สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับความปรองดองของคนไทย

พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับความปรองดองของคนไทย

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




อุณหภูมิการเมืองได้ร้อนระอุขั้นรุนแรงในสัปดาห์นี้ที่ยากจะคาดเดาถึงข้อยุติที่จะเกิดขึ้น อันสืบเนื่องมาจากสภาผู้แทนราษฎรใช้เสียงข้างมากหักดิบ

ผ่านร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ต่อเช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน (เวลาประมาณ 05.00 น และเป็นการประชุมต่อเนื่องยาวนานกว่า 19 ชั่วโมง) ไม่เปิดโอกาสให้คณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ตลอดจนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ขอแปรญัตติเอาไว้ได้อภิปราย โดยอาศัยเสียงข้างมากเสนอปิดการอภิปราย ซึ่งต่างจากที่นายกรัฐมนตรีได้พูดอยู่ตลอดเวลาว่าให้ไปพูดคุยกันในรัฐสภา แต่ในการประชุมจริงประธานรัฐสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลเองได้ใช้เสียงข้างมากไม่ยอมให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย มิหนำซ้ำยังไม่มีการถ่ายทอดการประชุมผ่านสถานีโทรทัศน์สาธารณะ เป็นการปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรับทราบถึงสาระและเนื้อหาการประชุม ทั้งๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนในบางมาตราในวาระที่หนึ่งอย่างสิ้นเชิงที่มีการนิรโทษกรรมความผิดในทุกกรณี (เช่น การทุจริตคอร์รัปชัน การเผาวางเพลิง การทำลายทรัพย์สินของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน) ที่ครอบคลุมระยะเวลาจากปี 2547 (จากเดิมวันที่ 19 กันยายน 2549) จนถึงเดือนสิงหาคม 2556

พฤติกรรมที่ใช้เสียงข้างมากแบบเหิมเกริม ลุแก่อำนาจ และมีการเอื้อผลประโยชน์ต่อบุคคลบางคนบางกลุ่มที่มีผลประโยชน์ขัดแย้ง เช่น อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักการเมือง หรือผู้นำของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ท้าทายและสร้างความไม่พอใจให้กับคนในสังคมที่รุนแรงในวงกว้าง จนทำให้มีการชุมนุมประท้วงคัดค้านจากกลุ่มและฝ่ายต่างๆ อย่างกว้างขวาง นับตั้งแต่นิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วน และประชาชนโดยทั่วไป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่มีแถลงการณ์ต่อต้านมากขึ้นตามลำดับ

น่าเสียดายที่นายกรัฐมนตรีเองที่กลับวางตัวเหนือปัญหา โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และตนเองก็ไม่ยอมเข้าประชุมในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยอ้างว่าไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งสะท้อนถึงวุฒิภาวะในการบริหารประเทศในการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา และเป็นการสนับสนุนเติมเชื้อเพลิงให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคมอย่างปราศจากความรับผิดชอบ

พูดถึงความรับผิดชอบต่อประเทศแล้วจะเห็นได้ว่า ความน่าเชื่อถือของนายกฯยิ่งลักษณ์ ได้ลดลงตามเวลาที่บริหารประเทศ ซึ่งน่าเสียดายที่เธอมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพความสามารถของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ

ผลงานเด่นในการบริหารประเทศชัดเจนคือ การกู้เงินสร้างหนี้ให้กับประเทศ (ในการหาเสียงบอกว่าจะปลดหนี้ให้กับประเทศ) โครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดที่ขาดดุลจำนวนประมาณสองแสนล้านบาทต่อปี และมีข่าวการทุจริตคอร์รัปชันในการดำเนินงานที่ไม่มีคำชี้แจงและการตรวจสอบ ราคาสินค้าเกษตรหลักๆ เช่น ยาง ปาล์ม ราคาตกต่ำที่มีเกษตรกรออกมาชุมนุม ราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพเพิ่มสูงขึ้น เช่น ราคาอาหาร น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม ทั้งๆ ที่ในการรณรงค์หาเสียงในปี 2554 ได้ประกาศว่าจะกระชากค่าครองชีพลง และที่สำคัญคือเศรษฐกิจที่ดูจะทรุดถอยลงจากการส่งออกที่ชะลอตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง ทีในปีนี้ได้เริ่มจากการตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกไว้ที่ร้อยละ 15 ต่อมาลดลงเหลือร้อยละ 7 และร้อยละ 5 ตามลำดับ จนในปัจจุบันภาคเอกชนและธนาคารภาครัฐปรับคาดการณ์ลงเหลือเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากรัฐบาล แต่ภาพที่เห็นคือการเดินทางไปต่างประเทศที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้เดินทางไปกว่า 50 ประเทศและใช้เงินในการเดินไปแล้วประมาณ 400 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาไปเที่ยวเพราะไม่ปรากฏผลงานที่เป็นรูปธรรม ในขณะที่หลีกเลี่ยงการเข้าประชุมในสภาผู้แทนราษฎรในการชี้แจงหรือรับฟังปัญหาของบ้านเมือง

ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านจำนวนมากในครั้งนี้ ก็เป็นการผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ เพราะเป็นกฎหมายที่ไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรม นิติรัฐ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานเมื่อคนถูกฆ่าตาย ถูกวางเพลิง เผาทรัพย์ ถูกปล้นทรัพย์ กฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ยัง นิรโทษกรรมความผิดฐานทุจริตโกงกินต่อบ้านเมือง และที่สำคัญคือ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฉบับนี้ มีผลให้ลบล้างคำพิพากษาของศาลในคดีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เป็นการก้าวก่ายอำนาจการตรวจสอบถ่วงดุลการวินิจฉัยคดีของฝ่ายตุลาการ เป็นการที่ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารสมคบร่วมกันรวบอำนาจการวินิจฉัยคดีของตุลาการมาอยู่ในมือของเสียงข้างมาก เป็นการทำลายหลักการถ่วงดุลแห่งอำนาจทั้งสาม

นายกรัฐมนตรีพึงสำเหนียกว่ามีหน้าที่บริหารประเทศให้เดินหน้าไปได้ ไม่ใช่การลอยตัวต่อปัญหาทั้งปวงแต่กลับสนับสนุนการสุมไฟให้เกิดความไม่สงบและความแตกแยกของคนในชาติ และความปรองดองไม่อาจเกิดจากการใช้อำนาจออกกฎหมายบังคับ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ความปรองดองของคนไทย

view