จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เฉลา กาญจนา
กลายเป็น "ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์" กับเหตุการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมต้านนิรโทษกรรมและระบอบทักษิณ
ที่กำลังม็อบดาวกระจายไปทั่วสารทิศ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ผู้คนจำนวนมากที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านในเวลานี้ มีหลากหลายประเด็นที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลชุดนี้
คลื่นของมวลมหาประชาชนที่ปรากฏขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คงจะบ่งบอกอะไร หรือส่งสัญญาณอะไรบางอย่างไปยังรัฐบาล นี่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏขึ้น
อุณหภูมิร้อนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้หยุดเพียงแค่ถนนราชดำเนิน แต่ยังดาวกระจายไปยังส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ที่สาหัสหนักเห็นทีจะเป็นการบุกเข้ายึดกระทรวงการคลัง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนเคลื่อนตัวไปยังกระทรวงต่างๆ เพื่อขอให้ทุกส่วนราชการอารยะขัดขืนขั้นสูงสุด คือ ไม่ทำงาน
แน่นอนว่า แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ของส่วนราชการ แต่ก็ทำให้หลายแห่งต้องประกาศให้พนักงานกลับบ้าน ฉะนั้น ระหว่างนี้หากใครต้องการติดต่อประสานงาน กับส่วนราชการเรียกว่า"ไม่ง่าย"ที่สำคัญการเปิดให้บริการติดต่อทางราชการก็จะไม่เอื้ออำนวยนัก
จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่าการเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายของกลุ่มผู้ชุมนุมจะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม?
เอาละ..ดาวกระจายของกลุ่มผู้ชุมนุมจะไปที่ไหน อย่างไร หากไม่สร้างความเดือดร้อนและใช้ความรุนแรง ตรงนี้คิดว่าเป็นสิทธิของผู้ชุมนุมที่พึงกระทำได้ แม้จะยกระดับการชุมนุมอย่างไรก็ตาม
สำหรับรัฐบาลวันนี้ คงอยู่ในสภาพ"ถอยห่าง"กับปัญหา ฉะนั้นบทบาทสำคัญที่จะติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมคงหนีไม่พ้น"ตำรวจ"ที่ถูกวางยุทธศาสตร์ให้เป็นผู้ดูแลควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม เรียกว่าถูกสั่งการให้อดทน อดกลั้น ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้อารมณ์กับกลุ่มผู้ชุมนุม
ทว่า จบงานนี้แล้ว หากไม่เกิดอุบัติเหตุกลางทางเสียก่อน นายตำรวจยศพล.ต.อ. อักษรย่อ ว.เตรียมความพร้อมขึ้นแท่นว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ได้เลย งานนี้มีการวางหมากไว้ชัดเจน เพื่อที่จะตอบแทนคุณงามความดีในการดูแลการชุมนุม แต่ต้องให้ไม่เกิดความรุนแรงขึ้นระหว่างทาง เรียกว่าสถานการณ์ตอนนี้ รัฐบาลจะอยู่หรือจะไป คงต้องฝากชีวิตไว้กับตำรวจก่อนในขั้นต้น จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นตำรวจที่เข้ามาควบคุมดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ชุมนุมจะมาจากหลากหลายแห่ง
ฉะนั้น จะเห็นว่าตลอดเวลาที่มีการชุมนุมที่ผ่านมา ตำรวจถูกจัดวางไว้เป็นด่านหน้าในการดูแลความเรียบร้อยในทุกๆ พื้นที่ ที่มีการชุมนุมของกลุ่มพี่น้องประชาชน
สำหรับทหาร ในยามที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะย่ำแย่อย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าทหารไม่สนใจ หรือนิ่งดูดายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าช่วงที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาโดยเฉพาะช่วงวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ก็มีสัญญาณเตือนจากทหารส่งต่อถึงรัฐบาล
ทำนอง"ขอร้องให้รัฐบาลดูแลไม่ให้เกิดการปะทะขึ้นระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม หากปล่อยให้มีการปะทะเกิดขึ้น เท่ากับเป็นการบีบให้ทหารออกมา"นี่คือสาส์นจากทหารถึงรัฐบาล เพราะไม่ต้องการออกหน้าในสถานการณ์ปัจจุบัน
ฉะนั้น ไม่แปลกที่พ.อ.ธนาธิป สว่างแสงโฆษกกระทรวงกลาโหม ออกมาย้ำเตือนว่า สถานการณ์การชุมนุมนี้ ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นหน่วยงานดูแลรับผิดชอบในการควบคุมดูแลและแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง เพื่อรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ชุมนุมและพี่น้องประชาชนทุกคน พร้อมยึดมั่นแนวทางหลักในขั้นตอนการปฏิบัติของกฎหมาย ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ใช้ความอดทน อดกลั้น ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
ดังนั้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายไปทางไหน คงต้องอยู่ที่การจัดการของรัฐบาลเหมือนกัน ว่าเลือกที่จะใช้ความรุนแรง หรือเลือกที่จะอดทนกับสถานการณ์
หากเลือกความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม สัญญาณที่ส่งผ่านมาน่าจะเป็น"โมฆะ" ไปทันที ฉะนั้น เวลาที่เหลืออาจเป็นเครื่องพิสูจน์รัฐบาลว่า จะเลือกทางไหนในการจัดการกับผู้ชุมนุม...
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
