางเสียงซุบซิบว่า โควต้านี้ส่งตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบแทนเมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่อัยการสูงสุด เคยมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสีย หายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เท่านั้น ชัยเกษม ยังนับว่ามีชนักติดหลังจากคดีทุจริตคอร์รัปชั่นจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุ ระเบิดซีทีเอ็กซ์ที่ คตส.ฟ้องร้องด้วย
อีกรายไต่เต้าจากระบบข้าราชการประจำ ยรรยง พวงราช อดีตอธิบดีกรมการค้าภายใน และอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ถูกวางเป็นมือไม้ของ นิวัฒน์ธำรง ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ สร้างผลงานกระจ่างตาตั้งแต่สมัยไทยรักไทย ที่เคยดำรงตำเเหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ครั้งนั้น ยรรยง ผุดกันชนให้คดีที่ครอบครัวชินวัตรขายหุ้นให้เทมาเซก ด้วยการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีนอมินีกุหลาบแก้วใหม่ จวบจนถึงรัฐบาลเพื่อไทย ยรรยง ยังตอบโต้โฆษกฝ่ายค้านเป็นปลาบู่ชนเขื่อนจนฝ่ายตรงข้ามหน้าหงาย ทั้งยังฟัดกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ข้อหาจุ้นตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนาปี 2554/2555 ตำหนิว่า ธ.ก.ส.ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่สั่งให้รัฐบาลควบคุมการทุจริต
และที่เหนือความคาดหมายไม่แพ้ใคร คือ ปวีณา หงสกุล ท็อปปิ้งชิ้นใหญ่ที่ถูกส่งตรงมาแปะหน้าเค้กรัฐบาล เนื่องด้วยภาพลักษณ์ผลงานดีจากหน้าที่ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและ สตรี แม้ “เจ๊ปิ๊ก” คนนี้มีดีกรี สส.กทม. 6 สมัยตั้งแต่พรรคประชากรไทยยันไทยรักไทย แต่ระยะหลังมีเสียงครหาว่าไม่ได้เข้ามาช่วยงานพรรคอย่างเต็มตัว มีเพียงการช่วยหาเสียงผู้ว่าฯ และ สส.กทม.ของพรรค ช่วยชูภาพลักษณ์เพียงผิวเผินเท่านั้น สร้างข้อกังขาให้บรรดาลูกหม้อพรรคเพื่อไทยว่า เธออาจอาศัยความสัมพันธ์อันดีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เชื่อมสัมพันธ์นายใหญ่ ปาดหน้าแกนนำในเพื่อไทย คว้าว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปครอง
ลิสต์ “ครม.ปู 5” จึงเล่นเอาทั้งแกนนำ ลูกหม้อ สส.ปากอ้า ตาค้าง ไปตามกัน โดยเฉพาะสีหน้าของแกนนำอาวุโสภาคอีสานฐานเสียงใหญ่ของรัฐบาลอย่าง ไพจิต ศรีวรขาน สส.นครพนม ไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู ที่แต่งตัวรอเก้อมาหลายสมัยเเต่ไม่เคยสมใจเเม้ผ่านไปแล้วถึงครึ่งเทอม
อีกฟากของเพื่อไทย เสธ.เปีย-เฮียตู่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงเจ็บอกชอกช้ำไม่แพ้กัน เพราะก้มหน้าตรากตรำทำงานเพื่อพรรคอย่างหนัก มี สส.เสื้อแดง ทั้ง สส.เขตและบัญชีรายชื่อในพรรคนับสิบคน แต่แท็กทีมหลุดโผกระทรวงมหาดไทยทุกสมัยของการปรับ ครม.ถึงขั้น จตุพร ต้องยอมปลงตกว่า “...ชีวิตแกนนำมีเเต่ไม่ขึ้นศาลก็ติดคุก”
ขณะที่ เสธ.เปีย ยอมรับว่า เสียใจหากสถานการณ์เป็นแบบนี้บ่อยครั้ง จนยากจะปฏิเสธว่าการหลุดโผ ครม.ซ้ำซากสร้างแรงกระเพื่อมและสั่งสมความไม่พอใจให้ สส.โซนเสื้อแดงอย่างมาก
อีกฝั่งที่ระส่ำไม่น้อยหน้า คือ เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ที่ตกเก้าอี้ รมว.แรงงาน ทั้งที่เป็นประธานภาคกลางโซน 2 ของพรรค อีกทั้งทราบกันดีว่า เครือข่ายตระกูลสะสมทรัพย์ยึดหัวหาด จ.นครปฐม มายาวนาน สร้างฐานเสียงแกร่ง ไม่แพ้ก๊วน สส.ภาคกลางอีกขั้วของ วิทยา บุรณศิริ สส.พระนครศรีอยุธยา อดีต รมว.สาธารณสุข แต่กลับพากันหลุดตามกันไป เสียเก้าอี้ให้ พ้อง ชีวานันท์ ที่เตรียมเสียบโควต้าภาคกลางในตำแหน่ง รมช.คมนาคม แบบเหนือความคาดหมาย สะสมความไม่พอใจให้ขั้วสะสมทรัพย์ไปไม่น้อย
แต่ที่ช้ำชอกหนักกว่าใคร ต้องยกให้ สารวัตรบางบอน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เด้งแรงจากทำเนียบไปถึงกระทรวงดินแดงนั่งตำแหน่ง “จับกัง 1” ถึงขั้นอดีตรองนายกฯ เฉลิม ประกาศลั่นกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แฉกระบวนการเลื่อยขาเก้าอี้จาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. โดย สารวัตรเหลิม โจมตีเเบบไม่มียั้งว่า พ.ต.อ.ทวี โร่ส่งสารฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งผลให้ต้องปรับ ครม.ดึง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มาเสียบรองนายกฯ คุมงานตำรวจแทนตน
“...หากคุณไม่พอใจผม ก็ไปวิ่งเต้นโยกย้ายผมเลย สุดท้ายไอ้_ทวีมันก็ทำได้ เอาความเท็จไปฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ จนปรับ ครม.ให้ผมออกจากเก้าอี้ เพราะไอ้ทวีเป็นคนฟ้องว่าไอ้เฉลิมเป็นคนตั้งบ่อน ตำรวจก็ไม่พอใจ ผมขอสาปแช่งเลยว่าใครเอาเรื่องนี้มาใส่ร้ายผม ขอให้มันฉิบหายเจ็ดชั่วโคตร” วาทะสิบริกเตอร์ของ ร.ต.อ.เฉลิม สะเทือนลั่น สตช.
สุดท้ายแผนปรับ ครม.ช่วงชิงจังหวะทางการเมืองของ ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ หวังกรุยทางเดินยาวของรัฐบาล อันตรธานกลายเป็นฝนฟ้าครึ้มก่อตัวท่ามกลางสถานการณ์นโยบายจำนำข้าวและ โครงการบริหารน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่กำลังเลี้ยวเข้าสู่โค้งอันตราย หากไม่เร่งปรับดุลยภาพเนื้อเค้กที่กำลังผุกร่อนจาก “คนใน” ครีมที่ปาดหน้าไว้อาจถล่มลงมาทับรัฐบาลเอง
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน