จากประชาชาติธุรกิจ
การช่วงชิงความได้เปรียบทางธุรกิจย่อมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในช่วงที่ เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะย่ำแย่ ผลสำรวจชิ้นล่าสุดของเอชเอสบีซี เผยแง่มุมธุรกิจที่น่าสนใจของบริษัทที่ทำธุรกิจในจีน ซึ่งได้เปรียบมากจากการทำธุรกรรมการค้าด้วยเงินหยวน โดยเอชเอสบีซีได้สำรวจบริษัท 700 แห่ง ใน 7 ประเทศ พบว่าบริษัทที่ใช้เงินหยวนทำธุรกรรมกำลังประหยัดต้นทุน มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการทำธุรกิจในอนาคต และมีแผนขยายธุรกรรมเงินหยวนเพิ่มมากขึ้น
โดย โนเอล ควินน์ ผอ.บริหารระดับภูมิภาค ฝ่ายพาณิชย์ธนกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี
จะ ว่าไปแล้วเงินหยวนยังเป็นสกุลเงินใหม่ของระบบการค้าและการลงทุนของโลก หลังจากจีนประกาศนำร่องทำธุรกรรมการค้าด้วยเงินหยวน เพียงแค่ 4 ปีให้หลังธุรกรรมเงินหยวนขยายตัวถึงร้อยละ 12 ของการค้า
ต่างประเทศ ของจีน หรือมีมูลค่าราว 2.9 ล้านล้านหยวน หรือ 480 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดกันว่าธุรกรรมเงินหยวนจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้เงินหยวนกลายเป็นสกุลเงินการค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว
ความตื่นตัวอย่างมากของบริษัทที่เปิดรับธุรกรรม เงินหยวนตั้งแต่แรก สะท้อนถึงข้อดีของการใช้หยวนเพื่อชำระเงิน แม้ว่าบรรยากาศทางธุรกิจทั่วโลกจะยังไม่สดใส แต่กว่าครึ่งหนึ่ง
ของ บริษัทที่ทำธุรกรรมเงินหยวน คาดว่าในปีนี้ธุรกรรมเงินหยวนระหว่างประเทศของตนจะขยายตัวดีขึ้น และจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3 ใน 4 อีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทที่ค้าขายด้วยเงินหยวนมีมุมมองเป็นบวกต่อการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต โดยร้อยละ 60 บอกว่าธุรกรรมต่างประเทศของตนจะขยายตัวขึ้นในปีนี้ เทียบกับร้อยละ 55 ของบริษัทที่ไม่ได้ใช้เงินหยวนทำธุรกรรม
เหตุผล ของการเลือกใช้ธุรกรรมเงินหยวน เกือบครึ่งหนึ่งบอกว่าต้องการลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน หรือลดต้นทุน และอีกกว่าร้อยละ 30 บอกว่าสะดวก เข้าถึงตลาดได้ง่าย และตอบสนองความต้องการของคู่ค้าได้
การแข็งค่าของเงินหยวนในช่วงที่ ผ่านมามีนัยสำคัญอย่างมาก โดยร้อยละ 31 ของบริษัททั่วโลกที่ค้าขายด้วยเงินหยวนบอกว่า เงินหยวนเข้ามามีส่วนในการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน และเมื่อถูกถามถึงสิทธิประโยชน์ที่จะให้แก่คู่ค้าที่ตกลงใช้เงินหยวนทำการ ค้า พบว่าร้อยละ 67 ของบริษัทในจีนที่ใช้หยวนยินดีที่จะลดราคาให้ เทียบกับร้อยละ 51 ของบริษัทที่ไม่ได้ใช้
นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัทข้ามชาติเป็นกลุ่มที่ตื่นตัวในการทำธุรกรรม
เงินหยวนมากที่สุด โดยใช้หยวนทำการค้าระหว่างบริษัทในเครือ อย่างไรก็
ตาม เส้นทางไปสู่สกุลเงินสากลของหยวนในช่วงแรกนั้นไม่ได้ราบรื่นนัก เนื่องจากมีข้อจำกัดและอุปสรรคมากมายจนทำให้เงินหยวนไม่ได้รับความสนใจเท่า ที่ควร แต่ภายหลังจากที่จีนได้ดำเนินมาตรการผ่อนคลายด้านกฎระเบียบในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้การยกระดับเงินหยวนสู่สากลเป็นไปได้ง่ายขึ้น
ดัง ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางจีนได้พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกรรมเงินหยวน โดยออกโครงการนำร่องเพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริหารเงินระหว่างประเทศให้ กว้างขวางขึ้นและส่งเสริมการเพิ่มสภาพคล่อง
เงินหยวนในต่างประเทศ ปัจจุบันมีสภาพคล่องเกินกว่า 1 ล้านล้านหยวนแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มทางเลือกของการป้องกันความเสี่ยงและการลงทุน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนธุรกรรมเงินหยวนถูกลง และการเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องเงินหยวนง่ายขึ้น
นอกจากนี้ สภาประชาชนจีนยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับเงินหยวนสู่สากล โดยเรียกร้องให้มีการกำหนดกรอบเวลาการแลกเปลี่ยนเงินหยวนอย่างเต็มรูปแบบภาย ใต้บัญชีทุน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะผลักดันให้เกิดการบูรณาการเงินหยวนเข้ากับเศรษฐกิจ โลก
แต่ถึงทุกวันนี้เงินหยวนก็ยังคงเป็นเรื่องใหม่และแปลกสำหรับหลายประเทศทั่วโลก พฤติกรรมแบบเดิม ๆ
ที่ เคยชินก็ยังยากที่จะเปลี่ยนแปลง และหลายตลาดที่มีศักยภาพก็ดูเหมือนว่าจะพลาดโอกาสดี ๆ ไป ผลสำรวจระบุว่าเกือบ 1 ใน 3 ของบริษัทที่สำรวจไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของ
การ ค้าด้วยหยวนอย่างจริงจัง โดยร้อยละ 61 ของบริษัทจีน บอกว่าความไม่มั่นใจของคู่ค้าต่างชาติเป็นอุปสรรคสำคัญของธุรกรรมการค้าเงิน หยวน
แม้ว่าจีนจะมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่และมีการเติบโตสูง ซึ่งจะทำให้หยวนอยู่ในฐานะที่น่าจับตาในเวทีโลก แต่จากการสำรวจแล้วมีเพียงบริษัทที่ตื่นตัวในการใช้ธุรกรรมเงินหยวนก่อนใคร เท่านั้นที่จะได้ประโยชน์สูงสุด
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน