จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณบรรหาร ศิลปอาชา คนตัวเตี้ยผู้ยิ่งใหญ่แห่งสุพรรณบุรี หอบสังขารวัย 80 ปี เดินสายเจรจาชักชวนหลายฝ่าย ให้เข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปการเมืองของรัฐบาล
ผมได้ดูการพูดคุยกันทางทีวีระหว่างคุณบรรหาร กับคุณจำลอง-คุณสนธิ 2 แกนนำเสื้อเหลือง ประเด็นที่ผมสนใจในฐานะนักกฎหมาย คือ คุณบรรหารพยายามอธิบายว่า เหตุผลที่ฟังจากคุณทักษิณที่ไม่ยอมกลับมารับโทษ เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ได้ทำผิดอะไร เพียงแค่เซ็นชื่อให้ความยินยอมภรรยาไปซื้อที่ดิน ซึ่งใครๆ ก็ทำ
ผมคิดว่า คำพูดของคุณบรรหาร เป็นเรื่องใหญ่ในทางกฎหมาย โดยเฉพาะศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ที่ตัดสินคดีนี้ คำพูดที่ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น มี 2 ประเด็นที่ควรพิจารณา
1.การพูดเพียงว่า แค่เซ็นชื่อให้ความยินยอม จะเป็นความผิดได้อย่างไร นั้นเป็นการพูดที่ปลายเหตุ เป็นการเบี่ยงเบนประเด็น โดยเลือกยกเอาข้อเท็จจริงเพียงบางส่วนมาพูด เพื่อให้เกิดความไขว้เขวและเข้าใจผิด คดีที่คุณทักษิณหนีหมายจับอยู่ในขณะนี้ เป็นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง พิพากษาว่า “พ.ต.ท.ทักษิณดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งได้รับมอบหมายให้บริหารราชการแผ่นดินเป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างแห่งความซื่อสัตย์ จึงถือได้ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. ตามมาตรา 100 และมีโทษตามมาตรา 122 ให้จำคุก 2 ปี”
ความผิดที่ศาลตัดสินจึงมิใช่ความผิดอันเกิดจากการเซ็นชื่อให้ความยินยอม ภรรยาในการทำนิติกรรม แต่เป็นความผิดเพราะคุณทักษิณใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี แสวงหาประโยชน์จากการซื้อที่ดินที่หน่วยงานของรัฐนำออกประมูล เป็นการทุจริตในหน้าที่ อันเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย โดยสภาพของการให้ความยินยอมภรรยาทำนิติกรรม ย่อมไม่เป็นความผิด แต่ต้องดูว่า การกระทำของภรรยาที่ไปกระทำตามที่ให้ความยินยอมไปนั้น เป็นความผิดหรือไม่ เช่น ยินยอมให้ภรรยาไปโกงชาวบ้าน ผู้ให้ความยินยอมย่อมมีความผิดด้วย จะบอกว่าเพียงแค่ให้ความยินยอมเท่านั้นไม่ได้
ในเรื่องนี้ มาตรา 100 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต บัญญัติว่า ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการ ดังต่อไปนี้
(1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบหรือดำเนินคดี
(2) เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับ หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
กฎหมายดังกล่าวบัญญัติไว้ เพื่อป้องกันนักการเมืองไม่ให้ใช้อำนาจทางการเมืองหาผลประโยชน์ให้ตนเอง เป็นการทุจริตประเภทหนึ่ง
คุณทักษิณในขณะนั้น มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ควบคุมกลไกของรัฐได้ทั้งหมด ไม่ว่าหน่วยงานใด มีอำนาจให้คุณให้โทษนักธุรกิจได้ อำนาจของคุณทักษิณในขณะนั้น ไม่ต่างไปจากอำนาจของฮิตเลอร์ ภายหลังจากชนะการเลือกตั้ง มีอำนาจเบ็ดเสร็จ จะเปลี่ยนกฎหมายให้เป็นประโยชน์กับตนเองอย่างไรก็ได้ ซึ่งคุณทักษิณได้ทำให้เห็นแล้วด้วยการแก้กฎหมายสัดส่วนการถือหุ้นของคน ต่างด้าวในธุรกิจมือถือ เพื่อให้ขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเซกแห่งสิงคโปร์ได้
