จาก โพสต์ทูเดย์

คำถาม-คำตอบ ระหว่าง "ผู้บัญชาการทหารสูงสุด" และ "สุเทพ" ในเวทีเสวนาสาธารณะเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.

เวทีเสวนาสาธารณะเพื่อความสงบสุขและประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่มี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วมรับฟัง ขณะที่แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.นั้น ผบ.สส.ได้บอกให้ทุกฝ่ายต้องเคารพกติกา พร้อมเสนอให้ตั้งกรรมการกลางขึ้นมาดูแลการเลือกตั้งให้เกิดความโปร่งใส

ขณะที่ สุเทพ ชี้แจงว่า กปปส.ต้องการพบผู้นำเหล่าทัพ เพื่อชี้แจงเจตนารมณ์ในการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชน และเพื่อให้รู้ถึงวัตถุประสงค์ในการเคลื่อนไหว โดยที่ออกมาวันนี้เพราะต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เช่น แก้ไขการเลือกตั้งให้เป็นประชาธิปไตย เพื่อเป็นหลักประกันว่า   จะไม่เกิดการเลือกตั้งที่ทุจริต นอกจากนี้ต้องกำหนดกติกาในการปราบปรามการทุจริตให้ได้ผล เช่น ความผิดด้านคอร์รัปชั่นต้อง   ไม่มีอายุความ

นอกจากนี้ ต้องยอมรับอำนาจประชาชนให้มากขึ้น มีการกระจายอำนาจ ต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด กระจายงบประมาณแผ่นดินอย่างยุติธรรม ต้องปรับโครงสร้างตำรวจ โดยไม่ให้รวบรัดอำนาจไม่ให้นักการเมืองครอบงำ โดยการโยกย้ายจะต้องขึ้นอยู่กับประชาชน รวมถึงกำจัดระบอบทักษิณ เนื่องจากเป็นระบอบที่อยู่เหนือกฎหมาย และต้องประกาศวาระแห่งชาติเพื่อช่วยเหลือคนจน

ผู้ดำเนินการเสวนา ถามว่า รัฐบาลของประชาชนมีที่มาจากไหน สุเทพ กล่าวว่า มีสองทางคือ 1.นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งรักษาการ และ 2.ต้องเห็นประชาชนลุกขึ้นสู้หนักกว่านี้ ในไม่ช้าจะเห็นคนออกมามากกว่า 10 ล้านคน และการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีวันเกิดขึ้น ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีวันสำเร็จ

ผู้ดำเนินการเสวนา ถามอีกว่า จะยอมรับข้อเสนอของทุกฝ่ายได้หรือไม่ สุเทพ ย้ำว่า กปปส.ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอฝ่ายอื่นๆ แต่ปฏิเสธข้อเสนอ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นแค่การซื้อเวลา โดยหวังว่าจะทำให้ประชาชนออกมาชุมนุมน้อยลง แต่ครั้งนี้ประชาชนจะไม่ถอยแล้ว

ด้าน พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้ตั้งคำถามว่า แต่ละคนมีความเห็นเหมือนกันคือ รักชาติ อยากเห็นความสงบทำอย่างไรจะให้วิน-วิน

“เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาแล้ว จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์มากที่สุด จะใช้กรรมการอย่างไร มีสัญญาประชาคมอย่างไร มีคนบอกว่า กรุงโรมสร้างไม่เสร็จในวันเดียว แต่ถ้าสร้างเสร็จนาน อาจจะไม่มีคนอยู่” พล.อ.ธนะศักดิ์ ตั้งคำถาม

สุเทพ ได้ตอบคำถามว่า แค่ทำให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากการรักษาการก็พอ ทุกอย่างก็ราบรื่น เมื่อก่อนถ้าบ้านเมืองจะเกิดความเสียหาย ทหารก็ทำการปฏิวัติ เอารถถังมาจอดตามสี่แยก 3 ชั่วโมงก็จบ แต่วันนี้ทหารเป็นทหารสมัยใหม่ เป็นทหารประชาธิปไตย คงไม่ปฏิวัติ และ กปปส.ก็ไม่ได้ต้องการให้ท่านปฏิวัติ

“แต่ท่านเป็นคนไทยท่านเลือกได้ ประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว หากข้าราชการยืนข้างประชาชน หยุดรับใช้รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม เรื่องจบทันที หากท่านตัดสินใจเร็ว ประชาชนแซ่ซ้องเป็นวีรบุรุษของประชาชน เราไม่ได้บีบบังคับท่าน แต่เรารอการตัดสินใจของท่าน” สุเทพ กล่าว

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า หากไปยืนอยู่กับท่าน ไม่ว่าจะมีปืนหรือไม่มีปืนก็เหมือนกัน แต่ละคนมีความคิดของตนเอง ทำอย่างไรจะเอามารวมกันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประเทศไทย

สุเทพ ตอบว่า วันนี้คนไทยต้องเลือกเพื่อตัดวงจรเลวร้ายออก สำหรับประชาชน ตั้งแต่วันนี้เราสู้ได้เป็นปี และจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งยืดยาวก็กระทบเศรษฐกิจของประเทศ วันนี้ประชาชนต้องทำหลังจากนี้ต้องรอการตัดสินใจของท่าน

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือ มือที่สามหากช่วยกันระวังป้องกันเหตุคาดไม่ถึงก็จะดีที่สุด และอยากขอร้องว่า ขณะนี้ลูกน้องที่ทำเนียบรัฐบาลไม่มีไฟเสียบหุงข้าว และไม่อยากให้ใช้ธงชาติล้อมทำเนียบ เพราะตกมาจะไม่ดี

สุเทพ รับปากว่า เรื่องธงชาติจะเรียบร้อย จะทำให้อยู่ในที่ที่สวยงาม ส่วนเรื่องตำรวจหากสั่งการก็ขอให้กลับบ้าน ให้ทหารอยู่หมวดเดียวพอ

ทั้งนี้ เวทีได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ อาทิ ภัทระ คำพิทักษ์ ตัวแทนจากสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ วิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าร่วมแสดงความเห็น

ภัทระ ระบุว่า เชื่อว่าความคิดเห็นของหลายฝ่ายตรงกัน คือต้องการให้เกิดการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้หนีจากวิกฤตเดิมๆ โดยในครั้งนี้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง 2 แบบ ได้แก่ 1.เปลี่ยนแปลงด้วยสันติภาพ และ 2.เปลี่ยนแปลงให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญมีช่องทางในการแก้ปัญหาได้หลายแบบ และทุกถ้อยคำในรัฐธรรมนูญมีความหมายทั้งหมด

ด้าน ปริญญา กล่าวว่า ประเทศไทยเราก้าวมาถึงระดับประชาธิปไตยที่ยุโรปและอเมริกาไปถึงมาแล้วก่อนเรา คือ มีการถ่วงดุลเสียงข้างมาก จากนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนจะใช้เสียงข้างมากทำตามใจไม่ได้ จึงถือเป็นโอกาสในการปฏิรูปประเทศไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ตอนนี้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา และได้ประกาศวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.แล้ว สิ่งที่ผมสนใจคือ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้ทำประชามติควบคู่ในวันเลือกตั้งเสมอ จึงอยากเสนอให้ทำประชามติในวันเลือกตั้งในเรื่องต่างๆ เช่น การปฏิรูปประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องสภาประชาชน และรัฐบาลที่มาใหม่ต้องผูกพันมติของประชาชน”ปริญญา ระบุ

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน