สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พันธบัตรสกุลบาท อนาคตของการเงินลุ่มแม่น้ำโขง

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ เดือนหงายที่ชายโขง : โดย ธีรภัทร เจริญสุข

การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub-Region) นั้น หากไม่นับประเทศไทยแล้ว ยังต้องพึ่งพาเงินลงทุนทั้งแบบให้เปล่าและแบบมีเงื่อนไขจากต่างประเทศอยู่มาก การที่ต้องพึ่งพาแหล่งทุนต่างชาติ เป็นเหตุให้ความต่อเนื่องและยั่งยืนของการระดมทุนมีปัญหา หากนโยบายด้านเงินทุนของชาติต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนหยุดชะงัก หรือเกิดความเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง

รัฐบาลของประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาค จึงพยายามจะก้าวออกจากระบบการเงินแบบสังคมนิยมเข้าสู่ตลาดพันธบัตร เพื่อระดมการลงทุนเป็นงบประมาณรายจ่ายภาครัฐโดยตรงโดยไม่ต้องรอเงินช่วยเหลือ เงินกู้แบบมีเงื่อนไขซึ่งผูกมัดรัฐบาลมากกว่าระบบการเงินเสรีในตลาดพันธบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

รัฐบาล แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนั้นได้ประสบความสำเร็จในการออกพันธบัตร สกุลเงินบาทเป็นประเทศแรกโดยมีกระทรวงการคลังของประเทศไทยและบริษัททวิ นไพนส์คอนซัลแตนทส์เป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนทางเทคนิคโดยการออกพันธบัตรสกุล เงินบาทครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2013 มูลค่า 12 พันล้านบาท เป็นการออกพันธบัตรที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยมีผู้จองซื้อพันธบัตร ได้แก่ สถาบันการเงินต่างชาติและนักลงทุนรายใหญ่มากกว่ามูลค่าพันธบัตรที่รัฐบาลลาว ได้ออกไปถึง 3 เท่าตัว ทางรัฐบาลลาวซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาการเก็บภาษีได้ไม่ถึงเป้า จึงจำเป็นต้องออกพันธบัตรสกุลเงินบาทเพื่อปิดช่องว่างการขาดดุลงบประมาณ เพิ่มเติมในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้มูลค่ารวม3พันล้านบาทในอัตรา ดอกเบี้ย 4.7% ต่อปีสำหรับพันธบัตรอายุ 3 ปี และ 5.1% ต่อปี สำหรับพันธบัตรอายุ 5 ปี เนื่องจากรายจ่ายส่วนใหญ่ของรัฐบาลจ่ายเป็นสกุลเงินบาท และนักลงทุนต่างๆ ก็ทำการค้าในประเทศไทย ซึ่งสะดวกและทำธุรกรรมได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือ ยูโรที่มีมาตรการทางการเงินที่เข้มงวดกว่า

อย่างไรก็ตามสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินระดับโลกเช่นมูดี้ส์ฟิตช์เรตติ้งหรือ สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส ยังไม่ได้เข้ามามีบทบาทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรสกุลเงินบาทของลาวแต่อย่างใด (อยู่ในสถานะ Unrated Papers) ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงในการลงทุนสูง เพราะแม้ว่าลาวจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 7-8% ต่อเนื่องมากว่าสิบปี แต่ผลผลิตและการจัดเก็บรายได้ของรัฐนั้นยังต่ำกว่าเกณฑ์ และมีปัญหาคอร์รัปชั่นในองค์กรของรัฐที่หนักหน่วง ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลลาวต้องแก้ไขก่อนจะก้าวเข้าสู่ตลาดพันธบัตรระหว่างประเทศ

การ นำร่องออกพันธบัตรสกุลเงินบาทของลาวอาจเป็นช่องทางให้ประเทศเมียนมาร์และ กัมพูชาสามารถทำตามเพื่อระดมเงินทุนในต้นทุนต่ำเพื่อพัฒนาประเทศในช่วงเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินสงเคราะห์ให้เปล่าหรือ เงินกู้แบบมีเงื่อนไขเพื่อหลีกเลี่ยงพันธะผูกมัดในการสัมปทานทรัพยากร ธรรมชาติหรือการแก้ไขกฎหมายที่เสี่ยงต่อการแทรกแซงทางการเมืองจากต่างชาติใน การนี้ประเทศไทยและสถาบันการเงินของไทยก็จะได้รับประโยชน์จากการเป็นศูนย์ กลางและตัวกลางทางการเงินและการลงทุนรวมถึงความเชื่อมั่นในสกุลเงินบาทที่จะ กลายเป็นสกุลเงินหลักของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในที่สุด

เช่นเดียว กันกับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานตามแผนพ.ร.บ.สร้างอนาคตไทย2020ของ รัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นการกู้เงินผ่านธนาคารและพันธบัตรรัฐบาลในสกุลเงินบาท เป็นหลัก เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนภายในประเทศที่มีเงินออมสะสมส่วนเกินจำนวนมาก ซึ่งเมื่อระดมเงินทุนเพื่อการลงทุนเป็นสกุลเงินบาทแล้ว ก็สามารถลดความเสี่ยงการผันผวนของค่าเงินเมื่อสภาพเศรษฐกิจโลกและนโยบายของ ชาติมหาอำนาจทางการเงินเกิดความแปรปรวนได้ในระดับหนึ่งด้วย

พันธบัตร สกุลเงินบาทจึงอาจก้าวเข้ามามีบทบาทหลักในการกำหนดอนาคตด้านการเงินของ ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้หากภาครัฐและสถาบันการเงินของไทยร่วมมือ กับประเทศเพื่อนบ้านสร้างมาตรฐานที่โปร่งใสและมั่นคงเอื้อต่อการลงทุนเพื่อ พัฒนาทั้งระบบการเงินและคุณภาพชีวิตของประชาชนไปพร้อมกัน



ที่มา : นสพ.มติชน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พันธบัตรสกุลบาท อนาคตของการเงิน ลุ่มแม่น้ำโขง

view