ฉะนั้น หากคุณทักษิณต้องการที่ดินแปลงงามที่ถนนรัชดาฯที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ พัฒนาระบบสถาบันการเงินประมูลขาย จะมีใครกล้าเข้ามาแข่งขัน และหากต้องการซื้อในราคาถูกๆ หน่วยงานใดของรัฐจะกล้าขัดขืน
ที่ดินแปลง นี้ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ซื้อจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอราวัณทรัสต์ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2538 มีมูลค่า 2,749 ล้านบาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้ปรับปรุงราคาที่ดินลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการปรับปรุงบัญชีเพื่อปรับมูลค่าหนี้ให้ลดลง เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง โดยปรับลดราคาที่ดินเหลือ 700 กว่าล้านบาท และนำออกประมูลทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2546 ตั้งราคาขั้นต่ำ 870 ล้านบาท โดยผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำ 10 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้เสนอราคา กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จึงได้ยกเลิกการประมูล และเปิดประมูลใหม่เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2546 โดยไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ แต่ผู้ร่วมประมูลต้องวางเงินมัดจำเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท
ผลการประมูลเป็นที่ทราบกันดีว่า ภรรยาของคุณทักษิณ ชนะการประมูลด้วยราคา 772 ล้านบาท และได้มีการประกาศให้วันที่ 31 ธ.ค. 2546 เป็นวันเปิดทำงานของราชการ เพื่อโอนที่ดินให้ทัน เพราะในปี 2547 ราคาประเมินจะสูงขึ้น ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าธรรมเนียมมากขึ้น
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คุณทักษิณกุมอำนาจรัฐไว้ทั้งหมด อย่างเบ็ดเสร็จ ท่านทั้งหลายที่ไม่ต้องเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี คิดกันเอาเองว่า คุณทักษิณจะไม่รู้เรื่องการซื้อที่ดินแปลงนี้หรือไม่ และใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้กับภรรยาหรือไม่
เช่นเดียวกับเรื่องการโอนขายหุ้นชินคอร์ปให้ลูกๆ ก่อนคุณทักษิณเป็นนายกฯ และอ้างว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องดูแลธุรกิจอีกเลย มีใครเชื่อบ้าง
หรือคุณบรรหารเชื่อ....
2.คดีที่คุณทักษิณหลบหนีเป็นสัมภเวสีอยู่นี้ เป็นการหนีหมายจับของศาล หลังจากมีการพิจารณาคดีที่ศาลแล้ว เป็นการพิจารณาคดีที่คุณทักษิณได้เข้าต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ แต่หลังจากต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ คุณทักษิณคงรู้ตัวดีว่า จะไม่รอดจากคุกแน่ จึงเผ่นหนีไปตั้งหลักที่ต่างประเทศ แล้วใช้อำนาจเงินซื้อ สส.ขายตัวเหมือนซื้อวัวควาย ซื้อคนรากหญ้าด้วยประชานิยม ส่งตัวแทนเข้ามากุมอำนาจรัฐ แล้วโจมตีประเทศตัวเองว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดหลักนิติธรรม โจมตีศาลว่าตัดสินไม่ถูกต้อง
การกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการตัดสินของศาล เท่ากับกล่าวหาศาลว่าตัดสินผิด การที่คุณบรรหารนำคำพูดของคุณทักษิณมากล่าว คงต้องถามว่า คุณบรรหารเห็นด้วยกับคำกล่าวหาของคุณทักษิณหรือเปล่า
การกล่าวหาเช่นนี้ กระทบถึงศาลตรงๆ ทำให้ศาลเสียหาย เป็นการละเมิดอำนาจศาล ด้วยการดูหมิ่นศาล แต่ไม่รู้ว่าศาลท่านมีความเห็นอย่างไร
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน