จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเมือง

ทำไปทำมา “สภาปฏิรูปการเมือง” ตามที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการนำทุกฝ่ายทุกสีร่วมกำหนดโครงสร้างการเมืองไม่ให้เป็นภาระลูกหลาน กำลังจะกลายเป็นภาระของคนอยู่ในกรุเก่าการเมือง

จากรายชื่อบุคคลเข้าร่วมตั้งแต่สองอดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานสภาอย่าง อุกฤษ มงคลนาวิน อุทัย พิมพ์ใจชน หรือแม้แต่ กระมล ทองธรรมชาติ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญยุคตัดสินคดีซุกหุ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล้วนแต่เป็นทั้งผู้สนับสนุนหลักและทางอ้อมต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์

นอกจากนี้ เตรียมเชิญบุคคลต่างประเทศมาแนะแนวทางปฏิรูปทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็น โคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ มาร์ตติ อาห์ติซารี อดีตประธานาธิปดีฟินแลนด์

ย้อนกลับไป เมื่อ ก.พ. 2555 โคฟี อันนัน และมาร์ตติ อาห์ติซารี ได้รับคำเชิญมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคู่ความขัดแย้งทางการเมืองเพื่อหาแนว ทางปรองดองในประเทศไทย

โคฟี กล่าวไว้ว่า “การที่สังคมไทยจะสร้าง ความปรองดองให้สำเร็จต้องเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ทุกฝ่ายออกมาพูดความจริง ประนีประนอมกัน โดยผู้นำประเทศ ผู้นำฝ่ายการเมืองต้องเริ่มทำเป็นตัวอย่างให้เห็น ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องถามตัวเองว่าจะทำเพื่อประเทศชาติ หรือจะทำเพื่อตัวเอง ถ้าทำได้ ความขัดแย้งของผู้สูญเสีย สังคมทุกฝ่ายก็จะค่อยๆ ย่อยสลายไป”

ทั้งที่อดีตเลขายูเอ็นชี้ให้เห็นต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากรัฐบาลจะนำ|ข้อเสนอนี้ไปปฏิบัติ หรือว่าเมื่อกล่าวพาดพิงบุคคลที่ส่งผลลบรัฐบาลต้่องหลบฉากหนีเผือกร้อน

การเชิญรอบใหม่ไม่อาจหนีพ้นเสียงวิจารณ์เพียงเพื่อนำมาประทับตรารับรอง ให้โลกเห็นภาพความจริงใจสร้างความปรองดองเท่านั้น แน่นอนย่อมจะส่งผลให้รัฐบาลไทยถูกมองเป็นตัวตลกทางการเมืองไปอีก

เพราะไม่ต่างกับกรณีของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการ ปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ซึ่งรัฐบาลเคยขานรับพร้อมสานต่อการทำงานจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่เมื่อข้อเสนอ คอป.ไม่เป็นคุณต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็เงียบหายไป

เป็นเช่นนี้ “สภาปฏิรูปการเมือง” เข้าทำนองขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่แต่เหลาไปก็แค่บ้องกัญชา

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน