จาก โพสต์ทูเดย์
ถ้าประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรีของท่านเป็นอย่างนี้ท่านทั้งหลายจะนั่งอยู่เฉยๆจริงหรือ
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. อดีตบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองไทยได้เขียนบทความเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยสมมุติเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ว่า ถ้าเกิดขึ้นในอเมริกา คนอเมริกันจะทำอย่างไร โดยมีเนื้อหาดังนี้
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นการยากที่คนอเมริกันหรือคนยุโรปจะเข้าใจได้ เพราะดูเสมือนหนึ่งว่าประชาชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่เคยมีการชุมนุมกันมาในทุกประเทศในโลก จะขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ออกจากตำแหน่ง และเมื่อมีการยุบสภาแล้ว ก็ยังไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้
ถ้าเราลองมาสมมุติเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ว่าถ้าเกิดขึ้นในอเมริกา คนอเมริกันจะทำอย่างไร
1.ประธานาธิบดีของอเมริกัน ได้รับเลือกตั้งมาจากการซื้อเสียง โดยเงินที่ซื้อเสียงได้รับการสนับสนุนหรือจัดการจากบินลาเดน
2.เมื่อได้รับตำแหน่งแล้ว ในการแต่งตั้งรัฐมนตรีต่างๆ บินลาเดนจะเป็นคนกำหนดว่าใครจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด การกำหนดนโยบายต่างๆ บินลาเดนจะเป็นคนกำหนด และให้ความเห็นชอบ โดยพรรคเดโมแครท ประกาศชัดในการหาเสียงเลือกตั้งว่า "บินลาเดนคิด ประธานาธิบดีทำ"
3.การใช้อำนาจอนุมัติหรืออนุญาตในเรื่องใดๆของรัฐมนตรีหรือข้าราชการระดับสุง จะทำโดยลำพังไม่ได้ จนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากบินลาเดนก่อน คนจำนวนมากที่จะทำกิจการหรือธุรกิจ จึงต้องบินไปพบบินลาเดนก่อนที่จะเข้าพบรัฐมนตรีหรือปลัดกระทรวง
4.ในการส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคเดโมแครท จะต้องส่งรายชื่อคนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งให้บินลาเดน ให้ความความเห็นชอบก่อน และใครที่ประสงค์จะให้พรรคเดโมแครทส่งลงสมัคร จะต้องเดินทางไปอัฟกานิสถาน เพื่อพูดคุยกับบินลาเดน เพื่อให้บินลาเดนสนับสนุนหรือสั่งการมายังพรรค
5.ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคเดโมแครทใช้เงินมากมายมหาศาล ทั้งติดสินบน และแจกจ่ายชาวบ้านที่จะมาลงคะแนน มีการจ้างหัวคะแนนและเจ้าหน้าที่ที่เป็นกลไกในการจัดการเลือกตั้งไว้เป็นประจำโดยจ่ายเป็นเงินเดือน หรือให้เงินก้อน หรือให้ประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น
6.เพื่อให้ประชาชนเกิดความนิยมในพรรคเดโมแครท และภายใต้การสั่งการของบินลาเดน รัฐบาลได้จัดให้มีการประกันราคาผลิตผลทางการเกษตร โดยให้ประชาชนนำผลิตผลทางการเกษตรมาจำนำกับรัฐบาลทั้งหมดในราคา 150%ของราคาตลาด และเมื่อรับจำนำแล้วก็ไม่สามารถขายได้เพราะถ้าขายก็ขาดทุน ผลิตผลทางการเกษตรจึงกองอยู่ในโกดังมหาศาล และเป็นผลให้ตลาดการเกษตรของประเทศ ซึ่งเคยอยู่ในอันดับหนึ่งของโลกต้องตกต่ำลง
ในขณะเดียวกันจำนวนเงิน 500,000 ล้านดอลลาร์ที่ใช้ในการรับจำนำจึงขาดทุนไปเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ ทึ่สำคัญผู้ที่เกี่ยวข้องในการรับจำนำและได้ผลประโยชน์มหาศาล ล้วนแต่เป็นคนของประธานาธิบดี จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ประธานาธิบดียังไม่สามารถแถลงได้ว่าโครงการนี้ขาดทุนเท่าไร เมื่อมีผู้ไปถามรัฐมนตรีที่รับผิดชอบก็ได้แต่ยิ้มๆไม่สามารถตอบได้
7.โครงการทุกโครงการที่รัฐบาลทำ คนที่จะเข้าทำงานนั้นได้จะต้องจ่ายเงินให้แก่ญาติประธานาธิบดีและตัวแทนของรัฐมนตรีเป็นจำนวนมหาศาล กล่าวกันว่าเรียกกันถึงร้อยละ 30 ของราคางานที่ประมูลกัน เงินที่ทุจริตได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือบินลาเดน
8.สมาชิกวุฒิสภาบางส่วนแม้จะไม่สังกัดพรรค จะได้รับเงินตอบแทนเป็นรายเดือนจากบินลาเดนหรือคนของบินลาเดน
9.สส.ของพรรคและสว.ที่ได้รับเงินรายเดือนจะต้องลงมติหรืออภิปรายตามแนวทางหรือยุทธวิธีที่พรรคกำหนด ซึ่งพรรคกำหนดตามแนวทางที่ได้รับคำสั่งจากบินลาเดน
10.เจ้าหน้าที่รัฐตำแหน่งต่างๆจะก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพของตนได้ก็ต่อเมื่อได้ไปแสดงความยอมรับและยอมเป็นพรรคพวกของบินลาเดนเสียก่อน และเมื่อบินลาเดนสั่งให้ใครได้ขึ้นดำรงตำแหน่งใด คนนั้นก็จะได้รับการแต่งตั้งตามที่บินลาเดนสั่งการ ถึงขนาดที่นายตำรวจระดับสูงที่ดูแลความสงบของเมืองหลวง ประกาศออกมาอย่างกล้าหาญว่า "มีวันนี้ เพราะบินลาเดนให้"
11.เมื่อบินลาเดนต้องการให้สภาอนุมัติกฎหมายใด ทั้งประธานสภาและสมาชิกของพรรคเดโมแครท ซึ่งมีเสียงข้างมากในสภาก็ขยันขันแข็ง ผลักดันให้ตามที่ต้องการ ไม่ว่ากฎหมายนั้นจะถูกต้องตามหลักนิติธรรมหรือไม่
12.พรรครีพับริกันซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีโอกาสจะได้แสดงความเห็นใดๆ ได้อย่างอิสระเพราะจะถูกขัดขวาง ถูกกลั่นแกล้ง และถูกปิดปาก โดยอ้างอย่างผิดๆ เกี่ยวกับข้อบังคับของสภา จนไม่สามารถจะพูดให้เกิดความเข้าใจได้ เพราะจะถูกขัดจังหวะ
13.เมื่อวุฒิสภาบางส่วนที่ไม่ได้รับเงินจากบินลาเดน คอยขัดขวางไม่ให้ประธานาธิบดีใช้อำนาจได้ตามใจนึกหรือตามที่บินลาเดนสั่งการ บินลาเดนก็สั่งการให้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเดโมแครทสามารถใช้เงินซื้อเสียงได้อย่างเต็มที่ และเพื่อให้มั่นใจว่าร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะผ่านสภาตามที่ต้องการ
พรรคเดโมแครทได้ใช้กลยุทธเสนอร่างๆหนึ่งที่คนทั่วไปอาจจะพอรับได้ แต่ในเวลาที่สภาจะพิจารณาจริงๆ กลับใช้อีกร่างหนึ่งที่ได้เตรียมการกันไว้แล้ว เพื่อให้มีบทบัญญัติที่ต้องการจริงๆ
14.ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูฐ ประธานสภาได้ตัดบทไม่ยอมให้สมาชิกที่เสนอคำแปรญัตติไว้ได้มีโอกาสได้พูด โดยให้สมาชิกพรรคของตนเสนอปิดอภิปรายโดยไม่ชอบเสียก่อนและในการลงคะแนน เพื่อให้ได้คะแนนให้มากที่สุด สมาชิกคนหนึ่งถึงกับใช้บัตรของสมาชิกคนอื่นๆมาลงคะแนนแทนให้ โดยประธานสภาและรัฐมนตรีก็ยืนดูอยู่
15.เพื่อเป็นการช่วยเหลือบินลาเดนให้สามารถเข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ สามารถมาสมัครเป็นประธานาธิบดีได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องใช้ตัวแทน บินลาเดนได้สั่งการให้สมาชิกสภาที่สังกัดพรรคเดโมแครทของประธานาธิบดี ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่บินลาเดนและประธานาธิบดี พร้อมทั้งนิรโทษกรรมให้แก่ลูกน้องบินลาเดนที่จี้เครื่องบิน 3 บำ ชนตึกเวิลด์เทรด และคนอื่นๆในกลุ่มก่อการร้ายที่เคยเผาอาคารที่ทำการของมลรัฐต่างๆ รวมทั้งทุกคนที่เคยทำการทุจริตมา
แม้สมาชิกพรรครีพับริกันจะพากันคัดค้าน ประธานสภาฯก็เดินหน้าประชุมต่อไปจนถึงตี4 ของวันรุ่งขึ้น แล้วลงมติให้ผ่านกฎหมายนั้นไป โดยประธานาธิบดีอ้างว่าเป็นเรื่องของสภาฯ ไม่เกี่ยวกับประธานาธิบดี
เมื่อมีประชาชนมาชุมนุมประท้วงกันมากๆเข้า ประธานาธิบดีกลับส่งสัญญาณให้ประธานวุฒิสภาต้องลงคะแนนไปในทิศทางที่ประธานวุฒิสภาต้องการ แม้ต่อมาวุฒิสภาจะลงมติไม่รับร่างดังกล่าวตามคำสั่งของประธานาธิบดี แต่ตามรัฐธรรมนูญเมื่อพ้น 180 วันแล้ว สส.ก็สามารถหยิบยกขึ้นมายืนยันใหม่ได้ ซึ่งสมาชิกของพรรคเดโมแครทก็ได้แถลงต่อสาธารณะอย่างเปิดเผยว่า มีความประสงค์จะทำเช่นนั้น และแม้ต่อมาจะมีการยุบสภาแล้ว แต่เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่แล้วรัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่ก็สามารถหยิบขึ้นมาได้อีกภายในหกสิบวัน
16.เมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านรัฐสภาแล้ว มีผู้นำเรื่องเสนอต่อศาลสูงสุดของสหรัฐตามช่องทางของรัฐธรรมนูญ ต่อมาเมื่อศาลสูงสุดพิพากษาว่า การร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งในแง่ของกระบวนการในการพิจารณา และในแง่ของสาระของการแก้ไข ประธานวุฒิสภาพร้อมสมาชิก ที่ทำตามคำสั่งของบินลาเดน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาแถลงต่อประชาชนอย่างเปิดเผย ว่าไม่ยอมรับการวินิจฉัยของศาลสูงสุด โดยจะถือเสมือนหนึ่งไม่เคยมีคำพิพากษาของศาลสูงสุดเลย โดยเห็นว่าศาลสูงสุดไม่มีอำนาจ และจะดำเนินการต่อไปเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นออกมาใช้บังคับให้ได้
เรื่องและเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นคงไม่เกิดขึ้นในอเมริกา แต่กรุณาลองมำใจสักหน่อยว่า ถ้าอเมริกาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คนอเมริกันจะทำอย่างไร
1.ถ้าท่านจะถอดถอนประธานาธิบดี ซึ่งก็ต้องใช้คะแนนเสียงในวุฒิสภา แต่เมื่อท่านรู้อยู่แล้วว่า สมาชิกวุฒิสภาประมาณครึ่งหนึ่ง เป็นคนที่ได้รับเงินเดือนจากบินลาเดนเป็นประจำ และในอดีตที่ผ่านมามีประวัติในการลงคะแนนเสียงตามที่บินลาเดนสั่งเสมอ และที่สำคัญขั้นตอนที่จะดำเนินการนี้ต้องใช้เวลาเป็นปี
2.ท่านจะดำเนินคดีกับประธานาธิบดีในข้อหา กบฏ (Treason) ก็ทำไม่ได้เพราะตำรวจที่มีอำนาจเกือบทั้งหมด เป็นคนที่เคยได้เดินทางไปหาบินลาเดนที่อัฟกานิสถานเพื่อให้บินลาเดนสั่งเลื่อนตำแหน่งหรือแต่งตั้งให้ ส่วนอัยการนั้นก็พบว่าได้สั่งการหลายเรื่องในทางที่เป็นประโยชน์แก่บินลาเดนมาแล้ว
3.จะเดินหน้าไปเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ กลไกที่บินลาเดนวางไว้เและเงินอันมหาศาลที่บินลาเดนได้ไปจากการทุจริตของประธานาธิบดีและลูกน้องก็มีมหาศาล
คนอเมริกันจะทำอย่างไรไม่รู้ แต่คนไทยทำเพียงแค่มาชุมนุมกันมากมายอย่างสงบ เปิดเผยไม่มีอาวุธ เฝ้าวิงวอนให้ผู้บริหารลาออกไปเถอะ อย่าเพิ่งไปเลือกตั้งเลย ปฏิรูปกันเสียก่อน ใช้เวลาไม่เกินสองปี แล้วค่อยไปเลือกตั้งกัน
สำหรับบินลาเดนนั้น คนอเมริกันคงรู้แล้วว่ามีความร้ายกาจในสายตาของคนอเมริกัน แต่บินลาเดนของไทยนั้น ยกตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเพียงสองสามประการ แล้วคนอเมริกันหรือยุโรปลองคิดดูว่า ถ้าประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรีของท่านเป็นอย่างนี้ ท่านจะรับได้มากน้อยเพียงใด
1.เป็นเจ้าของบริษัทโทรคมนาคม โดยมีกฎหมายกำหนดว่า บริษัททำนองนี้จะมีต่างชาติถือหุ้นเกินร้อยละ 25 ไม่ได้ แต่วันหนึ่งเมื่อเจ้าของบริษัทจะขายหุ้นให้ต่างชาติ จึงดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 49 เมื่อสภาผ่านกฎหมายแล้ววันรุ่งขึ้นก็ขายหุ้นนั้นให้ต่างชาติไปทั้งหมด ได้กำไรมหาศาล
2.บริษัทโทรคมนาคมของนายกรัฐมนตรี ไปใช้โครงข่ายของรัฐวิสาหกิจ จึงต้องจ่ายเงินให้รัฐวิสาหกิจนั้นเป็นจำนวนเงินมหาศาล ในขณะที่บริษัทคู่แข่งไม่ต้องจ่ายเพราะเขาเป็นเจ้าของโครงข่ายเอง นายกรัฐมนตรีจึงดำเนินการแก้ไขกฎหมายเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตจากทุกบริษัท สำหรับบริษัทของนายกรัฐมนตรีนั้นให้ยกเลิกเงินที่ต้องจ่ายให้แก่รัฐวิสาหกิจแล้วมาเสียภาษีสรรพสามิตแทน
ฟังดูเหมือนไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ที่แท้ได้ประโยชน์มากมาย เพราะสามารถผลักภาระภาษีไปยังผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันคู่แข่งซึ่งไม่เคยต้องจ่ายก็เลยต้องจ่ายภาษี เท่ากับต้องจ่ายเงินเช่นเดียวกับบริษัทของนายกรัฐมนตรี
3.นายกรัฐมนตรีให้ภรรยาไปซื้อที่ดินจากกระทรวงการคลัง ในราคาที่ไม่มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม และโดยที่ภาษีในการโอนจะสูงขึ้นในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งจะมาถึงในเวลาอีกไม่กี่วัน ถ้าไม่สามารถโอนได้ภายในเวลาก่อนสิ้นปี ก็จะต้องเสียภาษีในอัตราใหม่ แต่การโอนจะทำได้อย่างเร็วที่สุดก็คือวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันหยุดงานประจำปีของประเทศ เหมือนกับประเทศอื่นๆ
ด้วยเหตุนี้นายกรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 31 ธันวาคมเป็นวันทำงาน เพื่อจะได้สามารถไปโอนก่อนวันที่ 1 มกราคมได้ ซึ่งภรรยานายกรัฐมนตรีก็ได้ไปดำเนินการโอนที่ดินในวันที่ 31 ธันวาคมนั้นเอง
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน