จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ในสัปดาห์นี้ขอนำประเด็นอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ที่รัฐบาลได้อนุมัติร่างพระราชกฤษฏีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่...) พ.ศ. .... เพื่อปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 โดยกำหนดให้มีผลใช้บังคับสำหรับการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 มาปุจฉา- วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา ตามที่คอลัมน์ “ไขปัญหาภาษี” เรื่องการหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอัตราใหม่ โดยระบุว่าสามารถนำอัตราภาษีดังกล่าว ไปปรับใช้ได้เลยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายภายในวันที่ 7 ธันวาคม 2556 แต่ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายกรมสรรพากร รวมทั้งที่ปรึกษากฎหมายบริษัท ก็ให้ความเห็นตรงกันว่ายังไม่ให้หักตามกฎหมายใหม่ เพราะพระราชกฤษฎีกาฯ ยังไม่ออก ตอนนี้มีปัญหาว่าจะต้องยื่นแบบในเดือนพฤศจิกายนแล้ว และผู้บริหารไม่ยอมจะให้หักตามกฎหมายใหม่นั้นต้องทำอย่างไรคะ ช่วยตอบให้ด่วนนะคะ
วิสัชนา เกี่ยวกับการใช้บังคับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามร่างพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าว ผมมีความเห็นดังนี้
1.โดยทั่วไป กฎหมายมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บางฉบับในส่วนที่กฎหมายเป็นคุณ ก็ให้มีผลใช้บังคับย้อนหลังได้
2.ตามเจตนารมณ์ในการตราพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ที่ ครม. มีมติอนุมัติตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ก็เพื่อลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 เป็นเวลาสองปี เพื่อจักได้มีเวลาแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร และใช้บังคับเป็นการถาวรสืบไป จึงกำหนดให้ลดเป็นการชั่วคราวดังกล่าว เนื่องจากตามธรรมเนียมในการแก้ไขอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ต้องตราเป็นกฎหมายพระราชบัญญัติหรือพระราชกำหนด แม่บทเพื่อแทนที่กฎหมายเดิมทุกขั้นเงินได้ ซึ่งเป็นการง่ายที่จะอธิบาย แต่ครั้งนี้ การแก้กฎหมายแม่บท คือ ประมวลรัษฎากรเป็นไปได้ยากลำบากดังที่ปรากฏ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว
3.การลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาดังกล่าว มีผลใช้ย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2556 จึงเป็นกฎหมายที่เป็นคุณต่อผู้เสียภาษี ดังนั้นจะช้าจะเร็วก็ต้องใช้อัตราใหม่เพื่อการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี พ.ศ. 2556 อย่างแน่นอน
4.เกี่ยวกับการคำนวณหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ ที่จ่าย โดยเฉพาะกรณีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร นั้น ตามเจตนารมณ์ เพื่อให้ยอดเงินภาษีที่หักรวมทั้งปีเท่าจำนวนภาษีที่จะต้องเสียทั้งปี
ดังนั้น การนำอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาฯ มาปรับใช้สำหรับการคำนวณภาษีเงินได้สำหรับปีภาษี พ.ศ. 2556 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หรืออย่างช้าเดือนธันวาคม ย่อมเป็นกรณีที่สมเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง จึงสามารถนำมาปรับใช้ได้ทันที
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน