จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ชุษณ์วัฏ ตันวานิช

เปิดฉากปฏิรูปการเมืองนัดแรกท่ามกลางความคาดหวังและถูกสบประมาทไปพร้อม กันว่า รัฐบาลจะสามารถสลัดคราบความขัดแย้งออกจากประเทศได้สำเร็จหรือไม่

จรัส สุวรรณมาลา รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า รัฐบาลอาจกำลังเดินผิดทางและยากต่อการหาทางออกจากความขัดแย้ง หากยังจำกัดกรอบเวทีเพียงการปฏิรูป “การเมือง” เพราะปัญหาการเมืองล้วนเกิดจากความขัดแย้งเชิง “โครงสร้าง” ดังนั้นหากคิดจะใช้คำว่าปฏิรูป รัฐบาลต้องรื้อโครงสร้างประเทศใหม่ เพราะเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด

“เหมือนเขาจะเน้นการปรองดองระหว่างกันเสียมากกว่า เพราะการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มการเมืองทั้งในนอกสภาทำให้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นต้องสมยอมกัน ไม่ได้เรียกว่าปฏิรูป เพราะหากปฏิรูปจริง ต้องพูดเรื่องโครงสร้างอย่างคณะทำงานของหมอประเวศ วะสี เมื่อ 2 ปีที่แล้ว”

จรัส เสนอว่า ปัญหาที่แท้จริงฝังรากจากการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่เดียว ดังนั้นหากรัฐจริงใจต้อง 1.ปฏิรูป โครงสร้างอำนาจของรัฐจากรวมศูนย์เป็นการกระจายอำนาจให้ประชาชนระดับจังหวัด ปกครองตนเอง 2.กระจายการถือครองที่ดิน 3.ปฏิรูปสวัสดิการของคนด้อยโอกาส

“ต้องให้จังหวัดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบที่ลงจังหวัดไม่ต้องผ่านกระทรวง ทบวง กรม ปล่อยให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ว่าฯ และบริหารจัดการงบเอง หากทำได้จริงพรรคการเมืองที่มาทุ่มเงิน 30 ล้านเพื่อให้ได้ |สส.นั้น จะเปลี่ยนใจ เพราะผลประโยชน์|ที่เคยได้จะเหลือน้อยลง สส.ก็จะซื้อเสียงน้อยลง การตรวจสอบการโกงกินจะอยู่ที่ผู้บริหารระดับพื้นที่มากขึ้น เป็นการกระจายความเข้มข้นของการแย่งชิงที่เคยรวมศูนย์ให้เบาบางลง ผมเชื่อว่าไม่นานประเทศจะก้าวหน้า”

จรัส ย้ำว่า รัฐควรเอาจริงกับระบบภาษีที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินไปสู่ประชาชน เพราะคนส่วนใหญ่ 70% ไม่มีที่ดินทำกิน ขณะที่ชาวนากว่า 70% ต้องเช่านาทำ เมื่อรัฐมีนโยบายรับจำนำข้าว เจ้าของเดิมก็ยึดที่นามาทำเองเพราะกำไรดี ทำให้ชาวนากลายเป็นกรรมกร ลูกจ้าง ส่วนทรัพยากรทั้งน้ำมัน แร่ แหล่งประมง แหล่งน้ำ ป่าไม้ ควรปฏิรูปให้ชุมชนเป็นผู้ถือครอง หากรัฐปฏิรูปได้จะแก้ปัญหาความยากจนและการย้ายคนเข้ามาในเมืองจะลดลง

ขณะเดียวกันรัฐต้องปฏิรูประบบสวัสดิการของคนด้อยโอกาส สร้างสวัสดิการการออม ไม่ใช่สวัสดิการการแจก จัดระบบกองทุนสวัสดิการที่ฝึกให้คนรับผิดชอบเงินในอนาคต ให้แรงงานในระบบรับจ้างมีสวัสดิการในยามชราเหมือนในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ใช่ตั้งงบแจก ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ

“หากจะปฏิรูปคุณต้องพูดเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่พูดเรื่องการปรองดอง ซึ่งมันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้นำประเทศขัดแย้งและอยากเกี้ยเซี้ยกัน แต่ฐานปัญหาเรื่องความยากจนกลับไม่ทำไม่พูด ถ้าเป็นแบบนี้ประเทศก็ไม่ไปไหน เพราะปฏิรูปเสร็จมีแต่ชนชั้นนำได้ประโยชน์ แต่ชนชั้นล่างไม่ได้อะไรเลย การเมืองก็จะไม่หลุดห่วงโซ่นี้

...อย่ามองคำว่าการเมืองแคบเกินไป โดยมองแค่ตัวแสดงในเชิงสถาบัน เช่น รัฐสภา ผู้นำ พรรค การเมือง หรือการกลับบ้านของคุณทักษิณ เพราะประเทศต้องการปฏิรูปในทั้งโครงสร้าง โดยเฉพาะระดับรากหญ้า

...ความจริงผมก็ไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่หากคนรากหญ้าต้องการปฏิรูปการเมือง ต้องมองเรื่องโครงสร้าง อย่ามองเพียงอำนาจที่ผูกติดกับกลุ่มก๊วนสีเสื้อ แต่ควรมองการปฏิรูปอำนาจที่เราจะได้รับหากกระจายอำนาจจากบนสู่ล่าง อำนาจที่เราสามารถกำหนดชีวิต ชุมชน และอนาคตลูกหลานเราได้ อันนี้ต่างหากที่ผมว่าประชาชนต้องมอง”

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน